‘ชวน’ดึงสติปชป. ใครเหมาะนำทัพ ‘เชาว์’นัดรวมพล

“นายหัวชวน” กรีดดึงสติลูกพรรค คำนึงถึงอุดมการณ์สุจริตตั้งแต่รุ่นก่อตั้ง ชี้สัญญาณอันตราย ปชป.ร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคเชิดชูคนโกง อบรมชุดใหญ่หัดเจียมตัวได้แค่ 25 เสียง ขนาดภาคใต้ยังแพ้ “บิ๊กตู่” ต้องรู้ใครเหมาะนำทัพกอบกู้พรรค "เชาว์" นัดรวมพลคนรัก ปชป. 8 ก.ค. ชู 1 เสียง 1 โหวต

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ว่า เอาไว้ถามช่วงใกล้ๆ ตนพยายามที่จะหลีกเลี่ยง เพราะเห็นคนชอบพยายามมาออกสื่อและให้สัมภาษณ์ ทำให้มีข้อขัดแย้งโดยไม่จำเป็น   ดังนั้นจึงพยายามลดความขัดแย้ง ให้เกียรติทุกคน บางคนพยายามมาสมัครเป็นหัวหน้าพรรค เช่น พันโทหญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล สมาชิกพรรค ที่มาหาตนและกรรมการบริหารที่พรรค หรือหลายคนเขียนจดหมายมาบอกว่าอยากเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งข้อที่ได้เห็นชัดคือประชาชนส่งไลน์มาแสดงความห่วงใย ดังนั้นผู้ที่พร้อมและต้องการสมัครจึงไม่อยากออกมาพูดล่วงหน้า ยกเว้นนายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการหัวหน้าพรรค ที่แสดงจุดยืนสมัครชัดเจน และเคยลงสมัครมาแล้ว 2 ครั้ง ดังนั้นให้ไปรอดูวันเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ขอไปล่วงล้ำมากกว่านี้ และไม่ขอกล่าวถึงข้อเสนอเรื่องแก้ไขข้อบังคับพรรคเพื่อให้มีการเลือกหัวหน้าคนใหม่

ส่วนกรณีที่ลูกพรรคแสดงความเห็นในพื้นที่ส่วนตัวเกี่ยวกับประเด็นเรื่องหัวหน้าพรรคนั้น นายชวนกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มี 25 เสียง บัญชีรายชื่อมีเพียง 3 คนเท่านั้น ควรจะเจียมเนื้อเจียมตัว ได้มาโดยคะแนนบริสุทธิ์ 9 แสนกว่าเสียงเท่านั้นเอง แม้กระทั่งในพื้นที่ภาคใต้ยังแพ้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นเราต้องประมาณตัวเอง และรู้ตัวว่าคนเลือกเราน้อยแค่ไหน ถ้ารู้สถานการณ์รู้ความจริงอย่างนี้ ต้องคิดในทางบวกว่าพรรคจะต้องได้คนประเภทใดมาแก้ปัญหา

 “เหนือสิ่งอื่นใด พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งมา 77 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 78 ความเชื่อเรื่องเลือกตั้งสุจริต ความเชื่อเรื่องไม่ซื้อเสียง ไม่ควรจะเลือนหายไป แม้ว่าสื่อจะมองเรื่องนี้น้อยลงแล้ว มีคนส่งไลน์มาให้ผม ถึงขั้นสื่อบอกว่าถ้ามัวแต่คิดไม่โกงไม่กิน ไม่สิ้นชาติ มันหมดยุคแล้ว พูดง่ายๆ  ยุคนี้เขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้แล้ว ใครชนะเลือกตั้งก็จบ ไม่ต้องสนใจว่าจะซื้อเลือกตั้งมาหรือเลือกตั้งมาสุจริต ถ้าความเชื่อเหล่านี้ยังมีอยู่ประชาธิปไตย 91 ปีที่ผ่านมา เกือบจะพูดได้ว่าเราไม่ได้ไปสู่เป้าหมายของอุดมคติ ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ดำรงสิ่งนี้มายาวนานถึง 77 ปี จึงควรจะรักษาไว้อย่างนี้ต่อไป เพราะฉะนั้นผู้นำพรรคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราก็หวังว่าเขาจะทบทวนเรื่องอุดมคติของพรรคที่ได้ประกาศไว้ในอดีต” นายชวนระบุ

อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อยากให้หัวหน้าพรรคคนใหม่สร้างความเป็นหนึ่งเดียว หลอมรวมและกอบกู้ความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ อย่าไปคิดว่าต้องรุ่นนั้นรุ่นนี้ บางเรื่องของใหม่ดีกว่า แต่บางเรื่องของเก่าที่ดีต้องเก็บรักษาไว้ และตนเคยใช้คำว่าประเทศรุ่งเรืองเมื่อบ้านเมืองสุจริต สิ่งเหล่านี้จะเป็นอมตะ แต่ในบางช่วงที่เปลี่ยนแปลงและน่าตกใจเหมือนช่วงที่ผ่านมา เราจะรักษาอะไรไว้หรือเปลี่ยนแปลงอะไร ผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคก็ต้องทำต่อไป แต่ชุดใหม่ควรประกอบไปทุกรุ่น ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต อดีตก็มีความดีงามปรากฏไว้ ไม่มีสิ่งดีงามก็อยู่ไม่ได้ถึง 77 ปี

เมื่อถามว่า หากในอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน  อนาคตทางการเมืองของนายชวนจะเป็นอย่างไร นายชวนกล่าวว่า เป็นห่วงว่าสมาชิกบางส่วนไม่ค่อยสนใจ อาจจะเป็นเพราะไม่รู้อดีตว่าเป็นอย่างไร ทำให้มองข้ามเรื่องนี้ไป แต่เห็นด้วยว่าถ้าพรรคตั้งใจ ซึ่งทุกพรรคก็มีคนดีอยู่ จะไปเหมาทั้งหมดไม่ได้ และหากบางพรรคยังคงยึดมั่นและเชื่อคนโกงอยู่ ไปร่วมก็อันตราย ทั้งนี้ ยืนยันว่ายังไม่มีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้สัมภาษณ์ นายชวนได้หยิบไม้เซลฟีที่มีโทรศัพท์มือถือของสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่กำลังไลฟ์สดอยู่มาถือ แล้วกล่าวขอบคุณ สำหรับ 9 แสนคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์ ทำให้ตนได้เข้ามาทำงานในสภาอีกครั้ง

ด้านนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่องจากใจถึงใจ คนรัก ปชป. วันที่ 8 ก.ค. เจอกันที่ลานพระแม่ธรณีฯ  พรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุตอนหนึ่งว่า มีหลายคนประสานมายังตน ต้องการให้ช่วยนัดวันพบปะกันระหว่างสมาชิก เพื่อแสดงจุดยืนก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ค. โดยได้ข้อสรุปว่าจะนัดเจอกันในวันเสาร์ที่ 8 ก.ค. เวลา 09.00 น. ณ ลานพระแม่ธรณี พรรคประชาธิปัตย์ โดยเริ่มต้นด้วยการสักการะขอพรพระแม่ธรณีบีบมวยผม ต่อจากนั้นจะเปิดเวทีเสวนาเล็กๆ เพื่อให้สมาชิกได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันตลอดทั้งวัน

 “ขอยืนยันว่าการพบปะกันในหมู่คนรักพรรค ปรารถนาที่จะเห็นการฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเป็นสถาบันทางการเมืองในครั้งนี้ มิได้มีวาระซ่อนเร้นเพื่อผลักดันใครเป็นหัวหน้าพรรค แต่ต้องการเห็นพรรคกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องในทางการเมือง เปิดโอกาสให้ทุกเสียงในที่ประชุมใหญ่ ได้ร่วมชี้ชะตากำหนดอนาคตพรรค ด้วยการงดเว้นการใช้ข้อบังคับที่กำหนดให้ สัดส่วนของ ส.ส. คิดเป็น 70% ขององค์ประชุมทั้งหมด เป็นทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากัน ผมเชื่อว่าถ้าลดเพดานความอยากลง หลายคนจะเห็นความจริงตรงหน้ามากขึ้นว่า หัวหน้าพรรคคนต่อไปมีความสำคัญต่อพรรค มากกว่าการเป็นหุ่นเชิดให้ใครใช้เพื่อก้าวสู่อำนาจเท่านั้น” นายเชาว์ระบุ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรค และผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐทีวีว่า ถือเป็นการตั้งโจทย์ที่สำคัญว่าพรรคต้องการผู้นำแบบไหนในสถานการณ์ที่พรรคอยู่ในภาวะถดถอย และแสวงหาจุดยืนที่จะนำพาพรรคให้มาเป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศ ซึ่งผู้นำคนใหม่จะต้องมีจุดยืนชัดเจนในความเป็นประชาธิปไตย พร้อมจะระดมพลังทั้งของคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่า และกลุ่มต่างๆ ในพรรค ให้สามารถมีความเป็นเอกภาพเกิดพลังของการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูป ส่วนที่มีข่าวว่าทาบทามนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ลงแข่งหัวหน้าพรรคนั้น ถือเป็นเรื่องดีและทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากนายสุชัชวีร์เป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่เข้าสู่การเมือง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง