ซัดขาดสติพ่นสีวัดพระแก้ว

นายกฯ ซัดฝีมือมนุษย์พวกขาดสติ-ขาดสามัญสำนึก พ่น "กำแพงวัดพระแก้ว" ถามกลับใครพ่นหน้าบ้านตัวเองยอมไหม ด้าน "ชนะศักดิ์" ตอก "เตี้ยหลังม็อบ" อย่าให้ท้ายคนทำผิด ม.112 สักวันจะถึงคิว ขณะที่   "เทพมนตรี" ฟาดพวกอยากสร้างประวัติศาสตร์โดยเอาความชั่วช้าต่ำตมนำ

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ  รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เหตุการณ์พ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เพื่อแสดงออกถึงการยกเลิกมาตรา 112 ว่า ได้ย้ำและสั่งการไปแล้วกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ทั้งนั้นนั่นแหละ แล้วมนุษย์บางคนก็ขาดสติ เข้าใจกันหรือยัง และบางอย่างก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเฝ้าทั้งหมด แต่คนเรามันต้องมีสำนึก ไม่เช่นนั้นตำรวจเขาก็ต้องวางเรียงรายทางทั้งหมด ถ้าประชาชนคนในชาติไม่รัก ไม่สามัคคีกัน มันทำอะไรเขาไม่ได้หรอก มันก็จะแย่ไปเรื่อยๆ ถ้าปล่อยปละละเลย ซึ่งทางตำรวจเองก็พยายามใช้กฎหมาย อย่างระมัดระวังที่สุด

"ใช้มากไปก็จะหาว่ารังแกประชาชน ใช้น้อยไปก็หาว่าไม่เด็ดขาด แล้วจะให้ทำอย่างไรล่ะ สื่อก็ต้องช่วยกัน มันควรหรือไม่ที่ไปทำอย่างนั้น ถ้าใครไปพ่นหน้าบ้านตัวเองยอมไหม ถ้าเราไม่ยอมก็ต้องไปเตือนพวกเขาเหล่านั้นสิ ไม่ใช่เสนอข่าวว่าไอ้นี่ไปทำโน่น ไอ้โน่นไปทำนี่ ไอ้นี่ขัดแย้งกันอย่างนี้ หรือไอ้นี่ไปขัดแย้งกับทางนั้น มันก็อยู่กันอย่างนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก แก้กันให้ตาย กี่นายกฯ ก็ทำกันไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

ด้านนายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กลักษณะปกป้องแนวร่วม 3 นิ้วพ่นสีสเปรย์กำแพงวัดพระแก้ว ว่าไม่แน่ใจว่า นางอมรัตน์ใช้สมองส่วนไหนคิด และเป็นคนประเภทไหน ถึงได้โพสต์แบบนี้ออกมา

"การพ่นสีที่กำแพงวัดพระแก้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่กลับไปสนับสนุน เป็นการบ่งบอกว่าแนวคิดที่ประชาชนคนไทยรับไม่ได้ คนที่ไปทำชั่วช้ามาก ยังจะกล้ามาให้ท้ายสนับสนุนคนทำผิดกฎหมายอีก"

เขากล่าวว่า ไม่ต้องเอามาอ้างว่าไม่มีพื้นที่ให้แสดงออก เพราะรัฐบาลไม่เคยห้าม แต่จะต้องเป็นการแสดงออกที่สร้างสรรค์ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่น กรณีกลุ่ม 3 นิ้ว กลุ่มทะลุฟ้า ที่โดนคดี ม.112 เพราะคิดก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบัน

"อย่าเอาเรื่องการจุดเทียนมาเปรียบเทียบ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ระหว่างความศรัทธา ความจงรักภักดีของประชาชน กับการทำผิดกฎหมาย และการที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับคนพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว อยากถามว่านางอมรัตน์เป็นคนประเภทไหนถึงมีความคิดด้านลบ เห็นผิดเป็นชอบอยู่ตลอดเวลา อย่าให้ท้ายคนที่ทำผิด 112 และชอบเอาตำแหน่ง ส.ส.ไปประกันตัว ระวังสักวันหนึ่งอาจจะถึงคิวของนางอมรัตน์ เตี้ยหลังม็อบ อาจจะคอตกเดินเข้าคุกในคดีความผิด ม.112 บ้างใครจะไปรู้" นายชนะศักดิ์กล่าว

ขณะที่นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า   ข้ออ้างเลอะเทอะ อ้างว่าไม่มีพื้นที่ปลอดภัยที่จะพูด ผมก็อยากจะถามว่าจะใช้พื้นที่พูดเรื่องอะไร อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว อะไรเป็นเรื่องส่วนรวม ถ้าแยกประเด็นเรื่องนี้ไม่ได้ สังคมคงปั่นป่วน ถ้าปล่อยให้คนพวกนี้ปลดปล่อยตัณหาราคะร่านในกมลสันดาน

เราท้าดีเบตกับคนเหล่านี้มากมาย แต่ก็ไม่มีใครกล้า เอาจริงๆ ธนาธร ปิยบุตร ช่อ หรือแม้แต่พิธา ถ้าเราท้าดีเบตกันก็ไม่กล้าออกมา ท้ากันมาเป็นปีก็เงียบกริบ ถนัดแดกคนอื่นแต่ฝ่ายเดียว

เมื่อไม่กล้าจะเอาพื้นที่ปลอดภัยที่วิจารณ์เรื่องส่วนตัวผู้อื่นเพื่ออะไร ในเมื่อศาสดาของพวกนี้ยังไม่กล้าเลย         ความหมายของคนพวกนี้อยากจะวิจารณ์สาดเสียเทเสียกันมากกว่า ทั้งๆ ที่บางเรื่องมันเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งคนเรียกร้องเองนั่นแหละก็คงไม่ยอมเปิดเผยความจริงในเรื่องตนเอง แต่ชอบเสือกเรื่องคนอื่น ซึ่งไม่ใช่สังคมของผู้ที่เจริญแล้ว

เราเอาคนพวกไหนเป็นแบบอย่างเป็นตัวอย่างทางจริยธรรมได้ แต่ก็คงไม่ใช่คนที่เห็นแก่ตัวอย่างแน่นอน หรือพวกที่ชอบสร้างประวัติศาสตร์ตัวตนโดยเอาความชั่วช้าต่ำตมนำ ทำหน้าที่ปวงชนชาวไทยกันบ้าง ถ้าไม่ทราบ ไปอ่านรัฐธรรมนูญครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง