‘ป้อม-หนู’เงียบดีลฮ่องกง หึ่ง!แม้วให้ปชป.มา25คน

“บิ๊กป้อม-เสี่ยหนู” ขอเงียบปมดีลลับฮ่องกง “วราวุธ” แจงภาพประภัตรไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์ทักษิณไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสนิทส่วนตัวกว่า 30 ปี   สะพัด! แม้วบอกให้ ปชป.มาทั้ง 25 คนจึงให้กระทรวงเกษตรฯ แต่ถ้ามาแค่กลุ่มเดชอิศม์ชวด “โหวตเตอร์ก้าวไกล” ทวงถามพ่อฟ้าเรื่องดีลลับ

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ปี 2551 แต่ล่าสุดประกาศจะกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค. ที่สนามบินดอนเมือง โดยทวิตเตอร์ @ThaksinLive ของนายทักษิณได้แชร์วิดีโอคลิปของเสก โลโซ ที่ร้องเพลงนานเท่าไรก็รอ มอบให้พร้อมระบุข้อความว่า    “ขอบคุณเสกมากที่ร้องเพลงนานเท่าไรก็รอให้ผม คอนเสิร์ตคราวหน้าถ้าเบิร์ดไม่ว่างเชิญผมแจมได้นะ”

ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการรับตัวนายทักษิณว่า ตามนโยบายสิ่งสำคัญจะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะภายในเรือนจำมีคนจำนวนมาก จะให้ไปอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังอื่นๆ อาจไม่ปลอดภัย หรือต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุมใกล้ชิด หรือให้ความเป็นส่วนตัวเพื่อป้องกันเหตุ สำหรับเรื่องผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์ผู้สูงอายุ จะมอบหมายให้ทำงานคงไม่ได้ และมีโปรแกรมของผู้ต้องขังสูงอายุ เช่น อ่านหนังสือหรือสอนหนังสือ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาในภายหลังเมื่อได้รับตัวมาแล้ว

นายอายุตม์ระบุว่า สิทธิอื่นๆ ต้องดูตามความเหมาะสม เช่น การเยี่ยมปกติจะให้เข้าเป็นรอบเวลาและเป็นแดน ซึ่งถ้านายทักษิณเข้ามาแล้วอาจมีกลุ่มครอบครัวหรือญาติ เพื่อนฝูง องค์กรสิทธิต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาจำนวนมากแล้วเข้าไม่ได้จะเกิดปัญหา ก็ต้องวางแผนบริหารจัดการ ขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ส่วนจะเข้าเยี่ยมได้ทันทีในวันแรกหรือวันถัดไป ก็ต้องดูความเหมาะสมเช่นกัน โดยมอบหมายนายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ช่วยกำกับดูแลในเรื่องนี้

“ในกลุ่มผู้ต้องขังสูงอายุ จัดอยู่ในกลุ่ม 608 ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คัดแยกเฝ้าระวัง ซึ่งการเยี่ยมจะผ่านโทรศัพท์หรือพูดคุยซึ่งหน้านั้น ราชทัณฑ์จะจัดหาจุดเข้าเยี่ยมให้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิดในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม ส่วนห้องแอร์ในเรือนจำมีเฉพาะห้องทำงานของเจ้าหน้าที่และห้องทำงานผู้ต้องขังฝ่ายการศึกษา  นอกนั้นเป็นห้องพัดลม ยกเว้นทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต้องติดแอร์ เพราะเป็นห้องความดันลบ”

ขณะเดียวกัน กรณีดีลลับฮ่องกงนั้น ที่ท้องสนามหลวง ภายหลังพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปีพุทธศักราช 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธตอบคำถามกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลเดินทางไปพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ฮ่องกง ว่าพรรคพลังประชารัฐได้มีการส่งตัวแทนไปพูดคุยด้วยหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรยังปฏิเสธตอบคำถามถึงท่าทีการโหวตนายกฯ ในครั้งหน้า รวมถึงปฏิเสธตอบที่จะเตรียมร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ปฏิเสธตอบคำถามกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาเปิดเผยข้อมูลดีลลับ เรื่องให้พรรคอันดับที่ 3 จัดตั้งรัฐบาล

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีภาพนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรค ชทพ. เดินทางไปอวยพรวันเกิดนายทักษิณว่า ทราบเรื่องนี้เมื่อเห็นภาพปรากฏในสื่อ แต่หากถามว่าแปลกใจหรือไม่นั้น นายประภัตรและนายทักษิณเป็นเพื่อนสนิทกันมานานกว่า 30 ปี มีความสนิทชิดเชื้อกันมาโดยตลอด มั่นใจว่าการไปอวยพรวันเกิดและการไปพบกันครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมืองแน่นอน ถ้าเกิดมีอะไรขึ้นมาก็ต้องเป็นคนพิจารณาก่อน ยืนยันว่าการเดินทางไปครั้งนี้ของนายประภัตรเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้ไปในฐานะเลขาธิการพรรค ชทพ.หรือว่าอะไรทั้งนั้น

เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถามเรื่องนี้กับ นายประภัตรหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ได้ถามเพียงแค่ว่าได้ลาราชการถูกต้องแล้วหรือไม่ ซึ่งนายประภัตรระบุว่า ลาราชการอย่างถูกต้อง

ถามต่อว่า นายประภัตรได้มาพูดคุยหรือไม่ว่าได้มีการแลกเปลี่ยนเรื่องทางการเมืองกับนายทักษิณอย่างไร นายวราวุธกล่าวว่า ไม่ได้ถาม เพราะทราบดีอยู่ว่านายประภัตรและนายทักษิณเป็นเพื่อนเก่ากันมานาน หลายครั้งในช่วงที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ยังมีชีวิตอยู่ นายประภัตรและนายทักษิณก็มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด เพราะเป็นเพื่อนกันมา ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร

                    เมื่อถามว่า หากมีการตัดสินใจอะไรต้องนำกลับเข้ามาในที่ประชุมของพรรค ชทพ.ใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ต้องเข้าสู่คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก่อน และผู้ใหญ่ภายในพรรคต้องมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

ถามย้ำว่า นายประภัตรไม่ได้บอกใช่หรือไม่ว่ามีการเคลียร์อะไร นายวราวุธกล่าวว่า ไม่มี และไม่ได้ถามด้วย มั่นใจว่าไม่มีอะไร ถ้ามีอะไร กก.บห. และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. ก็ต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

เมื่อถามว่า ภาพที่ออกมาเหมือนนายประภัตรไปดีลการจัดตั้งรัฐบาล นายวราวุธกล่าวว่า ไม่มีหรอก เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตนและนายประภัตรก็ยังไปพรรคเพื่อไทย (พท.) ด้วยกันอยู่เลย พอมาวันอังคารแล้วมีภาพปรากฏ อย่างที่ทราบหากมีอะไรก็คงคุยกันจบที่พรรค พท.แล้ว 

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป.ได้เดินทางไปฮ่องกงพบกับนายทักษิณเพื่อเจรจาถึงการร่วมรัฐบาลของพรรค ปชป. ว่ายืนยันได้ว่า ปชป.ไม่เคยส่งใครไปเจรจากับนายทักษิณ เพราะตามหลักการของพรรค โดยเฉพาะเรื่องการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ไม่ได้เป็นอำนาจการตัดสินใจของใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะการร่วมรัฐบาลถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องมีการปรึกษาหารือกันในพรรคอย่างละเอียดรอบคอบ

“พรรคมีข้อบังคับที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อมีประเด็นการที่จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ จะต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่าง กก.บห. และ สส.ของพรรคชุดปัจจุบันที่จะต้องร่วมกันพิจารณา แล้วจึงจะมีมติพรรคออกมาว่าจะเป็นไปในทิศทางใด” นายราเมศกล่าว

นายราเมศยังกล่าวถึงกรณีที่จะมีการเลือกหัวหน้าพรรค ปชป. จะทันต่อการพิจารณาเรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า กก.บห.ชุดปัจจุบันซึ่งทำหน้าที่รักษาการอยู่ ก็มีอำนาจในการร่วมพิจารณา ไม่ใช่เฉพาะกรณีร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล แต่สามารถร่วมพิจารณาได้ในทุกๆ เรื่อง สำหรับการที่มีรายงานข่าวกรณีของนายเดชอิศม์นั้น อยากให้ไปสอบถามเจ้าตัวจะดีกว่า

รายงานข่าวกรณีนายเดชอิศม์เดินทางไปพบนายทักษิณนั้น พบว่าการเจรจาไม่ลงตัว เนื่องจากนายเดชอิศม์แจ้งว่ามี สส.เพียง 16 คนมาร่วมเท่านั้น ไม่ได้มาทั้งหมด โดยกลุ่มนายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่สนับสนุนให้เข้าร่วมรัฐบาล ดังนั้นแกนนำพรรค พท.จึงให้กลับไปหาข้อยุติในพรรค ปชป. หากจะมาต้องครบ 25 คน และมีมติพรรครับรอง นอกจากนี้ นายเดชอิศม์ได้ยื่นข้อเสนอขอให้พรรค ปชป.ได้มีบทบาท คุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งพรรค พท. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ต้องการเข้ามาคุมกระทรวงเกษตรฯ เช่นกัน ดังนั้นหาก ปชป.ไม่มาทั้งพรรค พรรค พท.คงให้กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้

วันเดียวกัน นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์และหัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์ตั้งคำถามในเพจศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง  ความว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ต้องตอบคำถามกรณีซูเปอร์ดีลในฐานะที่เป็นโหวตเตอร์คนหนึ่ง กรณีเกิดคำถามว่านายธนาธรไปร่วมเจรจาซูเปอร์ดีลหรือไม่ เป็นคำถามที่ต้องให้คำตอบอย่างชัดเจน เพราะการนิ่งเงียบหรือหลบหลีกไม่ตอบคำถามนี้ จะสั่นคลอนต่อความเชื่อมั่นในแนวทางของพรรค นักการเมืองที่ผู้คนคิดว่าจะแตกต่างจากพรรคการเมืองดั้งเดิม

“ในฐานะพลเมือง ผมคาดหวังจะเห็นการทำงานการเมืองที่ตรงไปตรงมา ไม่ใช่การเล่นการเมืองที่ใช้การเจรจาแบบลับๆ  นอกจากสายตาของสาธารณะ หากพรรคก้าวไกลจะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล คุณพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ข้อเสนอ 112 ต้องตกไป ฯลฯ ก็ต้องทำให้เห็นว่าเป็นผลมาจากพลังอำนาจของฝ่ายอนุรักษนิยม และรัฐธรรมนูญที่วิปริตหากจะมีดีลลับระหว่างพรรคการเมืองอื่นๆ นั่นก็เป็นแนวทางที่ไม่ควรต้องเข้าไปแปดเปื้อนด้วย”นายสมชายกล่าว

นายสมชายโพสต์อีกว่า ถ้านายธนาธรไม่ได้ไป ก็ต้องปฏิเสธให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้คนมั่นใจว่าแนวทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยยังคงเดินไปอย่างโปร่งใส  ถ้าไปจริง ก็ต้องอธิบายว่าอะไรคือเหตุผลอะไรคือเป้าหมายของการเจรจา แน่นอนถ้าเห็นว่าเป็นจังหวะก้าวที่ผิดพลาดก็ควรต้องยอมรับ และเป็นบทเรียนต่อไปในภายภาคหน้า

ขณะที่นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ นักเขียนและบรรณาธิการชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า พรรคก้าวไกลประกาศตัวเป็นการเมืองใหม่ ในฐานะโหวตเตอร์ของพรรคก้าวไกล นายธนาธรควรต้องแถลงให้ชัดเจนต่อสาธารณะว่าไปไหนมา ไปทำอะไร.