รับลูกอุ้มดีเซล ปตท.ลดNGV รถสาธารณะ

“คลัง-พลังงาน” รับลูก ครม. ลดภาระค่าครองชีพ ปชช. กางแผนอุ้มดีเซลต่อ “แท็กซี่-รถโดยสารสาธารณะ” เฮ! ปตท.เคาะส่วนลดราคา NGV รอบใหม่ถึงสิ้นปี ดีเดย์ 16 มิ.ย.​

เมื่อวันพุธ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้กรมสรรพสามิตศึกษาแนวทางลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน หลังจากมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ครบกำหนดวันที่ 20 ก.ค.นี้ว่า    กรมสรรพสามิตต้องศึกษากฎหมาย ทั้งรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในการดูแลต้นทุนค่าน้ำมัน จะเป็นภาระต่อรัฐบาลชุดต่อไปอย่างไร  ยอมรับว่าการดูแลต้นทุนน้ำมันดีเซลขณะนี้ใช้กลไกผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกลไกการลดภาษีดีเซลได้ทั้งสองทาง เมื่อราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง  ทำให้กองทุนน้ำมันฯ เก็บเงินเข้ากองทุนฯ 5-6 บาทต่อลิตร กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานเตรียมหารืออย่างใกล้ชิดเพื่อสรุปแนวทางร่วมกัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสรรพสามิตเตรียมประเมินผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ที่หดหายไปด้วย หลังจากได้ลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท กระทบต่อรายได้ภาษีสรรพสามิตประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน คาดว่าในปีงบประมาณ 2566 ภาครัฐอาจสูญเสียรายได้จากน้ำมันดีเซล 7 หมื่นล้านบาท

วันเดียวกัน ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2566 มีมติเห็นชอบให้ส่วนลดราคาก๊าซ NGV สำหรับกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ โดยจำหน่ายที่ราคา 14.62 บาท/กิโลกรัม และ 18.59 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นส่วนลดราคา NGV ณ เดือนมิถุนายน 2566

“สำหรับกลุ่มแท็กซี่ที่ประมาณ 5.52 บาท/กิโลกรัม และส่วนลดรถโดยสารสาธารณะประมาณ 1.55 บาท/กิโลกรัม จากราคาขายปลีก NGV ตามโครงสร้างที่ภาครัฐกำหนดประมาณการเฉลี่ยที่ 20.14 บาท/กิโลกรัม โดยการช่วยเหลือกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2566 จนถึงสิ้นปี 2566 รวมวงเงินการช่วยเหลือตลอดปี 2566 กว่า 6,000 ล้านบาท โดยราคานี้เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิง LPG และดีเซลที่ค่าความร้อนเดียวกัน ก๊าซ NGV จะถูกกว่าถึง 24% และ 44% ตามลำดับ” ม.ล.ปีกทองระบุ

ทั้งนี้ ปตท.มุ่งหวังว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าพลังงานแก่กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ได้แก่ กลุ่มรถแท็กซี่ NGV และรถโดยสารสาธารณะ NGV ทั่วประเทศให้ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ พร้อมเปิดขยายการช่วยเหลือกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ โดยผู้ขอรับสิทธิ์ประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สามารถลงทะเบียนออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน-6 สิงหาคม 2566 และกรณีบุคคลธรรมดา ขอให้ยืนยันตัวตนเพิ่มเติมที่ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต จ.ปทุมธานี ระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2566 โดยสามารถติดตามรายละเอียดการรับสมัครเพิ่มเติมได้ที่ Line OA : PTT NGV เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดที่สถานีบริการ NGV ปตท. ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นรองประธาน กบน. เตรียมเปิดประชุมพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากการตรึงราคา LPG ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.2566 นี้ แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ ทาง กบน.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงด้านน้ำมันและ LPG ของประเทศ จึงต้องรับหน้าที่พิจารณาราคา LPG รอบนี้แทน กบง. โดยการพิจารณาราคาจะต้องคำนึงถึงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจว่าจะตรึงราคาเดิมต่อ หรือจะปรับขึ้นตามราคาตลาดโลกต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้สัปดาห์นี้ กบน.จะประชุมไปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้พิจารณาด้านราคา LPG เป็นเพียงการปรับขึ้นเงินที่เก็บจากผู้ใช้น้ำมันดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ เพิ่มขึ้นจาก 4.20 บาทต่อลิตร เป็น 5.59 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง และยังไม่ได้มีการพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกดีเซลลงด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดราคาลงไปแล้ว 5 ครั้ง รวม 2.50 บาทต่อลิตร นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.2566 เป็นต้นมา ทั้งนี้ เนื่องจากต้องการเก็บเงินไว้ให้มากที่สุดเพื่อป้องกันราคาดีเซลดีดกลับมาถึง 5 บาทต่อลิตร หากกระทรวงการคลังกลับมาเก็บภาษีดีเซลเต็มจำนวนกว่า 5 บาทต่อลิตร หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีดีเซลในวันที่ 20 ก.ค.2566 นี้

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2566 กองทุนฯ ยังคงมีสถานะติดลบ 63,376 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 17,127 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,294 ล้านบาท แต่กองทุนฯ ยังมีเงินไหลเข้าทุกวันเกือบ 20 ล้านบาทต่อวัน ส่งผลให้กองทุนฯ ยังมีเงินหมุนเวียนรายวัน ส่วนภาระหนี้เดิมที่ได้นำเงินไปชดเชยราคา LPG และดีเซลในช่วงวิกฤตพลังงานปี 2565 ที่เหลืออยู่ 43,000 ล้านบาท ก็จะดำเนินการกู้เงินจากสถาบันการเงินมาใช้คืนต่อไป

ด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้รายงานค่าการตลาด ณ วันที่ 14 มิ.ย.2566 โดยค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 2.24 บาทต่อลิตร สูงกว่าที่ กบง.ปรับคืนค่าการตลาดให้ผู้ค้าน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดกลุ่มเบนซินอยู่ที่ประมาณ 3 บาทต่อลิตร โดยภาพรวมค่าการตลาดตั้งแต่วันที่ 1-14 มิ.ย.2566 อยู่ที่ 2.47 บาทต่อลิตร

 ขณะที่ราคาน้ำมันโลก ณ วันที่ 14 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 15.30 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 72.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 69.76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.34 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (BRENT) อยู่ที่ 74.78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง