‘รบ.’ยกทัพแจง พื้นที่ปราจีนบุรี ไร้สารปนเปื้อน

หน่วยงานรัฐประสานเสียง ตรวจสอบพื้นที่ปราจีนบุรีแล้วยังไม่พบสารปนเปื้อน ทั้งในร่างกายประชาชน ดิน และน้ำ การันตีผักและผลไม้ที่ปลูกในพื้นที่มีความปลอดภัย นักเรียนรอบโรงงานหลอมมีไข้-เจ็บคอ 30 คน เร่งตรวจสอบหวั่นเกี่ยว "ซีเซียม-137"

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566   นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   แถลงถึงกรณีที่สารซีเซียม-137 หลุดหายจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนของบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่า นายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับการสอบสวนเรื่องนี้ในทุกมิติ อาทิ วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหายได้อย่างไร สถานที่รับซื้อวัสดุดังกล่าว ตลอดจนต้องมีผู้รับผิดชอบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตรังสีด้วยหรือไม่ และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นายกฯ จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่สอบสวนหาหลักฐานเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ

ด้านนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า มีสิ่งที่เราเป็นห่วงมากที่สุดอันดับแรกคือ เรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานในโรงงานหลอมเหล็กที่มีประมาณ 70 คน โดยการตรวจครั้งแรกเป็นการตรวจภายในและนอกโรงงาน รวมถึงตรวจพนักงานแต่ละคนด้วย ก็ไม่พบว่ามีการปนเปื้อนสารดังกล่าว จากนั้นได้มีการตรวจครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการตรวจภายในร่างกายของพนักงาน โดยตรวจเลือดและปัสสาวะ ผลออกมาเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีสารนี้ปนเปื้อนในร่างกาย จึงขอให้มั่นใจว่าร่างกายพนักงานของโรงงานแห่งนี้ทั้ง 70 คนไม่พบสารดังกล่าว

แต่ด้วยความเป็นห่วงประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงโรงงานว่าจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ เราจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตระเวนออกตรวจสอบสถานที่ ดิน น้ำ อากาศ และสภาพแวดล้อมในพื้นที่ระยะวงรอบ 5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร โดยตรวจวัดหลายครั้งก็ไม่พบการปนเปื้อนสารดังกล่าว

นายรณรงค์กล่าวอีกว่า ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ไปตรวจสอบทั่วพื้นที่ในหมู่บ้านต่างๆ และพื้นที่เกษตรว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ พร้อมกับสอบถามข้อมูลจากเกษตรกรในพื้นที่ด้วย โดยมีสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์อยู่ตลอด ทั้งนี้ เมื่อผลออกมาว่าไม่พบสารซีเซียมปนเปื้อน ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของ ปส. นายอำเภอ และบรรดาผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันรับประทานผักและผลไม้ที่ปลูกในพื้นที่เหล่านี้ เพื่อการันตีว่ามีความปลอดภัยสูงสุด จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนกลับมาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้าในพื้นที่ต่างๆ ของ จ.ปราจีนบุรี

ขณะที่ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงวิไล  ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า พนักงานในโรงงานที่เกิดเหตุได้มีการตรวจร่างกายโดยละเอียดแล้ว ไม่พบการปนเปื้อนรังสีในพนักงานทุกราย ส่วนการตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะของพนักงาน ตรวจไปแล้วครึ่งหนึ่งพบว่าปกติดี และคาดว่าจะปกติทั้งหมด ขณะเดียวกันศูนย์ปฏิบัติส่วนหน้า ที่ตรวจสอบการปนเปื้อนในดิน น้ำ ที่เกี่ยวข้องในบริเวณรอบโรงงาน จำนวน 23 ถุง และมีการตรวจสอบสภาพอากาศรอบโรงงานรัศมี 3-15 กิโลเมตรอย่างต่อเนื่อง พบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติทุกจุด ไม่พบว่ามีการปนเปื้อน

ขณะที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้รายงานระดับรังสีแกมมาประจำวันที่จุดตรวจทั้ง 6 จุดทุกภาคในประเทศ พบว่าอยู่ในระดับปกติทุกจุด ขณะที่ สถานการณ์สูงสุดทางสุขภาพ พบว่าปริมาณรังสีในถุงที่พบหากสัมผัสโดยตรงใช้เวลา 30 ชั่วโมง จะเท่ากับการเอกซเรย์ปอด 1 ครั้ง สรุปว่าปริมาณรังสีที่ตรวจพบนั้นมีอยู่ แต่มีไม่มากนัก และอยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้

ด้านนายพงษ์แพทย์ เพ่งวาณิชย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ฯ ได้ทำการประเมินปริมาณรังสีที่จะมีผลต่อประชาชนได้ โดยใช้หลักวิชาการในการคำนวณและประเมินปริมาณ รวมถึงใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองการกระจายตัวของสารดังกล่าว พร้อมกับได้นำเครื่องมือวัดรังสีเข้าไปตรวจสอบปริมาณรังสีในพื้นที่เก็บสาร พบว่าปริมาณรังสีบริเวณโรงงานหรือห่างออกมาจากจุดเก็บนั้นไม่สูงกว่าปริมาณรังสีในธรรมชาติ

วันเดียวกันนี้ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากคณะครูโรงเรียนบ้านโคกกระท้อน หมู่ 10 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี สังกัด สพป.ปราจีนบุรี เขต 2 ที่เปิดทำสารสอนในระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมีพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานหลอมเหล็กที่พบซีเซียม-137 ใน ต.หาดนางแก้ว ห่างจากโรงงานนี้ประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) พบว่ามีนักเรียนทั้งชายหญิงหลายราย มีอาการเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ ตัวร้อน และบางรายไม่สามารถเดินทางมาโรงเรียนได้แล้วเนื่องจากมีไข้สูง

หลังจากรับแจ้งทางแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลกบินทร์บุรีได้ลงไปในพื้นที่ พร้อมทำการตรวจวัดไข้จากนักเรียนในโรงเรียนเป็นการด่วน และจากการตรวจพบว่าเด็กมีอาการไข้เจ็บคอมาแล้วหลายวัน บางรายเริ่มมีอาการตาแดง ทางแพทย์ได้ทำการรักษาพร้อมจ่ายยาเบื้องต้นไปก่อน

นายสงคราม ศรีสวัสดิ์ ประธานกลุ่มพื้นที่สุขภาพอำเภอกบินทร์บุรี กล่าวว่า ส่วนใหญ่จะเป็นอาการในระบบทางเดินหายใจ ไข้ก็มีบ้าง มีไข้สูงมากเป็นบางคน มีไอ มีน้ำมูก เบื้องต้นเด็กที่ได้รับรายงานมีประมาณกว่า 30 ราย อยู่ในทุกๆ ชั้นของโรงเรียนบ้านโคกกระท้อน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดซึ่งเป็นต้นสังกัดได้รับแจ้งก็รีบลงมาประเมินอาการเบื้องต้น ถ้าใครมีอาการหนักก็จะแจ้งแพทย์โรงพยาบาลกบินทร์บุรี

หลังจากเด็กนักเรียนป่วยเป็นจำนวนมาก ทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้นำเครื่องเก็บตัวอย่างในอากาศไปทำการติดตั้งในบริเวณโรงเรียนนานประมาณ 1 ชม. ก่อนนำกระดาษกรองด้านในเครื่องไปทำการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบว่ามีการปนเปื้อนของวัสดุกัมมันตรังสี-137 หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง