ลั่นไม่เล่นนอกเกม! ‘พท.’ยํ้าปมเคาะปธ.สภา เสี่ยหนูชัดเมินจับมือก.ก.

"ประเสริฐ" ยันเพื่อไทยไม่เล่นนอกเกม จับมือก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล หาข้อสรุป "ปธ.สภาฯ" ตรงไปตรงมา “อนุทิน” ปิดประตูร่วม รบ.เสียงข้างน้อย ประกาศกร้าวไม่มีวันดีลพรรคแก้ 112 ขอยุบภูมิใจไทยดีกว่า "บิ๊ก ส.ว." ไล่ "พิธา" ไปรวมเสียงให้ได้ 376  สภาสูงจะได้ปิดสวิตช์ตัวเอง ข้องใจแผนปฏิรูปกองทัพพรรคส้ม ซัดลอกมะกันทั้งดุ้น                

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ 6 ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเปิดให้รายงานตัว ส.ส.ชุดที่ 26 ปรากฏว่ามีผู้มารายงานตัวเพิ่มเพียง 1 คนคือ นายธนพัฒน์ ศรีชนะ ส.ส.ยโสธร เขต 3 จากพรรคภูมิใจไทย ทำให้ขณะนี้มี ส.ส.มารายงานตัวแล้วทั้งสิ้น 271 คน เหลือ ส.ส.อีก 229 คน ที่ยังไม่มารายงานตัว โดยมีรายงานว่าในวันจันทร์ที่ 26 มิ.ย. นี้ เวลา 09.30 น. จะมี ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทยอีก 58 คน มารายงานตัว ขณะที่วันที่ 27 มิ.ย. เวลา 09.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะนำทีม ส.ส.ของพรรคทั้งหมด 151 คน มารายงานตัวพร้อมกัน ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา จะมารายงานตัวพร้อมกันในวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 11.00 น. หลังจาก ส.ส.รายงานตัวเสร็จสิ้น ทุกคนจะมารวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค. เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดสมัยประชุมสภา

วันเดียวกัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความชัดเจนเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังมีข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ และนายสุชาติเองพยายามหลบสื่อในวันรายงานตัวต่อสภาว่า พรรคเพื่อไทยจะหารือกันภายใน ในวันที่ 27 มิ.ย. เพื่อให้ได้ข้อสรุปกันแล้วนำไปหารือกับพรรคก้าวไกล วันที่ 28 มิ.ย. ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยดำเนินการเรื่องนี้อย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา  และเราร่วมมือกับพรรคก้าวไกลเพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีเล่นนอกเกมอย่างแน่นอน

"มั่นใจหลังวันที่ 28 มิ.ย. ประเด็นประธานสภาฯ ระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทยจะได้ข้อยุติ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จากนั้นวันที่ 29 มิ.ย. จะมีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง และความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงจะรับทราบความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการชุดเปลี่ยนผ่านทั้ง 14 คณะด้วย" นายประเสริฐระบุ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะเสนอตั้งนายกรัฐมนตรี แข่งกับ 8 พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล  เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า อันดับแรกถ้าเขาจะทำเช่นนั้น คงหมายถึงการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากเกิดขึ้นจริงจะไม่สามารถบริหารงานได้ และถือเป็นการขัดมติประชาชนที่แสดงผ่านผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเลือกพรรคฝ่ายค้านเดิมมาร่วม 312 เสียง เพื่ออยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลตามความต้องการของประชาชนให้ได้ เชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลเดิมคงนึกถึงประเทศชาติ และไม่ทำอะไรเช่นนั้น

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการประชุม ส.ส.พรรค โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นประธาน มี ส.ส.ร่วมประชุม 66 คน ขาดประชุม 5 คน จาก ส.ส.ทั้งหมด 71 คน

ภายหลังการประชุมนายอนุทิน แถลงว่า เป็นการประชุม ส.ส.ครั้งแรกหลังผ่านการเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรอง ซึ่งมีบางคนติดภารกิจต่างประเทศ โดยได้มีการหารือถึงวิธีการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร ซึ่งครั้งนี้มี ส.ส.ใหม่ 27 คน จาก 68 คน ที่เป็น ส.ส.เขต จึงต้องมาละลายพฤติกรรมระหว่าง ส.ส.เก่ากับ ส.ส.ใหม่ ให้รู้จักกันมากขึ้น และรับรู้ถึงแนวนโยบาย โดยเฉพาะความเป็นเอกภาพเป็นปึกแผ่นของพรรคที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ตนจะนำส.ส.ของพรรคไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้พร้อมกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมีบางคนเดินทางไปรายงานตัวก่อนหน้านี้แล้ว

หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าเรามีความพร้อมในการเตรียมตัวเริ่มทำงานในฐานะ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.เป็นต้นไป ที่จะมีรัฐพิธี และการดำเนินงานในสภาตามปฏิทินการเมือง เชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามครรลอง ส่วนทิศทางการเมืองหลังจากนี้ ส.ส.ของพรรคมีฉันทามติให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ในการขับเคลื่อนทางการเมืองในช่วงเริ่มเปิดประชุมสภาชุดใหม่

ยุบ ภท.ดีกว่าหนุน 112

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะรวบรวมรายชื่อ 50 ส.ส.ต่อศาลรัฐธรรมนูญสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ และยังไม่มีการพูดคุยถึงทิศทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภาก่อน พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ 3 วันนี้การนำเสนอต่างๆ ควรเป็นเรื่องของพรรคอันดับ 1 ที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งปกติจะนำเสนอรายชื่อประธานสภาฯ

เมื่อถามว่า วันประชุมสภาเพื่อโหวตประธานสภาฯ พรรคภูมิใจไทยจะเสนอชื่อคนของพรรคหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ทำอะไรที่เป็นการบล็อกหรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการทางการเมือง โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเรื่องนี้มีแต่ข่าวลือเสียงเล่าอ้าง

เมื่อถามย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยจะฟรีโหวตประธานสภาฯ หรือไม่ หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า ต้องดูว่าในที่สุดใครเป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. เราไม่บังคับ แต่ต้องหารือถึงทิศทาง ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร เพราะชื่อที่ปรากฏยังไม่ได้เสนอมาในที่ประชุม

 “เราคงไม่ฟรีโหวตแบบไม่ทราบว่า ส.ส.จะโหวตอย่างไร คงต้องมีการหารือกันก่อน เราให้อิสระ ส.ส.แสดงความเห็น ซึ่งผู้บริหารก็ต้องรับฟัง” นายอนุทินระบุ

 ส่วนสูตรตั้งรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย   พรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ เพื่อดึงขั้ว ส.ว.ร่วมโหวตนั้น นายอนุทินกล่าวว่า เป็นสูตรผู้สื่อข่าว ไม่ใช่สูตรของพรรค พรรคท่องสูตรอยู่ 3 บทคือ อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า รอให้ได้คือรอส้มหล่นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า รอให้ได้ คืออาจจะรอให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ได้ ตนทำงานการเมือง สิ่งสำคัญที่ยึดถือคือเป็น ส.ส. ส่วนที่มากกว่านั้นคือบริบทการเมือง วันนี้สิ่งแรกคือเราเป็น ส.ส. ทุกคนชนะมาท่ามกลางกระแส ท่ามกลางความกดดัน และการถูกด้อยค่า แต่เรามี ส.ส.มากขึ้นกว่า 40% มีความเข้มแข็งในพื้นที่ อยู่บทบาทไหนเป็น ส.ส.ก็ไม่มีปัญหา จะเป็นรัฐบาลเป็นฝ่ายค้านได้หมด ไม่มีพรรคการเมืองไหนไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีพรรคไหนเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านตลอดกาล ที่สำคัญคือต้องเป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งตรงนี้ทำงานได้แน่นอน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยจะฉีกแถลงการณ์ที่เคยระบุว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคที่จะแก้ไขมาตรา 112 โดยกระแสดีลลับกับพรรคก้าวไกล นายอนุทินกล่าวว่า "พรรคไม่มีวันฉีกแถลงการณ์เรื่อง 112 สื่อถามแบบนี้ไม่แฟร์กับพรรคภูมิใจไทย นี่คือเจตนารมณ์ของพรรค เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราออกแถลงการณ์ได้ต้องมีความมั่นใจมากว่าการไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ที่มีความตั้งใจ อย่าว่าแต่ยกเลิก แค่แก้ไขก็ไม่เอาแล้ว ถามกันแบบนี้เหมือนถามใส่ปาก แถลงการณ์ของพรรคเหมือนธรรมนูญของพรรค เปลี่ยนแปลงไม่ได้  ถ้าเปลี่ยนแปลง ผมกับเลขาฯ คนนี้ต้องไม่ใช่ผู้บริหารพรรค ถ้าเปลี่ยนแปลงยุบพรรคดีกว่า เรามีความเชื่อมั่นเคารพสักการะในสถาบัน แต่อยู่ดีๆ มีข่าวปล่อยพบคนนั้นคนนี้ เรื่องดีลลับก็ไม่มี นี่คือพรรคการเมือง ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เราไม่ทำอะไรลับๆ ล่อๆ"

ส่วนกรณีที่มี ส.ว.บางคนให้สัมภาษณ์พลิกสูตรว่าขั้วปัจจุบันจะกลับมาชนะมีโอกาสหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ส.ว.ก็มีบทบาทของท่าน การตั้งรัฐบาลต้องตั้งรัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ไม่รอด รอวันตาย และขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย เปิดประชุมอยู่ในช่วงงบประมาณต้องเปลี่ยนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆ  ตามนโยบาย หากเสียงข้างน้อยไม่ผ่าน รัฐบาลต้องลาออก ถามว่าแล้วใครจะทำสิ่งเหล่านั้น ทำเพื่อสะใจใคร ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นความยั่งยืนของบ้านเมือง วันนี้เขากำลังฟอร์มรัฐบาลเสียงที่มากพอ พรรคภูมิใจไทยจึงอยู่นิ่ง ให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล เราปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างเรียบร้อยก่อน ไม่ว่าจะจัดตั้งได้หรือไม่ได้

  เมื่อถามย้ำว่า สูตรเสียงข้างน้อยแล้วดึงงูเห่ามาเสริมทีหลัง นายอนุทินกล่าวว่า หมดแล้ว ยุคสมัยนี้ไม่มีแล้ว นึกไม่ออกถ้าทำการเมืองแบบเก่าคงลำบาก

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อมนางนราพร  จันทร์โอชา ภริยา เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในพิธีทรงบำเพ็ญพระกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งภายหลังเสร็จพิธีเวลา 18.00 น. ได้มีแฟนคลับมารอถ่ายรูปกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งนายกฯ มีสีหน้าเรียบเฉย

และเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ใกล้เปิดสภาแล้ว ยังเป็นห่วงอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ได้หันมามองหน้าผู้สื่อข่าว แต่ไม่ตอบคำถาม และขึ้นรถเดินทางกลับทันที โดยนายกฯ มีสีหน้าเคร่งขรึม

ไล่ รบ.พิธาหาเสียงตั้งเอง

ทางด้าน พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. และประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา กล่าวถึงการเตรียมเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า บุคคลที่จะถูกเสนอชื่อมาให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตเป็นนายกฯ ถึงวันประชุมอาจจะไม่ได้มีแค่ชื่อนายพิธาเพียงคนเดียวก็ได้ อาจจะมีชื่ออื่นอีก อย่างไรก็ตาม มีหลักในการพิจารณาคือ ต้องเป็นคนดี และคนเก่งด้วย ซึ่งเรื่องคนดี ดูว่าเป็นคนที่อยู่บนความถูกต้อง บนหลักกฎหมายหรือไม่ ทำอะไรอยู่ในกรอบของกฎหมายหรือไม่ อยู่ในกรอบของศาสนาหรือไม่ และอยู่ในหลักประเพณีอันดีงามของเราหรือไม่ สอง บุคคลนั้นทำอะไรคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง  ผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลักหรือไม่ และสาม ต้องเป็นคนที่ยึดมั่นในหลักทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เมื่อถามว่า หากนายพิธาไม่ได้รับเสียงโหวตถึง 376 เสียง กลุ่มที่สนับสนุนจะบอกว่าเพราะ ส.ว.ไม่โหวตให้นั้่น พล.อ.อกนิษฐ์ตอบว่า ตอนนี้ใครๆ ก็โยนมาที่ ส.ว. ซึ่งไปรวมเสียง ส.ส.กันมาให้ได้ถึง 376 เสียง แล้ว ส.ว.จะหยุดเลย ไม่ต้องลงมติโหวตเลย

 “พวกคุณได้เป็นรัฐบาลแน่ 376 เสียง ทำได้ไหม พวกคุณไปเคลียร์กันเองสิ ไม่ใช่มาโยนให้ ส.ว. และส่วนตัวก็ไม่เคยได้รับการติดต่อพูดคุยจากคนของพรรคก้าวไกล แต่อยากบอกว่า ส.ว.เขามีวุฒิภาวะพอ ขอให้พวกคุณไปเคลียร์กันเอง เอาให้ได้สิ 376 เสียง ส.ส. ถ้าคุณได้ 376 เสียง ส.ว.ไม่มีความหมายเลย” พล.อ.อกนิษฐ์ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะเป็นอดีตนายทหาร มองนโยบายของพรรคก้าวไกลที่หาเสียงเรื่องปฏิรูปกองทัพ และทางพรรคประกาศว่าหลังเปิดสภาจะเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ เช่น ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ยุบสภากลาโหม ยุบ กอ.รมน. ยุบศาลทหาร พล.อ.อกนิษฐ์ให้ความเห็นว่า เรื่องปฏิรูปกองทัพ ไม่ใช่ความคิดใหม่ เคยมีการปฏิรูปกองทัพมาแล้ว ตั้งแต่ช่วงปี 2548-2549 และอยู่ระหว่างการปฏิรูป ลดนายพล ลดหน่วย แม้กระทั่งการเกณฑ์ทหาร กองทัพได้ลดการเกณฑ์ทหารลงแล้ว ไม่ใช่ว่ากองทัพไม่เคยปฏิรูป

"เห็นด้วยกับการปฏิรูปกองทัพ แต่โครงสร้างที่เขาเสนอมา คือการยกโครงสร้างของกองทัพสหรัฐอเมริกามาทั้งหมดเลย แบบนี้เรียกว่าปฏิรูปหรือไปลอกแบบ ซึ่งสหรัฐมีกองทัพมาแค่สองร้อยปี แต่ประเทศไทยมีกองทัพมาแล้ว ตั้ง 700-800 ปี มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพไทยนำทัพออกไปรบ ถามว่าถ้าคุณไปก๊อปปี้โครงสร้างกองทัพสหรัฐมา แล้วจอมทัพไทยอยู่ตรงไหน คุณจะไปลิดรอนพระราชอำนาจท่านไหม ตอบผมหน่อย คนที่คิดอันนี้" พล.อ.อกนิษฐ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง