"พิธา" ได้ทีฟ้องสังคม หลัง กก.ไต่สวนฯ ยกคำร้องคดีหุ้นไอทีวีไม่ผิดอาญา ม.151 อัด กกต. ละเลยข้อเท็จจริง-แนวคำตัดสินศาล ไม่พิจารณาว่าสื่อมีรายได้หรือไม่ พร้อมกล่าวหาจงใจกลั่นแกล้งการเมือง ขวางเป็นนายกฯ ด้านอดีตแกนนำพิราบขาวบุกถามความคืบหน้าคำร้องยุบ พท. ปม "เต้น" ครอบงำ
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ลงเพจเฟซบุ๊กถึงกรณีคดีหุ้นไอทีวี โดยระบุว่า เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) มีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติว่าจะให้ยกคำร้องตนในคดีอาญามาตรา 151 เรื่องการรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังลงสมัคร จากการถือหุ้นไอทีวี โดยคณะกรรมการสืบสวนมีเหตุผลสำคัญว่า บริษัท ไอทีวีฯ ไม่มีการดำเนินกิจการอยู่ และไม่มีรายได้จากการเป็นสื่อ จึงไม่ถือว่าตนมีความผิด
ยืนยันอีกครั้งว่า คดีหุ้นไอทีวีของตน เป็นที่น่าสงสัยว่าเป็นการจงใจกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ เพราะถือหุ้นนี้มาตลอดเวลาที่ทำงานการเมือง เป็น สส.มา 4 ปี แต่เพิ่งจะเกิดการร้องเรียนกันขึ้นในเวลาที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้าการเสนอชื่อต่อสภาไม่กี่วัน รวมถึงมีหลักฐานความผิดปกติมากมายที่บ่งชี้ว่ามีความพยายามปลุกปั้นให้บริษัท ไอทีวีฯ ซึ่งเลิกกิจการสื่อไปนานกว่า 10 ปี กลับมาเป็น "หุ้นสื่อ" ให้ได้
มาวันนี้ ที่มีการเปิดเผยมติของคณะกรรมการไต่สวนออกสู่สาธารณะแล้วว่าตนไม่ผิด ทำให้มีประเด็นคำถามที่ขอถามไปยัง กกต. ดังนี้ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดังกล่าว ซึ่งทำคดีมาตรา 151 (คดีอาญา) มีมติก่อนที่ กกต.จะพิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถึงแม้ว่า กกต.จะอ้างว่า การพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เป็นคนละกระบวนการกับการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่คณะกรรมการสืบสวนฯ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่รวบรวมพยานหลักฐานและเรียกพยานบุคคลมาสอบข้อเท็จจริง ได้เห็นข้อเท็จจริงว่า ไอทีวีมิได้ประกอบกิจการสื่อ และมิได้มีรายได้จากกิจการสื่อมวลชนในขณะที่ตนสมัครรับเลือกตั้งแต่อย่างใด
แต่ กกต.กลับยังยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยละเลยข้อเท็จจริงบางประการที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้หยิบยกมาพิจารณา และละเลยแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวางหลักเรื่องการมีรายได้และที่มาของรายได้เป็นเกณฑ์ว่าบริษัทใดเป็นสื่อหรือไม่ การที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนมีมติว่า หุ้นไอทีวีไม่ใช่หุ้นสื่อ นอกจากจะสอดคล้องกับแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็สอดรับกับความเห็นของประชาชนทั่วไปอีกด้วย
ดังนั้น การสั่งให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งๆ ที่ไอทีวี และอินทัช ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ล้วนแต่มีเอกสารงบการเงินยืนยันว่า ไอทีวีหยุดประกอบกิจการ และไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการสื่อ ประกอบกับคดีหุ้นสื่อของ สส. นอกจากคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปี 2563 ประมาณ 60 คน ศาลก็ไม่ได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด แต่ในคดีตน กลับสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้สังคมพิจารณาว่าการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่มีความเป็นธรรมหรือไม่
ที่สำนักงาน กกต. นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 ยื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อขอทราบคำตอบในเรื่องที่ตนยื่นร้องเรียนให้ กกต.มีการตรวจสอบ กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับพรรคเพื่อไทย ที่ให้นายณัฐวุฒิ ผู้ซึ่งโทษจำคุกคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ได้ แต่ได้แสดงออกในลักษณะครอบงำพรรคเพื่อไทย โดยไปนั่งแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทยนั้น ผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 มาตรา 29 และเป็นเหตุให้ยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) เรื่องนี้ได้ยื่นมาตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2566 แต่จนถึงขณะนี้ 6 เดือนแล้ว แต่กลับไม่มีอะไรมากไปกว่าการบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ในขณะที่ชั้นกรรมการไต่สวนบอกว่ามีมูล จึงขอให้ กกต.ตอบให้หายสงสัย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.ถอยแก้กฎเลือกสว. แนะนำตัวผ่านโซเชียลได้
กกต.ยอมรื้อกฎเหล็ก ให้ผู้สมัคร สว.แนะนำตัวผ่านโซเชียลได้ทุกแพลตฟอร์ม
ขู่ฟ้องปิดปากดรามาข้าวเน่า
“ภูมิธรรม” บอกไม่โมโห แต่ขอหยุดดรามาข้าว ไม่งั้นเจอฟ้องแน่
ยธ.ตั้งกก.สอบ เหตุบุ้งเสียชีวิต ส่งรพ.ชันสูตร
"บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิตจากอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน เวลา 11.22 น.
สัญจรเพชรเทงบ515ล. ยื้อตั้งรมช.แทนกฤษฎา
ครม.สัญจรเมืองเพชร อนุมัติงบ 515 ล้าน 18 โครงการ ลง 4 จว.ภาคกลางตอนล่าง "เศรษฐา" โอ่ลงพื้นที่ได้เข้าถึงปัญหา
ชิงเคาะค่าแรง 400 ครม.ปาดหน้า‘ไตรภาคี’ 16สภานายจ้างบุกขวาง
ครม.ไฟเขียวค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ก.ย.-ต.ค.นี้ 16 สภานายจ้างบุกกระทรวงแรงงาน
สส.รังสิมันต์ ถามหาคนรับผิดชอบ 'บุ้ง' เสียชีวิต
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความบนแอพพลิเคชัน X ถึงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุ