ปชช.เชื่อมีส่วย เสี่ยอ่างแฉเพิ่ม ตำรวจหญิง‘ณ’

นิด้าโพลเผยประชาชน  83% เชื่อรถบรรทุกส่วนใหญ่น้ำหนักเกิน   คาดเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มกำไร 61%   แน่ใจมีส่วยสติกเกอร์ แต่มีแค่ 30% เชื่อว่าจะปราบได้ “ชูวิทย์” แฉตำรวจสาวชื่อ “ณ” เที่ยวผับแต่ยศพุ่ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องส่วยสติกเกอร์ รถบรรทุก โดยสอบถามประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ 1,310   หน่วยตัวอย่าง

จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องการบรรทุกน้ำหนักของรถบรรทุก พบว่า 82.90% ระบุว่าส่วนใหญ่มีการบรรทุกเกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด รองลงมา 11.45% ระบุว่าส่วนใหญ่มีการบรรทุกไม่เกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด และ 5.65%ระบุว่าไม่มั่นใจ 

เมื่อถามความคิดเห็นของผู้ระบุว่าส่วนใหญ่มีการบรรทุกเกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด และผู้ที่ระบุว่าไม่มั่นใจ จำนวน 1,160 หน่วยตัวอย่าง ถึงสาเหตุที่ทำให้รถบรรทุกมีการบรรทุกเกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด พบว่า 73.36% ระบุว่าเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง,   63.19% ระบุว่าเพื่อเพิ่มกำไรในธุรกิจขนส่ง, 27.07% ระบุว่าขนาดน้ำหนักที่กฎหมายกำหนดไม่สะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบัน และ 0.09% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ 

สำหรับความเชื่อของประชาชนต่อข่าวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก พบว่า 60.76% ระบุว่าเชื่อมาก, 25.34% ค่อนข้างเชื่อ, 10.08% ไม่ค่อยเชื่อ, 3.44% ไม่เชื่อเลย และ 0.38% ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ เมื่อถามผู้เชื่อมาก ค่อนข้างเชื่อเกี่ยวกับข่าวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก และไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ 1,133 หน่วยตัวอย่าง ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก พบว่า 75.55% ระบุว่าเจ้าของรถบรรทุกยินดีจ่ายเพื่อความสะดวกในการดำเนินกิจการ, 75.11% ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องการหาผลประโยชน์, 26.13% ขนาดน้ำหนักที่กฎหมายกำหนดไม่สะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบัน และ 0.35% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ

สุดท้ายเมื่อถามผู้ที่ระบุว่า เชื่อมาก ค่อนข้างเชื่อเกี่ยวกับข่าวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก และไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ 1,133 หน่วยตัวอย่าง ถึงความเชื่อของประชาชนว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกได้จริง พบว่า 30.36% ค่อนข้างเชื่อ, 27.80% ไม่เชื่อเลย, 23.66% ไม่ค่อยเชื่อ, 17.83% เชื่อมาก และ 0.35% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ

วันเดียวกัน ยังคงมีกระแสร้อนกรณีการเลื่อนขั้นหลังจากเข้าหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.) อย่างต่อเนื่อง โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า นี่ก็อีกคน ตำรวจสายแฟชั่น กอส. ชื่อย่อ “ณ”  รุ่นเดียวกับร้อยตำรวจเอกนักร้องนางงาม รุ่นนี้ ยศขึ้นเร็ว เพิ่งปิดไอจีหนี วันๆ ขับแลมโบโฉบไปมา งานการไม่มีทำ ร่อนตามผับ ไปต่างประเทศทุกเดือน หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมหรู แต่งตัวเหมือนหลุดออกมาจากแคตวอล์ก ไม่ทราบว่าอยู่กองไหน หรืออยู่กองแฟชั่น สตช.

“แนะนำให้ไปเที่ยวผับจีนชื่อ Madrix แถวรัชดา ซ.18 เปิดกันยันเช้า รับรองว่าจีนเทาให้เข้า เพราะไม่รู้ว่าเป็นตำรวจแน่นอน หน่วยใหม่ตั้งชื่อว่ากองแฟชั่น ของ สตช. เพื่อไว้รับแขกบ้านแขกเมือง ให้ฮือฮาว่า นี่คือตำรวจไทยเมืองท่องเที่ยว  หรือเอาไว้เป็นสายลับจารกรรมข้อมูลจีนเทาที่บุกยึดกรุงเทพฯ ไม่ต้องปลอมตัว ทำประโยชน์ให้สังคมอย่างนี้ดีกว่า ไม่ใช่มียศถึง ร.ต.อ. ประดับ 3 ดาว แต่ไม่ได้ทำงานอะไร ตำรวจอื่นๆ เขาทำงานยันแก่ยังไม่ได้ยศผู้กอง เด็กเส้น เด็กนาย  เด็กฝาก สารพัดตั๋ว พอกันที ให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทำงานด้วยเถอะ เจ้าประคุณ” นายชูวิทย์โพสต์ทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง