แม้วย้ำกลับแน่ก.ค. โยนอุ๊งอิ๊งเฉลยเวลาไหน ‘จเด็จ’ยังฝันรบ.แห่งชาติ

"ทักษิณ" เคลื่อนไหวอีกรอบ  ย้ำเดือน ก.ค.กลับไทยแน่ รอ "อุ๊งอิ๊ง" แจ้งวันเวลาชัดเจน ปัดกลับมาเป็นนายกฯ อีก  บอกแก่แล้วขอเลี้ยงหลานปล่อยเวทีให้คนรุ่นใหม่ "แรมโบ้-เสธ.หิ" ฟาดก้าวไกลไล่ "บิ๊กตู่" พ้นทำเนียบฯ ซัดกระสันเป็นรัฐบาลตัวสั่น "พิธา" ระบุคนแพ้เลือกตั้งก็ต้องยอมรับ "เลขาฯ ก.ก." ชี้นายกฯ ต้นแบบต้องฟังเสียง ปชช. มั่นใจ "ทิม" บริหาร ปท.บ้านเมืองไม่ลุกเป็นไฟ  "พท." ตั้งเป้ายกเครื่องบทบาทรัฐสภายุคใหม่ "ส.ว.จเด็จ" เชื่อรัฐบาลแห่งชาติไปต่อได้

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ช่วงดึกวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในรายการ “คุยแหลก แดกดึก” ของนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นพิธีกร ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ระหว่างเดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ ถึงกระแสการกลับบ้านหากกลับมาต้องติดคุก

โดยนายทักษิณกล่าวว่า ยังไงก็ได้ ยังไงก็กลับ ส่วนจะเป็นเดือน ก.ค.นี้หรือไม่นั้น ตนพูดไปแล้ว ยืนยันไปแล้ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวจะเป็นคนบอกว่าวันที่เท่าไรและเวลาเท่าไร โดยเหตุผลที่อยากกลับ เพราะตนมีหลาน 7 คนแล้ว ถึงเวลาต้องไปเลี้ยงหลานแล้ว พ่อแม่เป็นวัยต้องไปทำงาน ปู่ย่าตายายมีหน้าที่ต้องเลี้ยงหลาน เพื่อให้พ่อแม่ได้ทำงานได้เต็มที่

มดดำถามว่ามีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า แก่แล้ว หมดสมัย วันนี้เป็นยุคคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่ยุคคนแก่ คนแก่บางทีแนะนำก็อย่าไปบังคับ เพราะเราไม่ทันเด็ก คนแก่แม้เข้าใจเด็กแต่เข้าใจแบบคนเรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทย มันสู้คนโตเมืองนอกที่รู้ภาษาอังกฤษแล้วพูดภาษาอังกฤษแตกฉานไม่ได้ คล้ายๆ อย่างนั้น  ไม่ใช่เอาคนแก่มาบอกเข้าใจคนรุ่นใหม่ แล้วบอกเข้าใจ แต่เข้าใจไม่ลึกซึ้ง

มดดำถามอีกว่า น.ส.แพทองธารเคยบอกว่าพ่อไม่ต้องมายุ่งแล้ว นายทักษิณ กล่าวว่า ใช่ พ่อแก่แล้ว ให้คนรุ่นใหม่เขาคิด เราให้คำแนะนำจากประสบการณ์ แต่อย่าไปบังคับ สมัยพ่อทำอย่างนี้ลูกต้องทำอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ๊งเลย เพราะมันไม่เหมือนกัน วิธีคิด ภาษาพูด อยากเห็นอนาคตแบบไหนของคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าไม่เหมือนกัน เราประวัติเยอะ อดีตเยอะ อนาคตสั้นจุ๊ดจู๋ คนรุ่นใหม่อดีตน้อย แต่อนาคตยาวนาน เขาจะมองอนาคตเขา ได้ดีกว่าที่เรามอง เพราะอนาคตเรามันสั้น

มดดำยังถามว่า ถึงเวลาสำหรับโลกใบใหม่แล้ว นายทักษิณกล่าวว่า ใช่ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Paradigm Shift  คือวิธีคิดมันเปลี่ยนไปมาก คนรุ่นเก่าเราคิดว่าพยายามตามทุกอย่าง ตนอ่านหนังสือเยอะ มันได้ระดับหนึ่ง ไม่ได้ระดับลึกซึ้งเท่ากับวัยเขาคิดกัน

มดดำถามย้ำว่า เดือน ก.ค.นี้กลับแน่นอน นายทักษิณกล่าวว่า “กลับแน่นอน” เมื่อถามอีกว่า วันเกิดท่านเดือน ก.ค.พอดีด้วย นายทักษิณกล่าวว่า “26 ก.ค.”

ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อย่าหวังส้มหล่นเป็นนายกฯ อีก พร้อมฝากให้เตรียมเก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาลว่า  หากนายรังสิมันต์ทราบถึงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะทราบดีว่ามีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามาทำงาน นายกฯ ยังทำหน้าที่บริหารตามปกติตามกฎหมาย และต้องบริหารประเทศจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่เข้ามาแทนมิใช่หรือ  อย่าทำเป็นแกล้งโง่เลย ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกฯ อยู่ ยังต้องทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนจนกว่ารัฐบาลใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็นายกฯ ก็พร้อมที่จะส่งมอบให้นายกฯ คนใหม่และรัฐบาลใหม่อยู่แล้ว

'พิธา' ลั่นแพ้ต้องยอมรับ

"ช่วยไปจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาบอกให้ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมเก็บของ นายรังสิมันต์และพรรค ก.ก.ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ก็คงอยากเป็นนายกฯ และรัฐบาลจนตัวสั่น เพราะยังไม่ทันได้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จก็ยังทำตัวเป็นนายกฯ แล้ว นายรังสิมันต์ก็ไม่ต้องกลัวว่านายกฯ จะออกจากทำเนียบฯ หรือไม่ แต่ขอให้เอาเวลาไปสนใจกับเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลของพรรค ก.ก.และพรรคร่วมจะดีกว่า เพราะที่ผ่านมามีภาพออกมาที่ผมเห็นแล้วยังสยองแทน ทั้งความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมด้วยกัน ถูกมองว่าแย่งตำแหน่งกันไปมา แค่เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ก็ทะเลาะกัน แย่งกันจนชาวบ้านฝากมาบอกไหนการเมืองใหม่ ที่แท้ก็น้ำเน่าชัดๆ ขณะเดียวกันยังมีกรณีถือหุ้น itv อีก ไหนจะต้องรอโหวตนายกฯ ในสภา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย จึงอยากให้ไปสนใจตรงนั้นจะดีกว่า" นายเสกสกลระบุ

นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ออกมาทวงสปิริต พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับความพ่ายแพ้และเก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาลว่า คนจะเป็นพระต้องบวชออกมาจากโบสถ์ ก่อนจะไปบิณฑบาตได้ คนจะเป็นนายกฯ ก็ต้องมาจากสภา ไม่ใช่ตั้งกันที่ร้านอาหาร

"ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล การที่นายพิธาเดินทางไปพบภาคเอกชนนั้นไม่เป็นไร แต่การไปเชิญสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 3 สมาคม ทั้งสมาคมสันนิบาตเทศบาล, สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลมาประชุม ทั้งที่เขาเป็นหน่วยงานราชการ ถามว่าเหมาะสมหรือไม่" นายหิมาลัยกล่าว

ถามว่า พรรคก้าวไกลโจมตีทำไมพล.อ.ประยุทธ์ถึงไม่มีน้ำใจนักกีฬา นายหิมาลัยกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ท่านก็ทำหน้าที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมส่งมอบงานให้กับรัฐบาลชุดใหม่แล้วตามบริบท ส่วนใครจะมาเป็นนายกฯ ก็ต้องรอสภา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาล และยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจนเทิลแมน ไม่มีทางเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยแน่นอน

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตอบโต้ประเด็นดังกล่าวว่า ยังไม่ได้ฟังสัมภาษณ์ของนายเสกสกล แต่ได้เห็นการให้สัมภาษณ์ของนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงขอพูดด้วยความเข้าใจว่าเมื่อมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจแล้ว ตามปกติคนที่แพ้เลือกตั้งจะต้องยินดีกับผู้ชนะการเลือกตั้ง ยอมแพ้ และส่งมอบงานให้รัฐบาลต่อไป หากเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง คงไม่หลุดไปจากหลักการนี้ แต่อาจมีการพูดคุยกันของสภาล่างกับสภาสูง น่าจะเป็นไปในลักษณะนั้นมากกว่า

ถามว่า หาก กกต.รับรองผลเลือกตั้งช้าจะมีผลกระทบต่อการตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เข้าใจว่าตามกฎหมายจะรับรองได้ช้าสุดในวันที่ 13 ก.ค. หากช้าไปก็ติดกระดุมเม็ดแรกไม่ได้ ไม่สามารถเปิดสภา และเลือกประธานและรองประธานสภาฯ ได้ ก็จะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ทำให้ประชาชนเรียกร้องให้ กกต. ทำให้เร็วมากขึ้น ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับประชาชน

รัฐบาลแห่งชาติไปต่อได้

เช่นเดียวกับ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า การทำใจยอมรับมติของประชาชนเป็นทางออกที่ดีที่สุด จะทำให้ประเทศเดินหน้าอย่างราบรื่น เข้าใจว่านายเสกสกลอาจจะยังทำใจไม่ได้ รวมทั้งที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุนายกฯ ที่ดีให้ดูต้นแบบ พล.อ.ประยุทธ์นั้น นายกฯ ที่ดีก็ต้องฟังและยึดตามเสียงประชาชนเป็นหลัก

ถามถึงกรณีนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) บอกถ้ายกมือโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งสรุปว่าเป็นความคิดเห็นของ ส.ว.ส่วนใหญ่ เท่าที่ได้พูดคุยหารือกัน ส.ว.ส่วนใหญ่มีเจตนาที่ดี เห็นตรงกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะออกจากความขัดแย้งเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มต้นการปฏิรูปอะไรหลายๆ อย่างให้เป็นรูปธรรม ส.ว.หลายท่านก็อยากให้มีการปฏิรูป ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูประบบราชการ การกระจายอำนาจ การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน การศึกษา และปฏิรูประบบเศรษฐกิจ

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงคณะทำงานชุดเล็ก 7 คณะที่ตั้งขึ้นตามมติ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาลจะประชุมในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ว่า วาระหลักๆ คือพิจารณาต่อเนื่องจากที่ประชุมใหญ่ 8 พรรค ตามที่คณะทำงานประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลได้มอบหมายภารกิจให้ และในวันประชุมดังกล่าวคณะทำงานแต่ละคณะทั้ง 7 คณะ จะพิจารณาข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่จะมีการประชุมกันพร้อมกับประชุมหัวหน้าพรรคการเมือง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไทย วันที่ 7 มิ.ย.นี้ เวลา 10.30 น.เพื่อติดตามความคืบหน้าในการจัดตั้งที่ทพการพรรค พท.

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาว่า ได้ยุติลงแล้วด้วยการจับมือกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ส่วนตัวมองว่ารัฐสภาในฐานะองค์กรนิติบัญญัติจะไม่เหมือนเดิมเพราะจะต้องถูกปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้ทัดเทียมกับฝ่ายบริหาร การสร้างภาวะสมดุลของ 2 องค์กรแห่งอำนาจอธิปไตย ได้แก่ นิติบัญญัติ และบริหารเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ของประชาชน

รองโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า เวทีของรัฐสภาภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ที่ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งถือว่าเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยจะนำปัญหามาแสดงในที่ประชุมของสภา, คณะกรรมาธิการ, คณะอนุกรรมาธิการและอื่นๆ เวลาการประชุมจะต้องถูกใช้อย่างมีคุณค่า ไม่สร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชน ความสัมพันธ์ระหว่างสภาผู้แทนฯ วุฒิสภา กับคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานรัฐให้ดำเนินไปด้วยดี โดยทุกฝ่ายให้เกียรติและให้ความเคารพกัน จะต้องไม่เป็นเหมือนในอดีต 4 ปีที่ผ่านมา

"ต่อไปนี้ประธานรัฐสภาจะต้องทำหน้าที่เชื่อมประสาน โดยพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้าน พรรคการเมืองต่างๆ วุฒิสภา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีให้เป็นที่เข้าใจกันว่าจะสร้างความร่วมมือกันได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมกันของทุกพรรค ทุกฝ่าย ผลักดัน ให้มีการออกเสียงประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยไม่ชักช้า เพราะประชาชนกำลังเฝ้ารออยู่" รองโฆษกพรรค พท.ระบุ 

วันเดียวกัน นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิกร (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีแนวทางปรองดองด้วยรัฐบาลแห่งชาติไม่ได้รับการตอบรับว่า ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมไม่ตอบรับ

ถามว่า ในการประชุม กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา จะเสนอประเด็นให้หารือต่อหรือไม่ นายจเด็จ กล่าวว่า ต้องถามนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ. ว่าจะคุยกันหรือไม่ แต่เท่าที่ตนพูดคุยกับ ส.ว.บางคน ยังมองว่าเป็นไปได้ แต่ต้องหาทางออกว่าจะดำเนินการอย่างไร

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติว่า ไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง ตนไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าคำนี้หมายถึงอะไร เพราะประเทศไทยไม่เคยมี แต่ในต่างประเทศเคยมี เมื่อถามว่าทุกครั้งเวลามีปัญหาในประเทศมักจะมีการเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา นายวิษณุกล่าวว่า เป็นธรรมดาเมื่อคนตกอยู่ในเหตุการณ์ที่เหมือนจมน้ำหรือไฟไหม้หรือตึกถล่มมีอะไรคว้าได้ก็ต้องคว้า คิดอะไรออกก็คิด ไม่แปลกที่จะคิดและเสนอความคิดออกมา แต่ถ้าสังคมไม่ยอมรับก็ควรจะหยุดคิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง