ทักษิณนอนคุก1ปี! พระบรมราชโองการอภัยโทษ/อิ๊งค์ซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ

รัชกาลที่ 10    มีพระราชหัตถเลขาพระราชทานอภัยโทษนักโทษเด็ดขาดชาย   “ทักษิณ ชินวัตร” เหลือ 1 ปี จากโทษคำคุก 8 ปี เพราะมีความจงรักภักดีสถาบัน  เคารพในกระบวนการยุติธรรม สำนึกในความผิด อุ๊งอิ๊งโพสต์ซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ   “ฮุน เซน” ยินดีพี่ชายทันควัน

เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กันยายน พุทธศักราช 2566 ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 140 ตอนที่ 40 ข ได้เผยแพร่พระบรมราชโองการ ฉบับที่ 1/2566 พระราชหัตถเลขาพระราชทานอภัยโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่นักโทษเด็ดขาดชาย   ทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาขอพระราชทาน

อภัยโทษว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา จำนวน 3 คดี คดีที่ 1 คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 4/2551 ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก 3 ปี คดีที่ 2 คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 10/2552 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งคดีที่ 1 กับคดีที่ 2 นับโทษซ้อนกันรวมกำหนดโทษจำคุก 3 ปี และคดีที่ 3 คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 5/2551 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม กำหนดโทษจำคุก 5 ปี รวมกำหนดโทษจำคุก 8 ปี รับโทษมาแล้ว 10 วัน เหลือโทษจำคุก 7 ปี 11 เดือน 20 วัน อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ความว่าเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าว ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา ขณะนี้อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น

ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษาเพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม และประชาชน สืบไป

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์สื่อสังคมออนไลน์ทั้งภาพและข้อความว่า "ข้าพเจ้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และนายทักษิณ ชินวัตร จะใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ทั้งชีวิต ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม ประชาชน และรับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า ยินดีกับครอบครัวด้วย ซึ่งครอบครัวก็น่าจะสบายใจขึ้น เพราะเห็นว่านายทักษิณเป็นความดันสูง ซึ่งก็น่าเป็นห่วง และสภาพจิตใจของนายทักษิณก็น่าจะดีขึ้น

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวจากการประกาศราชกิจจานุเบกษา ซึ่งในวันนี้ทางทนายความยังไม่ได้เดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ เเต่ผลที่ประกาศราชกิจจานุเบกษาดังกล่าวถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระบรมราชวินิจฉัยเมตตาให้กับนายทักษิณ เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนที่กรมราชทัณฑ์จะต้องนำไปดำเนินการต่อไป  หลังจากนี้ต้องขอร้องประชาชนคนไทย ที่ไม่สมควรที่จะวิพากษ์วิจารณ์ หรืออาจมาโต้เเย้งคัดค้านใด เพราะอาจจะเป็นก้าวล่วงหรือละเมิดพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์

“ในส่วนคดีที่ยังค้างพิจารณาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชั้นสอบสวนหรือชั้นศาล ทางทนายความเราก็จะดำเนินการในฐานะของจำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหาตามสิทธิของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เรื่องใดในชั้นสอบสวน ก็จะร้องขอความเป็นธรรม เเละขอให้สอบสวนต่อพนักงานอัยการ เนื่องจากต้องให้โอกาสผู้ต้องหาต่อสู้คดีอาญาอย่างเต็มที่ ส่วนคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาล หากมีคดีที่สามารถถอนฟ้องหรือยอมความได้ ก็ต้องดำเนินการเพื่อหาข้อยุติตามกฎหมายต่อไป โดยจะเดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณอีกต้นสัปดาห์หน้า” นายวิญญัติกล่าว

ด้านสมเด็จฮุน เซน ประธานที่ปรึกษาพระมหากษัตริย์กัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความยินดีกับนายทักษิณ ระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยลดจากจำคุก 8 ปี เหลือเพียง 1 ปี ขอให้พี่ชายของผมโชคดี

ก่อนที่จะมีการเผยแพร่พระบรมราชโองการดังกล่าว นายเศรษฐายืนยันในเรื่องการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษว่า   ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ท่านก็บอกแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางพรรค

ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวชี้แจงถึงเนื้อหาการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณว่า ปกติเป็นธรรมเนียมของการขอพระราชทานอภัยโทษ จะบอกเพียงว่าขอพระราชทานอภัยโทษ จะไม่เขียนอย่างอื่น โดยการอภัยโทษมี 3 อย่างคือ ลดโทษ เปลี่ยนโทษ และปล่อยตัว ซึ่งการปล่อยตัวก็จะมีเงื่อนไขได้

เมื่อถามว่า นายทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาล จะถือว่าจำคุกด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า นับ อยู่ในกำหนดระยะเวลาด้วย ถือว่าอยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ตลอด เราถึงต้องส่งพนักงานกรมราชทัณฑ์ 4 คนไปเฝ้า และมีอำนาจออกระเบียบว่าใครเข้าเยี่ยมบ้าง และเข้าเยี่ยมได้กี่คน คนละกี่นาที รวมทั้งตัดผมหรือไม่ตัดผม เสื้อผ้าใส่ชุดไหน กรมราชทัณฑ์เป็นผู้กำหนดทั้งหมด และเราไม่ควรไปยุ่งเรื่องการตัดผมมากนัก เพราะนักโทษที่อยู่ในเรือนจำบางคนเขาได้รับการอนุมัติผ่อนผันในเรื่องตัดผม ที่ใหญ่กว่านั้นคือเรื่องการทำงาน นักโทษต้องทำงาน และนักโทษทุกคนพยายามทำงานเพื่ออัปเกรด เข้าไปใหม่เป็นนักโทษชั้นกลาง ต่อไปก็เป็นนักโทษชั้นดี และชั้นดีมาก เป็นสิ่งที่กรมราชทัณฑ์ดูแลทั้งหมด และนายทักษิณก็อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้ทั้งหมด แต่ระหว่างอยู่โรงพยาบาลก็มาทำงานไม่ได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า อภิสิทธิ์ที่นายทักษิณได้รับ จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้สังคมเกิดความแตกแยกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เห็นว่าเป็นอภิสิทธิ์อะไร แต่เป็นสิทธิ์ที่นักโทษพึงมี ถ้าป่วยจริงถือเป็นสิทธิ์ธรรมดา ไม่ใช่อภิสิทธิ์ นักโทษธรรมดาก็ส่งไปโรงพยาบาลตั้งเยอะแยะ และภายใน1-2 วันก็จะพ้นเกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม ก็คงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เอาไว้ถามรัฐมนตรียุติธรรมคนใหม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช' เมิน 'ทักษิณออนทัวร์' ปลุกระแสชี้ของอย่างนี้ขึ้นกับปชช.

'ชัยธวัช' ชี้ทักษิณไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนนิยมก้าวไกล เหตุขึ้นอยู่กับการทำงานของ สส. มองลงพื้นที่ที่ผ่านมา ก็หวังช่วยฟื้นฟูความนิยม พท.แต่จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ ปชช.