ใต้ระอุ!คาร์บอมบ์-ซุกบึ้ม

ด้ามขวานป่วน! ตำรวจไล่ล่าแก๊งคาร์บอมบ์เมืองนราธิวาส เชื่อฝีมือกลุ่มสุไหงปาดี-แว้ง หวังสร้างสถานการณ์ ผบก.ยะลาสั่งคุมเข้ม 24 ชั่วโมง  ผวาคนร้ายก่อเหตุซ้ำ หลังพบระเบิด 15 กก.ซุกโรงพัก

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2566 มีความคืบหน้าหลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่บริเวณสี่แยกอรกานต์ หมู่ 1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5  ส.ค. โดยเจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นการจราจรเพื่อความปลอดภัย และเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบระเบิดแสวงเครื่องอีก 1 ลูก ในถังแก๊สปิคนิคหนัก 20 กก. อยู่ข้างรางรถไฟ  โดยมีซากชิ้นส่วนรถเก๋งตกเกลื่อนพื้นถนน 2 จุดใหญ่ ซึ่ง จนท.ได้ใช้เวลา 15 นาทีในการเก็บกู้ คาดว่าระเบิดแสวงเครื่องในถังแก๊สปิคนิคลูกนี้จะเป็นลูกที่กระเด็นออกจากรถเก๋ง ทำให้ประสิทธิภาพการทำลายล้างของระเบิดคาร์บอมบ์ในช่วงคืนที่ผ่านมามีอานุภาพน้อยลง

ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้แยกย้ายกันทำงาน 3 ชุด ชุดที่ 1 ขับรถเก๋งคาร์บอมบ์ซึ่งมีระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิค 2 ลูก หนักประมาณ 50 กก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา เมื่อมาถึงบริเวณ 4 แยกอรกานต์ คนร้ายชุดที่ 2 ที่ซุ่มอยู่หน้าอาคารน็อกดาวน์ได้ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิงข่มขู่ คนขับรถเก๋งคาร์บอมบ์ที่จอดบริเวณ 4 แยกได้เปิดประตูรถวิ่งไปขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีไป จากนั้น 5 นาทีจึงเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ลูกระเบิด 1 ใน 2 ที่ไม่ทำงานกระเด็นตกลงมาอยู่บนถนนริมทาง และคนร้ายชุดที่ 3 ได้ขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ 1 ลูก เพื่อเบิกเส้นทางให้คนร้ายทั้ง 2 ชุดที่ก่อเหตุแล้วได้หลบหนีอย่างสะดวก

พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาได้เร่งรัดให้ติดตามความคืบหน้าคนร้าย เบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.แว้งที่มีประวัติการลักลอบเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่

ทั้งนี้ เหตุการณ์คาร์บอมบ์ครั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายมุ่งสร้างสถานการณ์ ไม่มุ่งต่อชีวิตหรือทรัพย์

ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าที่ผ่านมา สภ.เมืองยะลาได้ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยภายในโรงพัก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ได้เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบริเวณข้างรั้ว ที่เป็นจุดจอดรถจักรยานยนต์ที่ตำรวจได้ตรวจยึดมาเป็นของกลาง ทางเจ้าหน้าที่ใช้หุ่นยนต์เข้าตรวจสอบ พร้อมยิงทำลายวัตถุดังกล่าว จำนวน 3 ครั้ง ใช้ระยะเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงเก็บกู้ไว้ได้อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบพบเป็นระเบิดถังดับเพลิงขนาด 15 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร เบื้องต้นคาดคนร้ายได้ปีนรั้วนำมาวางไว้ภายใน สภ.เมืองยะลา เพื่อหวังสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

ส่วนกรณีเหตุระเบิดด้านหลังศาลาธรรมศาสตร์ สนามโรงพิธีช้างเผือก เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5  ส.ค. ที่มีผู้บาดเจ็บ 2 รายนั้น จากการตรวจสอบพบเป็นประทัดยักษ์

พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้เน้นย้ำกับผู้กำกับการ และรองผู้กำกับการ หัวหน้าทุกสถานีตำรวจภูธร (สภ.) ในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.ยะลา ให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด ให้เพิ่มการดูแลรักษาความปลอดภัยตามมาตรการป้องกันในพื้นที่อย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะด่าน 4 มุมเมือง เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ

ที่อาคารผู้ป่วย โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย  เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดรถยนต์บรรทุกทางทหารของกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย บนเส้นทางสายเอเชีย หมายเลข 42 ขาลงไปจังหวัดนราธิวาส ในพื้นที่ ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ทำให้มีกำลังพลเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 5 นาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง