ดัชนีเชื่อมั่นดิ่ง เหตุตั้งรบ.ช้า ขานรับ‘ผยง’

“แบงก์ชาติ” ประเมิน ศก.ไทยไตรมาส 2 แผ่ว ชี้ส่งออกน้อยกว่าคาด ภาพรวมยังฟื้นตัวได้ แจงถอนคันเร่งนโยบายการเงิน หาจุดสมดุลดอกเบี้ย เอกชนเผยดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมต่ำสุดรอบ 10 เดือน กังวลตั้งรัฐบาลช้า หนุน "ผยง ศรีวณิช" นั่งขุนคลัง ร่วมดรีมทีมเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนาวิชาการ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ ประจำปี 2566 หัวข้อ “ก้าวต่อไปของเศรษฐกิจการเงินไทยและภาคใต้” ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยถือว่ายังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางช่วงอาจจะมีตัวเลขต่างๆ ที่อ่อนแอกว่าที่คาด ขณะที่แนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในไตรมาส 2/2566 ที่จะมีการประกาศในเดือน ส.ค. นี้ อาจจะไม่ได้ออกมาสวยหรูนัก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ไม่ได้ดีเหมือนที่คาดการณ์ โดยภาพรวมการฟื้นตัวหลักๆ ยังมาจากพื้นฐานการบริโภคภายในประเทศที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาเป็นแรงสนับสนุนสำคัญ ปีนี้ยังคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะขยายตัว 29 ล้านคน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลง และคาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3%

 “เดิมที่ ธปท.บอกจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ล่าสุดเราถอดคำนี้ออกไปแล้ว เป็นการสะท้อนว่าเราเริ่มใกล้จุดสมดุลแล้ว จุดที่เหมือนกับคันเร่งอยู่ถูกที่ ไม่ได้เป็นการเหยียบเบรก แต่เป็นการถอนคันเร่งให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ โดยอัตราดอกเบี้ยต้องอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับการเติบโตของศักยภาพเศรษฐกิจในระยะยาว อัตราเงินเฟ้อต้องอยู่ในกรอบยั่งยืนที่ 1-3% และต้องไม่ทำอะไรที่สร้างความเปราะบางหรือความไม่สมดุลกับเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้จุดสมดุล ดอกเบี้ยอยู่ในจุดที่เหมาะสม เอื้อให้เศรษฐกิจโตได้ตามศักยภาพ เงินเฟ้ออยู่ในกรอบ ส่วนจะถึงจุดเหมาะสมหรือยัง อยากให้รอให้ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบต่อไป” นายเศรษฐพุฒิระบุ

ส่วนปัจจัยเสี่ยงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้านั้น ยืนยันว่าไม่กระทบการทำนโยบายการเงิน โดย ธปท.ยังคงทำหน้าที่ต่อไป เพราะเหล่านี้เป็นเรื่องของโครงสร้าง ส่วนรัฐบาลจะเป็นใคร ถือเป็นเรื่องของเสถียรภาพ

ทางด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล   ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ค.2566 อยู่ที่ระดับ 92.3 ปรับตัวลดลงจากก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 94.1 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 10 เดือน เนื่องจากภาคการผลิตและอุปสงค์สินค้าชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้กำลังซื้อของครัวเรือนอ่อนแอลง และต่อความต้องการบริโภคสินค้าอุตสาหกรรมลดลง อัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาขึ้น ทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองยังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน

 สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.2 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 102.1 เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลต่อความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณภาครัฐ รวมถึงต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ส.อ.ท.จึงขอให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และออกนโยบายฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ

นายเกรียงไกรยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่มีการทาบทามนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ให้เป็น รมว.การคลัง ว่าหากเป็นจริงต้องขอแสดงความยินดี เนื่องจากนายผยงมีทั้งประสบการณ์ ความสามารถ และประวัติส่วนตัวที่ใสสะอาด ซึ่งเราต้องการรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ นอกจากนี้ นายผยงยังได้ผลักดันงานต่างๆ เช่น ดิจิทัลแบงกิ้ง เข้าใจเศรษฐกิจในภาพรวมเป็นอย่างดีด้วย

 “หากเป็นคุณผยงจริง ก็ต้องฉลอง  และต้องการเห็นดรีมทีมเศรษฐกิจ จะต้องดูหล่อ ต้องการคนที่เหมาะสม เก่ง ดี มีประสบการณ์ และที่สำคัญเป็นที่ยอมรับกับทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคน หากเป็นไปตามนั้น เชื่อว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนจะเป็นชุดใหม่หรือชุดเก่า ไม่ติด เพราะเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีคนเก่ง คัดคนให้เหมาะสมกับงาน" นายเกรียงไกร ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง