ตร.กางแผนรอ‘ทักษิณ’กลับไทย

“อิ๊งค์” เผย “ทักษิณ” บินกลับไทยแน่! หลังการเมืองนิ่ง ไม่เดือนนี้ก็เลื่อนไม่มาก หลุด! เอกสารประชุม บช.น. กำหนดเส้นทางจากสนามบินไปศาล เตรียมรับทักษิณ 26 ก.ค. "รอง ผบช.น." ยอมรับเป็นเรื่องการเตรียมความพร้อม เผยได้ข้อมูลจาก twitter และ clubhouse

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ค. ได้คุยกับคุณพ่อ (นายทักษิณ)  เรื่องการเดินทางกลับ ซึ่งคุณพ่อระบุว่าเวลาการเดินทางกลับจะบวกลบกับที่เคยบอกไว้ไม่มาก เพราะเป็นคุณพ่อแม้จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่คนก็มองภาพว่าเป็นการเมือง ท่านไม่อยากให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา  ถ้ากลับมาแล้วเป็นการแก้ปัญหาได้จะดีกว่า ไม่ใช่กลับมาในช่วงที่การเมืองยังไม่นิ่งแล้วทำให้เกิดความวุ่นวาย ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ส่วนตัวคิดว่าเปลี่ยนวันกลับไม่มาก และยืนยันว่าจะเดินทางกลับหากไม่ใช่เดือน ก.ค.ตามที่เคยบอกไว้ ก็อาจเลื่อนออกไปไม่มาก ต้องดูก่อนว่าการโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 13 ก.ค. จะจบลงอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเดินทางกลับมาหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า  คุณพ่อไม่ได้พูดว่าต้องตั้งรัฐบาลก่อนแล้วกลับมา ไม่ได้มีโจทย์นั้น แต่ขอให้การเมืองนิ่งกว่านี้หน่อย เมื่อกลับมาจะได้ไม่เป็นการกระตุ้นทางการเมือง เพราะการกลับมาของคุณพ่อจะกลายเป็นประเด็นการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งก็ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย ท่านห่วงประเทศในเรื่องนี้ อยากให้การจัดตั้งรัฐบาลรวมถึงการโหวตเลือกนายกฯ นิ่งก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัจจัย

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล  (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีสำเนาหนังสือระเบียบวาระการประชุม การเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ การประชุมดังกล่าวระบุวันที่ 12 ก.ค. เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมปารุสกวัน 1 ชั้น 2 อาคาร บช.น.

โดยระเบียบวาระการประชุมมีด้วยกัน 5 ข้อ ระเบียบที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ, ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องเพื่อทราบ 2.1 สถานการณ์การข่าวและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์และภัยคุกคาม (บช.ส.1) 2.2 ขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ

ระเบียบวาระที่ 3 เป็นเรื่องพิจารณา ประกอบด้วย 3.1 การพิจารณากำหนดเส้นทางการเดินทาง (บก.จร.) ได้แก่ 3.1.1 เส้นทาง (หลักและรอง) จากสนามบินสุวรรณภูมิมายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.2 เส้นทาง (หลักและรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.3 เส้นทาง (หลักและรอง) ในการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมายัง บช.ปส. (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.4 เส้นทาง (หลักและรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมายัง บช.ปส. (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.5 เส้นทาง (หลักและรอง) จาก บช.ปส. มายังศาลฎีกา (สนามหลวง) และ 3.1.6 เส้นทาง (หลักและรอง) จากศาลฎีกา (สนามหลวง) มายังเรือนจำพิเศษ กทม.

3.2 แนวทางการวางกำลังรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร (พื้นที่ที่เกี่ยวข้อง) แบ่งเป็น 3.2.1 เส้นทางการเดินทาง ตามข้อ 3.1.1-3.1.6 และ 3.2.2 การบริหารจัดการพื้นที่ และการวางกำลังรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร ในแต่ละสถานที่ (สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง, บช.ปส. และศาลฎีกา)

3.3 แนวทางการจัดรูปแบบขบวนรถในการรักษาความปลอดภัย (บก.จร. และ บก.สปพ.), ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องหารือ/เสนอแนะ (ปัญหา อุปสรรค ขัดข้อง) และระเบียบวาระที่ 5 ข้อสั่งการผู้บังคับบัญชา

ซึ่งก่อนหน้านั้น วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. ได้มีวิทยุในราชการกองบังคับการตำรวจนครบาล ด่วนที่สุด ที่ 0015.135/9287 ถึง ผบก.น.1, 2, 3, 4,  จร.สส., สปพ. และ อก. โดยเนื้อหาระบุ 1.อ้างถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบร้อยและการจัดการจราจรบุคคลสำคัญในพื้นที่ บช.น. 2.เพื่อการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและการจัดการจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำหนดให้มีการประชุม วันที่ 12 ก.ค. เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมปารุสกวัน ชั้น 2 อาคาร บช.น.

ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น., ผบก.น.1-4, ผบก.ตม.2, ผบก.ส.1 นอกจากนี้ยังมีรอง ผบก.จร.สส., สปพ. และ อก. (ในสายความมั่นคง) ผกก.สน.ดุสิต, นางเลิ้ง, ชนะสงคราม, ดอนเมือง,ประชาชื่น, ทุ่งสองห้อง, ลาดกระบัง, สน.ทางด่วน และ สน.วิภาวดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ มีการตั้งข้อสังเกตว่า บุคลสำคัญดังกล่าวคือนายทักษิณหรือไม่ เพราะระเบียบการต่างสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่ระบุว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยเดือน ก.ค.นี้ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และในระเบียบวาระประชุมระบุมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ

พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ยอมรับว่าการประชุมดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อวางแผนในการปฏิบัติงานหากอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับประเทศไทย โดยจากข้อมูลการข่าวที่ติดตามจากใน twitter และการพูดคุยผ่านพอดแคสต์ของแอป clubhouse ซึ่งมีข้อมูลว่านายทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทยภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จึงมีความจำเป็นต้องเตรียมแผนการรับมือหากอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับตามแผนที่ระบุไว้จริง

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า น.ส.แพทองธารจะเปิดเผยว่าบิดาเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทยไปอย่างไม่มีกำหนดก็ตาม  แต่เป็นแผนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเตรียมการไว้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการประชุมเตรียมแผนงานดังกล่าวไม่ได้มีนัยสำคัญทางการเมืองใดๆ แต่เป็นการเตรียมความพร้อมตามข้อมูลการข่าวที่ตำรวจนครบาลได้รับทราบผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ อีกทั้งหากมีการเดินทางกลับมาจริง กองบัญชาการตำรวจนครบาลก็จะต้องเป็นหน่วยงานหนึ่งในการรับผิดชอบการนำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

มีรายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบการดูแลกรณีนายทักษิณเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย หลังจากนายทักษิณประกาศจะเดินทางกลับมาในวันที่ 26 ก.ค.2566 รวมทั้งมีคนใกล้ชิดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทราบคดีต่างๆ ของนายทักษิณทั้งหมด ซึ่งพล.ต.ท.ประจวบได้สั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ตรวจสอบคดีต่างๆ ของนายทักษิณ และรวบรวมส่งมาที่ ตร. เพื่อนำไปแจ้งข้อหานายทักษิณในวันที่เดินทางถึงประเทศไทย และให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เตรียมความพร้อมในเรื่องความปลอดภัยและการจราจร รวมทั้งสถานที่ควบคุมตัว ก่อนที่จะนำตัวนายทักษิณส่งศาลและเรือนจำตามขั้นตอนต่อไป

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า นายทักษิณเป็นคนพูดเอง ถ้าไม่ได้พูดก็ไม่มีอะไรต้องทำ แต่เมื่อพูดคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องเตรียมตัวเป็นธรรมดา อย่าว่าแต่กรณีของนายทักษิณ สมัยก่อนในคดีนายราเกซ สักเสนา ก็ต้องมีการเตรียมการไว้แบบนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.