ประยุทธ์ขอพรหลวงพ่อโสธร

"บิ๊กตู่" ลงพื้นที่้ จ.ฉะเชิงเทรา เปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ พร้อมเข้าสักการะหลวงพ่อโสธร   ขอพรให้สำเร็จทุกประการ แฟนคลับแห่ต้อนรับ เผยคิวนายกฯ 11 มี.ค.ไป "สงขลา-ยะลา" 13 มี.ค.เยือน จ.ราชบุรี "พปชร." ผวา! พายุภาคเหนือเลื่อนปราศรัย จ.เชียงราย 12 มี.ค. "เศรษฐา" ทิ้งมาดนักธุรกิจ นั่งรถอีแต๊กจับเข่าคุย-ล้อมวงกินข้าว รับฟังปัญหาชาวนากลางทุ่งผักไห่ จ.อยุธยา "แรมโบ้" หยัน 310 ส.ส.แลนด์สไลด์เพื่อไทยแค่ในฝัน วิชามารโผล่ หลายจังหวัดทำลายป้ายหาเสียงผู้สมัครส.ส.

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 10 มี.ค. เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

พล.อ.ประยุทธ์แถลงหลังการประชุมว่า ในการประชุมครั้งนี้มีการหารือถึงการจัดสรรที่ดินและแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับประชาชน  เพราะหลายคนยังไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ต้องทำให้ถูกวิธี

 "ปัญหาในพื้นที่อุทยานอะไรต่างๆ มีมายาวนาน แต่รัฐบาลนี้พยายามแก้ไขให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดปัญหาในวันข้างหน้า ซึ่งในที่ประชุมผมยังได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามข้อกฎหมาย เพราะเรามีกฎหมายอยู่แล้ว และต้องเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว            

ถามว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการอำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาตั้งข้อสังเกตว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ไปแจกที่ดินใน จ.สุพรรณบุรี เป็นการหาเสียง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล รัฐบาลทำงานอยู่ให้กับประชาชน เพราะวันนี้ยังมีรัฐบาลอยู่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะหาเสียงกันอย่างไรก็ตาม แต่วันนี้รัฐบาลยังคงต้องทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบอยู่ ขอให้เข้าใจกันบ้าง

ซักว่า ได้มีการเคลียร์ใจกับ น.ส.กัญจนาในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คุยกันอยู่ สนิทกันอยู่แล้ว เป็นเพื่อนกัน เข้าใจกันหมดไม่มีปัญหา 

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. ช.พัน. 2 รอ. ค่ายศรีโสธร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา

โดยเวลา 15.20 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ  ทะเบียน กข 1 ฉะเชิงเทรา ถึงวัดโสธรวรารามวรวิหาร มีนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.เขต 2 ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ฉะเชิงเทรา พรรค รทสช. และนายมติชน ชูทับทิม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรค รทสช. มารอต้อนรับ

บิ๊กตู่ไหว้หลวงพ่อโสธร

ทันทีที่ลงจากรถ พล.อ.ประยุทธ์ได้โบกมือทักทายประชาชน พร้อมรับพวงมาลัยดอกมะลิ ขณะที่ประชาชนให้กำลังใจนายกฯ จากการรักษามืออักเสบให้หายไวๆ สุขภาพแข็งแรง นายกฯ สู้ๆ และให้มาเป็นนายกฯ อีก โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มือยังเจ็บอยู่ พร้อมชูมือให้ประชาชนดู ซึ่งมือด้านขวายังใส่เฝือกอ่อน ส่วนมือซ้ายใส่ที่พยุงข้อมือ เพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณที่มีรอยจากการถอดท่อใส่ยาฆ่าเชื้อออก เป็นที่น่าสังเกตว่ามือด้านขวานายกฯ มีอาการบวมลดลง

จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา (YEC Chachoengsao : Young Entrepreneur Chamber of Commerce) ที่มาต้อนรับ ก่อนเข้าไปสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธรและกราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์

ทั้งนี้ เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหารได้เจริญพระพุทธมนต์และให้ศีลให้พรแก่นายกรัฐมนตรีและคณะที่ร่วมเดินทางมา และได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธรจำลองปี 2566 รุ่น 1 ขนาดหน้าตัก 7 นิ้ว และเหรียญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากน้ำ ปีที่ 250 พ.ศ.2563 รุ่น 10

พล.อ.ประยุทธ์ได้แนะนำรัฐมนตรีและคณะที่ร่วมเดินทาง รวมทั้งได้ฝากฝังนายสุชาติซึ่งดูแลพื้นที่อยู่ และก่อนออกจากพระอุโบสถ พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าไปทักทายและร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับบรรดาแฟนคลับที่เดินทางมารอต้อนรับ โดยแฟนคลับกล่าวว่า ขอให้ลุงตู่อยู่ต่อ  ทำต่อ ทำเพื่อประเทศชาติ พวกเราจะคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ และได้อธิษฐานกับหลวงพ่อให้ลุงตู่ได้กลับมา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้ยิ้มรับและกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ

"ได้ขออธิษฐานกับหลวงพ่อ ขอให้สำเร็จในทุกประการ และขอให้ทุกคนที่มาขอพรในวันนี้และครอบครัวประสบความสำเร็จทุกคน และขอให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน นึกถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความรักความสามัคคี บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเราก็จะพัฒนาทุกอย่างต่อไปได้" พล.อ.ประยุทธ์บอกกับประชาชน

จากนั้นกลุ่มแฟนคลับได้บอก พล.อ.ประยุทธ์ว่า รักทุกคนในพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกคนเป็นคนดี พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า นายกฯ รักทุกคนมากกว่า รักด้วยใจ ต้องขอบคุณทุกคนที่หวังดีกับประเทศชาติ เชื่อว่าสิ่งดีๆ จะกลับมาหาทุกคน ขอให้ทุกคนโชคดี คิดดีทำดีนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายสุชาติได้ทำหน้าที่เป็นช่างภาพถ่ายรูปให้กับนายกฯ และบรรดาแฟนคลับ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ได้กระเซ้าว่าฝากคนนี้ไว้ด้วย ทำได้ทุกหน้าที่

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ก่อนนายกฯ เดินทางถึงวัดโสธรวรารามวรวิหาร นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชี​รายชื่อ​ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และสมาชิกพรรค จ.ฉะเชิงเทรา มาสักการะหลวงพ่อโสธร

"ผมไม่ได้มาตัดหน้านายกฯ แต่เป็นการมาลงพื้นที่ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ตามมาเอง เพราะผมมาตั้งตัวแทนสาขาพรรค" นายมงคลกิตติ์ระบุ

ต่อมาเวลา 16.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 บริเวณองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา

คิวนายกฯ ลงพื้นที่อื้อ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณและกล่าวคำว่าสวัสดีชาว จ.ฉะเชิงเทราที่รักทุกคน วันนี้เป็นอีกโอกาสที่ได้มาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ แต่ใจมาตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะเคยรับราชการอยู่ในพื้นที่และรับผิดชอบในพื้นที่นี้ในชีวิตการเป็นทหาร ยินดีที่ได้มาเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ และมาพบกับพวกเรา ถือเป็นการมาเป็นทางการครั้งที่ 3 ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี

  "วันนี้ได้มาพบอีกครั้ง สักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธรที่เป็นที่เคารพ ซึ่งวันนี้อยากจะบอกซ้ำอีกครั้งว่า ดีใจ แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่มีความสุขที่ได้มาเห็นรอยยิ้มของท่าน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้บอกว่าได้มีการพัฒนาจังหวัดไปมากน้อยเพียงใด ซึ่งรัฐบาลพยายามเต็มที่ ผมเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ มีคนดูแลประมาณ 70 ล้านคน ต้องดูแลให้มีความสุขให้ได้ ซึ่งตลอดที่ผ่านมาดูแลทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ช่วงท้ายนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ร้อนจนพูดไม่ออก ต้องขอโทษแต่งกายไม่ค่อยเรียบร้อย โดยนายกฯ ได้โชว์มือว่า “ยังเจ็บอยู่” อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณอีกครั้งในน้ำใจไมตรี

จากนั้น นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สินค้าของดีเมืองแปดริ้ว และผลิตภัณฑ์จากการส่งเสริมอาชีพขององค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา    ทั้งนี้ ได้มีประชาชนมาผูกผ้าขาวม้าและร่วมถ่ายรูป นอกจากนี้ ชมรมผู้สูงอายุจังหวัดฉะเชิงเทราเล่นอังกะลุงเพลงขอบคุณมอบให้นายกฯ ด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำสถานที่ปิดประกาศเกี่ยวกับการเลือกตั้งและสถานที่ปิดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2566 โดยหมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ระบุว่า ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งว่า ใครห้าม แล้วใครพูดล่ะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปจะต้องมีการกำชับในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เขารู้อยู่แล้ว วันนี้นายกฯ มาในฐานะนายกฯ ไม่ได้มาหาเสียง ไม่ได้เอาสถาบันมาหาเสียง แล้วเธอไม่ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เลยหรือไร ทุกคนรู้อยู่แล้ว

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกำหนดการตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีว่า ในวันที่ 11 มี.ค. จะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสงขลาและจังหวัดยะลา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการ รวมถึงรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำมาแก้ไขให้ตรงจุดให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง

นอกจากนี้ ในวันที่ 13 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์เตรียมลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรวิถีพุทธ-วิถีความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างวัดกับชุมชน เปลี่ยนพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตร รวมทั้งไปที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง เพื่อตรวจติดตามแนวทางในการพัฒนาอำเภอบ้านโป่งตามโครงการต่างๆ และเข้ากราบสักการะหลวงพ่อใหญ่ชัยมงคลนครดลเรืองโรจน์ นมัสการพระครูนครเขมกิจ เจ้าคณะตำบลนครชุมน์-บ้านม่วง เจ้าอาวาสวัดใหญ่นครชุมน์ สักการะหลวงพ่อพญาแล และเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายรามัญ

เสี่ยนิดกินข้าวกับชาวนา

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงแนวทางการหาเสียงว่า ขณะนี้พรรคได้หารือถึงช่วงเวลาในการเปิดเวทีปราศรัยทั้ง 4 ภาคให้มีความเหมาะสม โดยจะมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ร่วมขึ้นปราศรัย และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในทุกเวทีที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ โดยเริ่มจากเวที จ.เชียงราย วันที่ 12 มี.ค. ต่อด้วยเวทีปราศรัยใหญ่ จ.นราธิวาส วันที่ 17 มี.ค. และในวันที่ 18 มี.ค. ที่ลานคนเมือง กทม. วันที่ 19 มี.ค.ขึ้นเหนือเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ จ.เชียงใหม่ วันที่ 25 มี.ค. เปิดเวทีใหญ่ จ.ขอนแก่นหรือพิษณุโลก และวันที่ 26 มี.ค. เปิดเวทีท้ายเดือน มี.ค.ที่ จ.นครราชสีมา

"พรรคจะมีแผนเปิดเวทีในแต่ละภาคอีกครั้ง เพื่อนำนโยบายไปนำเสนอยังประชาชนแต่ละพื้นที่ รวมถึงนโยบายที่ตรงจุดให้สอดรับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครสามารถนำไปนำเสนอประชาชนในแต่ละเขตของตนเองต่อไป" รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าว

ช่วงค่ำ นายวิรัชให้สัมภาษณ์อีกครั้งระบุว่า จากที่พรรคได้กำหนดแผนเปิดเวทีปราศรัยที่ จ.เชียงราย นำโดย พล.อ.ประวิตร ในวันที่ 12 มี.ค.นั้น ล่าสุดจากการติดตามสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ในขณะนี้ การปราศรัยดังกล่าวจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยามีพายุฤดูร้อนบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย กินพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดเชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ ซึ่งส่งผลให้การทำกิจกรรมปราศรัยไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงระหว่างวันที่ 12-14 มี.ค.2566

ที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ ฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรค พท. ทั้ง 5 เขต ลงพื้นที่พบเกษตรกรชาวนา โดยชาวนาได้สะท้อนปัญหาอยากให้ชีวิตคือกินดีอยู่ดีขึ้น ทั้งเรื่องน้ำเพื่อการเกษตรและปุ๋ยที่มีราคาแพง รวมถึงให้ข้าวมีราคาสูงขึ้นกว่านี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อกิโลกรัม และปัญหาหนี้สินของเกษตรกรด้วย

นายเศรษฐากล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ลงพื้นที่นี้เป็นจังหวัดแรก เพื่อรับฟังความอัดอั้นตันใจของชาวนาในการทำไร่ทำนา ตนทราบว่าปัญหาเยอะเหลือเกิน แต่ 8 ปีที่ผ่านมาเราเชื่อว่าเราอยู่ในหลุมดำของกับดักรายได้ต่ำ ราคาข้าวไม่ดี ผลผลิตไม่ดี และมีปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งมาโดยตลอด

"ปัญหาน้ำท่วมเรามีแผนงานทำฟลัดเวย์หรือพื้นที่กักน้ำเพื่อแบ่งเบาภาระในช่วงน้ำหลาก เรื่องน้ำแล้งนั้นจะต้องมีการขุดบ่อและนำปั๊มน้ำเข้ามาในพื้นที่ ส่วนปัญหาหนี้สินก็เป็นปัญหาใหญ่ที่พรรค พท.ตระหนักดีอยู่ เนื่องจากราคาข้าวที่ผ่านมารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญหรือเปิดตลาดใหม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ทำหน้าที่เซลส์แมนขายของเลย ถ้าพรรค พท.ได้รับความไว้วางใจกรุยทางถนนเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาล เพื่อช่วยกันค้าขายยกระดับราคาสินค้าเกษตร รวมถึงให้ความสำคัญเรื่องระบบสาธารณสุขในการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคด้วย" นายเศรษฐากล่าว

ถามถึงกรณีที่พรรค พท.เคยประสบปัญหาเรื่องนโยบายจำนำข้าว นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องให้ความสำคัญเรื่องเงินสุทธิที่จะเข้ากระเป๋าชาวนา เรื่องการจำนำข้าวเป็นเรื่องของราคาอย่างเดียว  นโยบายของพรรคเป็นนโยบายโดยรวมเพื่อให้ชาวนามีเงินในกระเป๋า หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วจะสูงกว่าเดิมถึง 3 เท่า คงไม่ใช่แค่เรื่องของการจำนำข้าวอย่างเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ของพรรค พท.ครั้งนี้ นายเศรษฐานั่งจับเข่าพูดคุยรับฟังปัญหากับพี่น้องชาวนาบนรถอีแต๊กกลางทุ่งนา และร่วมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับพี่น้องชาวนาอย่างเป็นกันเอง อย่างไรก็ตาม อาหารมื้อนี้เป็นเมนูข้าวแกงและขนมจีนน้ำยา ซึ่งเศรษฐาบอกว่าเป็นกับข้าวถูกปากและอร่อยดี นอกจากนี้ระหว่างนั่งล้อมวงกินข้าว นายเศรษฐายังกล่าวกับชาวบ้านว่า ทานเป็นอย่างเดียว ทำไม่เป็น ไม่เหมือนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ท่านน่ารัก ผมว่าท่านทำกับข้าวเก่งจริงๆ แต่ผมทำไม่เป็นนะครับ

วิชามารโผล่ทำลายป้าย

ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) ประกาศขยับเป้าแลนด์สไลด์เป็น 310 ส.ส.ว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะเมื่อถึงการเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองก็ล้วนมีความคาดหวัง มีการตั้งเป้าหมายจำนวนผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส.เข้าไปทำหน้าที่ในสภา คาดหวังจะจัดตั้งกันเป็นรัฐบาลกันทุกพรรคอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังและการตั้งเป้าหมายนั้นต้องยืนอยู่บนตรรกะเหตุผลและข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของพรรค นโยบายของพรรค พอที่จะสามารถดึงดูดประชาชนให้ตัดสินใจเลือก ส.ส.และพรรคการเมืองนั้นๆ หรือไม่

"แต่สภาพของพรรคเพื่อไทยวันนี้อ่อนเปลี้ยเพลียแรง บรรดาผู้ที่เคยถูกกวาดต้อนเข้าคอกไทยรักไทยมาพลังประชาชน วันนี้ตาสว่าง รู้เช่นเห็นชาติเจ้าของคอกกันดี หลายกลุ่มหลายก๊ก เลิกถูกจูงจมูกปลดแอกออกมาตั้งพรรค ออกมาสังกัดพรรคต่างๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการที่พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายจะกวาด ส.ส.สูงถึง 310 ที่นั่ง จึงเป็นไปไม่ได้เลย” นายเสกสกลกล่าว

เช่นเดียวกับ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงเป้าแลนด์สไลด์ 310 ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยว่า พรรค พท.ก็มีสิทธิวาดฝัน แต่เราต้องยอมรับว่าถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องเผชิญกับความท้าทาย ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ การจัดตั้งรัฐบาลต้องรวมเสียงให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้าจะให้ปลอดภัย ต้องรวมเสียงให้ได้ 270 เสียง

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขต 5 พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีป้ายรณรงค์หาเสียงทั้งของตนและของพรรคถูกทำลายหลายป้ายว่า ขณะนี้พบป้ายรณรงค์หาเสียงถูกทำลายหลาย 10 ป้าย เป็นการโดนกรีด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นป้ายรณรงค์นโยบายพรรคและนโยบายของหัวหน้าพรรค แต่ป้ายที่เป็นรูปของตัวเองนั้นจะโดนเป็นจำนวนน้อย

"ไม่รู้จุดประสงค์ของคนที่ทำลายป้ายว่าเขาคิดอย่างไร ไม่ชอบคนหรือไม่ชอบพรรค แต่ใจจริงแล้วไม่อยากให้ทำ เพราะไม่ใช่เรื่องที่ดี และเท่าที่ทราบก็มีป้ายของพรรคอื่นที่ถูกทำลายเหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะแค่ของชาติไทยพัฒนา ขอฝากบอกคนที่ทำลายป้ายว่าอย่าทำเลย เราตั้งใจเข้ามาทำงานการเมือง เข้ามาช่วยกันเป็นตัวเลือกให้กับประชาชน ขอให้เล่นกันในเกม ผมก็เข้าใจดีว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ผมไม่ได้ซีเรียส แต่อย่างน้อยถ้าไม่ชอบเราก็แค่ไม่เลือกดีกว่า อย่ามาทำลายป้ายกันเลย" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรค ชทพ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อ.นาแก, อ.ปลาปาก, อ.วังยาง และ ต.บ้านผึ้ง, ต.กุรุคุ, ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 นครพนม พรรคเพื่อไทย พร้อมทีมงานเดินทางไปแจ้งความ หลังถูกผู้ไม่หวังดีป่วนทำลายป้ายแนะนำตัว และป้ายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ได้รับความเสียหายหลายจุด

นายณพจน์ศกรกล่าวว่า วันนี้ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กรณีป้ายถูกทำลายและสูญหายใน 3 ท้องที่คือ จุดแรกที่ สภ.หนองฮี อ.ปลาปาก, จุดที่ 2  สภ.พระซอง อ.นาแก และจุดที่ 3  สภ.นาแก ในทั้ง 3 พื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีการทำลายป้ายที่ ต.หนองฮี 6 ป้าย ทุกป้ายพังเสียหายหมด ที่ สภ.พระซองนั้นป้ายหายไป 2 แผ่น และมีป้ายถูกทำลาย 1 แผ่น และที่ สภ.นาแก มีป้ายถูกทำลาย 1 แผ่น

 “ดูตามพฤติการณ์แล้วพบว่าเป็นการเจาะจงและมีเจตนาที่จะทำลายป้ายหาเสียงของพรรค และป้ายแนะนำตัวเองของผมโดยเฉพาะ จึงมาแจ้งความเพื่อให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด" นายณพจน์ศกรกล่าว

ทั้งนี้ ชุดสืบสวน สภ.หนองฮีได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าตลาดชุมชน ต.หนองฮีแล้ว พบว่ามีชาย 2 คน สวมใส่ชุดไอ้โม่งคลุมหน้า ขณะใช้ของมีคมกรีดทำลายป้ายช่วงเวลา 20.00 น. ของวันที่ 7 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งกำลังตรวจสอบเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ 'บิ๊กทิน' กินยาผิด! ยันทหารไม่อยากยึดอำนาจถ้านักการเมืองไม่โกง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ