แม้วกลับไม่เกี่ยวพท. อิ๊งค์ผวาเสียงหายโร่แจง แฉสกัดปชป.ปัดเทงบใต้

"บิ๊กตู่" ลาราชการนำทัพเขย่าหนักสายใต้ เหยียบถิ่นสุราษฎร์ฯ  เมืองคนดี หยอดคนใต้รักจริงไม่ทิ้งขว้างใคร ต้องสู้ไปด้วยกันเพื่อบ้านเมืองของเรา วอนชาวบ้านอย่าให้ใครมาปลุกให้เกลียดชังประเทศตัวเอง "พปชร." โค้งสุดท้ายผุดลุงป้อมพาไปหาหมอ เอายาไปส่ง "อุ๊งอิ๊ง" ปัด "ทักษิณ" ไม่เกี่ยวเพื่อไทย  แค่คนจากบ้านเกิด 17 ปีอยากกลับมาเลี้ยงหลาน ลั่นพร้อมมากช่วยพรรคหาเสียง 12 พ.ค. ชัดเจน พท.ไม่เอาพรรค 2 ลุง "ชวน" กรีดบางพรรคมีอคติไม่เทงบลงภาคใต้ เหตุ ปชช.เลือกประชาธิปัตย์    "นิด้าโพล" ก้าวไกลทะยานต่อเนื่อง ้อมขอพรสุร

เมื่อวันพุธ เวลา 09.00 น. วันที่  หาหมอ ่อไทยแน่นไม่ต้อนรับพรรคืองดีๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) สวมเสื้อพรรคเบอร์ 22 ลาราชการ เพื่อลงพื้นที่หาเสียงจังหวัดสุราษฎร์ธานี  พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค  หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค, นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค, นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค และคณะ ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน WE 251 สายการบิน Thai Smile ไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี

เวลา 10.45 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะถึงที่อำเภอพุนพิน ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบเขตชุมชนเทศบาลเมืองท่าข้าม ช่วยนายพันธ์ศักดิ์ บุญแทน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ซึ่งระหว่างทางมีประชาชนมอบพวงมาลัยดอกไม้ให้กำลังใจ มอบสะตอ และขอถ่ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์เป็นระยะ 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวช่วงหนึ่งว่า วันนี้มาเยี่ยมเยือน ขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนผู้สมัครของพรรค ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติยินดีรับหน้าที่ดูแลคนไทยให้มีความสุข ถ้าเราได้คะแนนเสียงมากก็จะมีบทบาทมากขึ้นในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสภา เพราะบางอย่างเป็นบทบาทในประชาธิปไตย ขอบคุณมากๆ คิดถึงจังฮู้ ทุกคนคือคะแนนเสียงทำให้ประเทศไทยเดินหน้าได้ ขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติ 1 เสียง 1 สิทธิ์ อย่าทิ้งสิทธิ์ทุกคน และตนเองไม่ต้องการให้มีความแตกแยก ขัดข้องหมองใจกับใครทั้งสิ้น 

หยอดคนใต้ไม่ทิ้งขว้าง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น คนเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย เลือกตั้งด้วยความสงบเรียบร้อย ถ้าสงบคือเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ สงบแน่นอน เราไม่ขัดแย้งกับใคร ทำอะไรต้องยั่งยืน ถ้าไม่ยั่งยืนก็จะทะเลาะกันอีก ทุกคนต้องร่วมมือกันทำเพื่อชาติบ้านเมือง ตนไม่รังเกียจใคร ไม่ขัดแย้งกับใคร ขอบคุณทุกคน หวังว่าทุกคนคงเข้าใจว่าเจตนารมณ์ตนคืออะไร ต้องการให้ทุกอย่างดีขึ้น ประเทศก็สงบเรียบร้อยมาหลายปี ทุกคนเป็นคนกำหนดชะตาบ้านเมือง ไม่ใช่ตนคนเดียว 

"คนใต้จริงใจ รักใครรักจริงใช่ไหม รักใครไม่ทิ้งขว้าง ผมรักทุกคน ต้องสู้ไปด้วยกันเพื่อบ้านเมืองของเรา เราต้องการรัฐบาลที่ทำตามระบบระเบียบที่ดีขึ้น ไม่ใช่พูดปากเปล่า มันทำไม่ได้หรอก ขอฝากหัวใจไว้กับพวกเราทุกคน วันเลือกตั้งออกมาให้หมด ออกมาใช้สิทธิ์ เราคือคนกำหนดชะตาของบ้านเมือง ผมพูดจนเจ็บท้อง แต่ไม่เคยท้อแท้ ขอฝากหัวใจของผมไว้ด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ อ.เวียงสระ  พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะผู้บริหารพรรค  ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชน โดยแวะไปที่สถานีรถไฟบ้านส้อง ต.บ้านส้อง เขตเทศบาลเมืองเวียงสระ เพื่อให้กำลังใจนายฐิติพงศ์ พิริพล นายสถานีรถไฟบ้านส้อง ที่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยหญิงสูงอายุที่พิการทางการได้ยินและเป็นใบ้ เดินข้ามตัดหน้าขบวนรถไฟ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจในการทำความดีเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมขอให้ช่วยกันทำความดีต่อไป
ขณะที่เวลา 15.17 น. ที่บริเวณเขตชุมชนเทศบาลกาญจนดิษฐ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยด้วยความคึกคัก ประชาชนตะโกนเชียร์เบอร์ 22 นายกฯ คนต่อไป ลุงตู่สู้ๆ โดย พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ขอให้รักสามัคคี นี้คือคนไทยทั้งหมด คือแผ่นดินไทยของพวกเรา ขอให้ช่วยกันรักษาไว้ ไม่ขัดแย้ง ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เราทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว ถ้าวุ่นวายอีกทีก็เลิกหมด ประเทศไทยไปหมด นะจ๊ะ รักทุกคนนะจ๊ะ

"ขอร้องการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคนต้องออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง เพราะนี่คืออำนาจของพวกเราตามระบอบประชาธิปไตย บัตรประชาชนต้องดูแลให้ดี ผมไม่ใช่คู่ขัดแย้งใคร ต้องช่วยให้รวมไทยสร้างชาติเข้าสภาให้มากที่สุด ขอบคุณที่ให้ความรักระหว่างกัน ลูกหลานต้องตั้งใจเรียนหนังสือ รักษาตัวให้ดี อย่าให้ใครมาปลุกให้เกลียดชังประเทศตัวเอง เกลียดชังกันเองไม่ได้อีกแล้ว ประเทศไทยพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้หวังผลอย่างอื่น ซื่อตรง ซื่อสัตย์ ขอฝากพี่ตู่หรือลุงตู่ของพวกเราด้วยนะ ขอให้ชาวกาญจนดิษฐ์เลือกเบอร์ 2 เบอร์ 22" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

ต่อมาเวลา 16.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ลงจากรถหาเสียงเพื่อเข้าสักการะศาลหลักเมือง พร้อมกล่าวขอพรว่า ขอประเทศชาติเจริญเติบโตก้าวหน้า ขอให้การทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองสำเร็จทุกประการ ประเทศชาติและประชาชนเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ปิดทองที่องค์พระหลักเมืองและผูกผ้าแพรที่องค์พระหลักเมืองจำลองทั้ง 4 ด้าน และตีฆ้อง พร้อมกล่าวว่า ขอให้สำเร็จทุกประการ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งนี้ บริเวณศาลหลักเมืองได้มีประชาชนมารอต้อนรับ โดยมอบดอกไม้ ขอถ่ายรูป ขอลายเซ็นและสวมกอดให้กำลังใจด้วย

ผุดลุงป้อมพาไปหมอ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ วันเดียวกันนี้ เพจของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการเผยแพร่คลิปที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทย ด้วยนโยบาย "ลุงป้อมพาหมอไปหา  เอายาไปส่ง"

มีเนื้อหาระบุว่า "จะหาหมอทั้งทีต้องเดินทาง ต้องรอคิว เข้าถึงการรักษายากลำบาก แต่วันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะพรรคพลังประชารัฐจะนำระบบ Telelmed หรือการแพทย์ทางไกลมาใช้ โดยจะทำให้ไม่ว่าประชาชนอยู่ที่ไหน ก็สามารถพบแพทย์ได้ ซึ่งนโยบายนี้คือสิ่งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้เกิดขึ้นทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศภายหลังการเลือกตั้ง โดยคนไทยทุกคนจะต้องมีสุขภาพที่ดี ด้วยเทคโนโลยีสาธารณสุขใหม่ ไม่ว่าอยู่ไกลแค่ไหน คนไทยก็ใกล้หมอกว่าที่เคย"

พล.อ.ประวิตรได้กล่าวว่า จากนี้ไปไม่ว่าจะพบแพทย์จ่ายยา หรือดูแลรักษา  จะสามารถเข้าถึงที่บ้านของคนไทยทั่วประเทศ แม้ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ได้ใกล้ชิดหมอมากกว่าเดิม พรรคพลังประชารัฐจะใช้เทคโนโลยีทางไกลเชื่อมต่อทุกบริการทางการแพทย์ คนไทยจะใกล้หมอแค่ปลายนิ้ว เจ็บป่วยจะจัดการได้ด้วยโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี แถลงข่าวการคลอดบุตรชายคนที่ 2 ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ โดยก่อนการแถลงข่าว น.ส.แพทองธาร นายปิฎก พร้อมด้วย คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ได้นำ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ ที่อยู่ในตู้อบมาให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพ ก่อนนั่งแถลงข่าว 

โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การคลอดครั้งนี้ตั้งใจคลอดธรรมชาติ เจ็บท้องตั้งแต่กลางดึกวันที่ 29 เม.ย. และมาโรงพยาบาล แต่ยังไม่สามารถคลอดได้เพราะปากมดลูกยังไม่เปิด และน้องมีภาวะกราฟหัวใจดร็อป คุณหมอจึงแนะนำว่าผ่าคลอดจะปลอดภัยที่สุด โดยดำเนินการผ่าคลอดตอน 06.00 น. วันที่ 1 พ.ค. ทั้งคุณแม่และลูกปลอดภัยดี โดยไม่ได้ดูฤกษ์ดูยามอะไร เมื่อตัดสินใจก็ดำเนินการผ่าเลย เพราะเวลาทำอะไรก็ไม่ได้ดูฤกษ์ แต่ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งถือเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด                    

น.ส.แพทองธารระบุว่า เป็นคนกลัวการผ่าตัด แต่เมื่อได้ยินเสียงน้องก็น้ำตาไหลทั้งสองข้าง ดีใจที่แข็งแรงปลอดภัย ส่วนที่มาของชื่อพฤจ์ธาษิณนั้น เป็นชื่อที่ตนตั้งขึ้นเอง ให้มี จ์ ที่เหมือนคุณยาย และธาษิณ เหมือนคุณตา เพราะไม่ได้ซีเรียสเรื่องความหมาย แต่อยากให้มีความผูกพันกับคนในบ้านเป็นหลัก เพราะฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น ส่วนจะพาน้องธาษิณไปพบนายทักษิณเมื่อไหร่นั้น คุณยายบอกว่าถ้าให้ดีก็รอ 4-5 เดือนก่อน 

ลั่นทักษิณไม่เกี่ยวเพื่อไทย

เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กอยากกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อตื่นเต้นมาก หวังอยากเห็นโมเมนต์หน้าห้องคลอดในวันแรกที่เกิด แต่ไม่ได้ ไม่เป็นไร ตอนคลอดลูกคนแรกเคยคิดวางแผนไปคลอดต่างประเทศเพื่อให้คุณตาได้มาเห็น แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสาร

"ส่วนคุณพ่อจะกลับมาเมื่อไหร่นั้น ท่านพูดหลายโอกาส ถือเป็นโอกาสที่น่าหวังมากกว่า เมื่อมีหลานคนใหม่เกิดมาเขาก็อยากกลับ เขามีความหวัง แต่สิ่งที่พูดมีเอฟเฟกต์ทางการเมือง แต่ในมุมของครอบครัวไม่ผิดที่จะหวังเช่นนั้น โดยเฉพาะในวันที่บ้านเมืองดีๆ ส่วนความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเมื่อไหร่นั้นไม่ได้คุยกับคุณพ่อ สิ่งที่ตนคุยกับคุณพ่อทุกวัน เป็นเรื่องลูก เรื่องกลับมาวันไหนเมื่อไหร่ไม่ได้คุย ท่านมีการวางแผนชีวิตของท่านเอง" น.ส.แพทองธารระบุ

เมื่อถามว่า การออกมาของนายทักษิณ จะกระทบกับคะแนนเสียงหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การที่นายทักษิณจะกลับบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย หรือกระทบกับสิ่งที่ตนกำลังหาเสียงอยู่ แต่ยอมรับมันแยกยาก เพราะนายทักษิณก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ตนก็เป็นลูก ไม่สามารถตัดขาดได้ แต่สิ่งที่นายทักษิณพูดคืออยากกลับมาเลี้ยงหลาน ไม่เคยบอกอยากกลับมาเป็นนายกฯ ความจริงไม่เกี่ยวกันเลย แต่คนชอบคิดว่าเกี่ยวกันก็ไม่แปลก

เมื่อถามว่า นายทักษิณจะกลับมาในปีนี้หรืออีกกี่ปี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การที่คนเราไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ถ้าพูดว่าไม่ได้กลับจิตใจจะเป็นอย่างไร ขอให้เข้าใจจิตใจพื้นฐานความเป็นมนุษย์ ที่ต้องมีความหวัง ตนเองดีใจที่ท่านหวังและพูดแบบนี้ เพื่อท่านจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง เวลาพาหลานไปหาท่านก็จะมีพลังเป็นหนึ่งในความหวัง คนที่เชียร์ครอบครัวเราก็เป็นความหวังไปด้วย

อิ๊งค์ลุยส่งท้าย 12 พ.ค.

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะกลับไปเดินสายหาเสียงเมื่อไหร่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า บอกทีมงานไปว่ามีอะไรก็ส่งมา ตนพร้อมมาก โดยจะไปร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี วันที่ 12 พ.ค.แน่นอน

เมื่อถามว่า จะไปร่วมเวทีดีเบตต่างๆหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยินดี ตอนนี้นับถอยหลังเลือกตั้ง ทุกคนทำงานกันหนัก ตนก็ยินดีไปร่วมเวทีดีเบต สำหรับยุทธศาสตร์โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย จะย้ำนโยบายที่ปล่อยไปแล้วเพื่อให้ประชาชนเห็นภาพชัดเพื่อให้คนตัดสินใจ

เมื่อถามว่า บางโพลพรรคก้าวไกลกระแสสูงขึ้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า โพลบางอันเชื่อถือได้และเชื่อถือไม่ได้ ฉะนั้นประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ  อยากให้ดูภาพรวมว่าพรรคไหนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตประชาชนได้จริงๆ เราลำบากมาหลายปีแล้ว เราต้องไม่รอ เราต้องเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยน

"เราต้องเลือกตั้งให้เพื่อไทยชนะถล่มทลาย ไม่อยากให้เหมือนปี 62 ที่เราได้เสียงข้างมากแต่เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งนี้เรามีแคนดิเดตนายกฯ ถึง 3 คน ที่พร้อมจะเป็นนายกฯ ทำเพื่อประชาชน แคนดิเดตทั้ง 3 คน พร้อมเป็นนายกฯ หมด เพราะดิฉันคิดว่าตัวเองก็พร้อมที่จะเป็นนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ก็ประกาศว่าพร้อมเช่นกัน ฉะนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดคือประชาชนเป็นคนเลือก" น.ส.แพทองธารระบุ   

ถามว่า ก่อนหน้านี้นายเศรษฐาเคยระบุว่าได้พูดคุยกับ น.ส.แพทองธารว่าไม่จับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นมติพรรคใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า หากมติที่ถามคือมติกรรมการบริหารพรรคนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีการประชุม แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนทั้งพรรคต้องเห็นพร้อมเพรียงกัน เรื่องนี้ทุกคนในพรรคเพื่อไทยพูดตรงกันมาโดยตลอด

น.ส.แพทองธารระบุว่า สงสัยทำไมถึงยังเป็นกระแส เพราะพรรคคู่แข่งหรือไม่ที่บอกว่าเราไม่ชัดเจน ทุกคนออกไปพูด ก็ยังบอกว่าไม่ชัดเจน คิดว่าเป็นเทคนิคทางการเมือง หลังจากตนเองยืนยันในวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหายสงสัยกันหรือยัง

เมื่อถามถึงกรณีนายศรีสุวรรณ  จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ร้องยุบพรรคเพื่อไทย เรื่องไลน์หลุดโอนเงินให้คนเสื้อแดงช่วยหาเสียง น.ส.แพทองธารกล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องจริง ถ้านายศรีสุวรรณว่าง ก็เชิญ มองว่าเป็นเทคนิคในการหาเสียง ถ้าตนมีเวลาเหมือนคุณศรีสุวรรณ ก็อาจจะฟ้องกลับ

 ที่ จ.ปัตตานี นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ขึ้นรถแห่รอบเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายสนิท นาแว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เบอร์ 8  หาเสียง โดยตอนหนึ่งนายชวนกล่าวว่า เงินใครก็อยากได้ แต่ถ้ามันมาโดยไม่ชอบ เราไม่เอา ตอนเป็นรัฐมนตรีเราก็ไม่เอาเงินราชการ และคืนกลับไปให้รัฐ ทุกวันนี้ยังเช่าบ้านอยู่เดือนละ 5,000 บาท ถ้ารับเงินในตอนนั้นเราก็ซื้อบ้านได้แล้ว เพราะทำการเมืองด้วยความสุจริต ซื่อตรง ทำให้ที่ผ่านมาตัวเองสอบได้มาตลอด

"บางพรรคการเมืองใช้อคติมากลั่นแกล้งประชาชนโดยไม่อนุมัติหลายโครงการในภาคใต้ เพราะประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ สุดท้ายพรรคนั้นก็ไม่ได้เก้าอี้ในภาคใต้ บางพรรคเคยใช้เงินซื้อนักการเมืองของประชาธิปัตย์ไป 5 คน แต่สุดท้ายก็สอบตกทั้งหมด เพราะประชาชนเลือกคนที่ซื่อตรงกับประชาชน" นายชวนกล่าว
โพลก้าวไกลพุ่งทะยาน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายที่เริ่มดุเดือดมากขึ้นว่า เป็นธรรมดาของการหาเสียงเลือกตั้งที่เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เมื่องวดเข้ามาต่างต้องพยายามที่จะทำอย่างไรให้ผู้คนจำเบอร์ให้ได้ จำชื่อให้ได้ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็รู้อย่างนี้จึงได้มีกฎหมายห้ามทำโพลก่อนวันเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้าย เนื่องจากจะมีผล เป็นธรรมดาที่อาจจะดุเดือดรุนแรงหน่อย อย่างไรก็ตาม โพลต่างๆ จะมีส่วนทำให้กระแสเปลี่ยนหรือไม่นั้น เชื่อว่าคงมีส่วน 

 เมื่อถามว่า หากผลเลือกตั้งออกมาคะแนนสูสี แต่เลือกนายกรัฐมนตรีและตั้งรัฐบาลยังไม่ได้ จะเกิดสุญญากาศหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในที่สุดต้องหาทางตั้งให้ได้ เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนด ตามมาตรา 270 ว่าให้ทำอย่างไร ไม่เกิดสุญญากาศแน่ เพียงแต่อาจจะช้าหน่อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อย่างแรกที่จะต้องทำคือเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ค่อยพลิกโผ เมื่อได้ประธานสภาฯ แล้ว จะมีการจับขั้วกัน นั่นค่อยว่ากันอีกที

"นอกจากนี้ หลังปิดหีบเลือกตั้ง กกต.ยังมีเวลาที่จะประกาศผลภายใน 60 วัน ไทม์ไลน์เป็นแบบนี้ แต่ตนตอบไม่ถูกว่าจะได้เห็นรูปร่างหน้าตารัฐบาลใหม่เมื่อไหร่ เพราะผลยังไม่ออก คะแนนยังไม่ได้ อะไรก็ยังไม่รู้เลย และในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าต้องหานายกฯ ได้ภายในกี่วัน แต่ในที่สุดต้องเลือกกันจนได้ ทั้งนี้ แม้จะยังไม่ได้รัฐบาลใหม่ แต่จะไม่เกิดสุญญากาศและไม่เกิดเดดล็อกแน่นอน เพราะในรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ให้รัฐบาลรักษาการทำอะไรได้หลายเรื่อง เช่น ขอใช้งบกลางก็ได้" นายวิษณุระบุ

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “ศึกเลือกตั้ง 2566        ครั้งที่ 3” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 24-28 เมษายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้        ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 3 การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น
 จากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลักของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

 จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 35.44 ระบุว่าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล),  อันดับ 2 ร้อยละ 29.20 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย), อันดับ 3 ร้อยละ 14.84 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ)     

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 2 เดือนเมษายน 2566 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย), คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย), นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์), พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย), นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย), นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) และยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ มีสัดส่วนลดลง

ในขณะผู้ที่ระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล), พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) และนายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น  สำหรับพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.32 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย, อันดับ 2 ร้อยละ 33.96 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล, อันดับ 3 ร้อยละ 12.08 ระบุว่าเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ, อันดับ 4 ร้อยละ 4.28 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 5 ร้อยละ 2.92 ระบุว่าเป็นพรรคภูมิใจไทย

ส่วนพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 37.92 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย, อันดับ 2 ร้อยละ 35.36 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล, อันดับ 3 ร้อยละ 12.84 ระบุว่าเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ, อันดับ 4 ร้อยละ 3.32 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 5 ร้อยละ 2.36 ระบุว่าเป็นพรรคภูมิใจไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุทิน' ยันเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำจีน แต่เป็นความลับ หวั่นเสียอำนาจต่อรอง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำที่มีแนวโน้มจะเดินหน้าต่อ ว่า กา

'บิ๊กทิน' ขวาง 'พิชิต' อย่าชิงลาออก! ให้อยู่พิสูจน์เป็นบรรทัดฐาน

ที่ทําเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สว. 40 คน ยื่นถอดถอนนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนา