นายกฯถก‘คลัง-สศช.’ ลุยเงินดิจิทัลแจกต้นปี67

"เศรษฐา" ถกคลัง-สภาพัฒน์ เดินหน้า "ดิจิทัลวอลเล็ต" ยันคนไทยรับเงินหมื่นต้นปี 67 “กฤษฎา” พร้อมหนุนงานรัฐบาลเต็มที่ เลขาฯ  สศช.ปัดตอบใช้เกณฑ์อะไร ชี้รอแถลงนโยบายก่อน กบน. จ่อเคาะราคาก๊าซหุงต้มงวดใหม่

ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 29  สิงหาคม เวลา 09.00 น. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีชื่อจะได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้ามาพบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางการทำงานของกระทรวงการคลังในรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า “ดีมากเลยครับ ทางกระทรวงการคลังพร้อมให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาลอย่างเต็มที่”  

ต่อมานายเศรษฐาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ภายหลังการหารือร่วมกับนายกฤษฎาว่า นอกจากการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน ที่จะนำเงินนอกมาปลุกเศรษฐกิจไทยให้เงินไหลเข้าประเทศแล้ว รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย มีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการลงทุน และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศทันที ด้วย "นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต" คู่ขนานกันไป เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวครั้งใหญ่ ทั้งนี้ได้คุยกับกระทรวงการคลัง  สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเบื้องต้น เพื่อทำความเข้าใจกับทั้ง 2 หน่วยงานรัฐ

นอกจากนั้นยังได้พูดคุยกันในรายละเอียดเรื่องเทคโนโลยีร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเตรียมระบบที่จะสามารถรองรับการใช้งานสำหรับประชาชนจำนวน 56 ล้านคน และร้านค้าหลากหลายรูปแบบในไทย รัฐบาลจะเดินหน้ารับฟังความเห็นเพิ่มเติม เพื่อนำมาปรับใช้ให้นโยบายสามารถปฏิบัติได้จริง และมีประสิทธิภาพสูงสุด และขอยืนยันตามเป้าหมายเดิมว่า ประชาชนจะต้องได้รับดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ภายในต้นปี 2567 อย่างแน่นอน

ทางด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวถึงกรณีเข้าพบนายเศรษฐาเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ไม่มีอะไร เป็นเรื่องทั่วไป มีการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจ จากการรายแถลงผลิตภัณฑ์รวมเศรษฐกิจ และการรายงานภาวะสังคมไตรมาส 2 ปี 66 ที่ผ่านมา โดยขอยังไม่บอกในรายละเอียดที่ได้เข้าพบกับนายเศรษฐา

ส่วนเกณฑ์การแจกเงินดิจิทัลไม่เกี่ยวกับ สศช. และยังบอกไม่ได้ว่ามีเกณฑ์อย่างไรบ้าง ยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ต้องดูภาระการคลังที่มีด้วย ต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเรียบร้อยก่อน

มีรายงานข่าวจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า ในวันที่ 30 ส.ค.2566 จะมีการประชุมพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ก่อนสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในวันที่ 31 ส.ค. 2566 นี้ หลังจากตรึงราคาดังกล่าวมาเป็นเวลา 6 เดือน โดยเป็นมติเมื่อ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ กบน.ได้เห็นชอบขยายมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน อีก 2 เดือน โดยมีผลตั้งแต่1 ก.ค.-31 ส.ค. ซึ่งใกล้จะครบกำหนด ดังนั้น กบน.จึงต้องมาทบทวนใหม่

สำหรับภาพรวมสถานการณ์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 27 ส.ค.2566 ยังอยู่ในสภาวะติดลบ 55,091 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 10,375 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 44,716 ล้านบาท แต่ตามกำหนดการใช้กรอบวงเงินของกองทุนสามารถใช้ตรึงราคาได้สูงสุดไม่เกิน 48,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ เข้ามาพิจารณากรอบวงเงิน LPG ใหม่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กบน.ได้มีการตรึงราคา LPG ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.2566 จากนั้น กบน.ได้ตรึงราคาดังกล่าวต่อในเดือน ก.ค.-ส.ค.2566 รวมแล้วเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งการจะตรึงราคาดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามกรอบวงเงินที่กำหนด และที่ผ่านมา สกนช.คาดว่าวงเงินดังกล่าวจะเพียงพอไปจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ขึ้นมาพิจารณากรอบวงเงินใหม่อีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง