ส่อเดินหน้านิคมฯจะนะ

จับตา "บิ๊กตู่" กางปัญหาจะนะบนโต๊ะ ครม. ส่งสัญญาณซื้อเวลาอีกรอบ ส่อเดินหน้าโครงการ อ้างติดกฎหมายยกเลิกไม่ได้ ขณะที่กลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นเคลื่อนขบวนปักหลักหน้าทำเนียบฯ ทวงสัญญาอีกครั้ง ปลุกเครือข่ายเคลื่อนพลสมทบ ด้านมั่นคงใต้จุดไฟ แนวร่วมบีอาร์เอ็นผสมโรงก่อวินาศกรรม กทม.

เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ว่า ปัจจุบันตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ โดยจะนำเข้าสู่ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 14 ธ.ค. มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต หรือนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา เพื่อจะนำเอาปัญหาต่างๆ มาสู่กระบวนการการแก้ปัญหา ซึ่งมติ ครม.ไม่สามารถที่จะให้ทำนั่นทำนี่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำประชาพิจารณ์ การจัดให้มีการศึกษาผลกระทบในเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA และประเมินผลต่างๆ โดยต้องกลับมาทบทวนใหม่ทั้งหมด

“ดังนั้นจะต้องเป็นเคสตัวอย่างเคสหนึ่งในการทำอะไรต่างๆ ก็ตามที่ทำตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐบาลคือต้องการให้ภาคใต้ของเรามีรายได้ที่ดีขึ้น มีกิจการกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของขั้นตอนการดำเนินการที่ยังมีปัญหาอยู่ก็ต้องมาทบทวนใหม่ โดยเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนมากยิ่งขึ้น จึงอยากขอร้องกันว่า อย่าชุมนุมกันอีกเลย รัฐบาลก็รับมาพิจารณาให้แล้ว และจะดำเนินการให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน แต่จะบอกว่าให้ยกเลิกเลย อย่างนี้มันไม่ได้มั้ง เพราะมีกฎหมายหลายตัวที่เกี่ยวข้องอยู่ ทั้งในเรื่องการทำประชาพิจารณ์ การทำ SEA การปรับพื้นที่สีเขียว สีม่วงต่างๆ ซึ่งมีกฎหมาย และกระบวนการของเขาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ครม.สั่งไม่ได้ ก็มีแต่เพียงว่าต้องกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ไปทำให้ถูกต้อง ตรงกับความต้องการของพื้นที่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องอื่นๆเช่นเรื่องของที่ดินจะถูกหรือไม่ถูก ใครเป็นเจ้าของ ก็ต้องไปตรวจสอบกันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเอามาพันทั้งหมดก็จะไม่สามารถแก้อะไรได้สักอัน ยืนยันว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนเพื่อให้เดินหน้าไปสู่ความต้องการของประชาชน ซึ่งมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็ต้องไปดู สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่อยากให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาสนับสนุนให้เกิดความวุ่นวายเท่านั้นเอง กระบวนการทำได้อยู่แล้ว

“ขอให้เชื่อมั่น และผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่ได้หยุดคิดเลยหลายวันที่ผ่านมา แต่ที่ยังไม่พูดเพราะต้องการให้คนของเราได้ไปเช็กและไปตรวจสอบ อย่างวันที่ 11 ธ.ค. ก็ได้ส่งนายสุพัฒนพงษ์ไปพูดคุยกับแกนนำมาแล้ว ในชั้นต้นก็ได้ทำความเข้าใจกันดีขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือการให้ข้อมูลข่าวสาร ต้องรวดเร็วและทั่วถึง วันนี้มีการตรวจสอบจากหลายด้านด้วยกัน ทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ เจ้าพนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินต่างๆ ก็ได้มีคำชี้แจงออกมาแล้ว และจะมีการหารือกันใน ครม. วันที่ 14 ธ.ค.” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น ที่ปักหลักอยู่หน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และเตรียมเดินเท้าไปยังประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยในเวลา 11.40 น. ชาวบ้านเริ่มเก็บสัมภาระและเก็บกวาดพื้นที่เพื่อเตรียมการละหมาด

ต่อมาเวลา 14.00 น. น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนชาวจะนะ กล่าวก่อนจะที่ชาวบ้านเริ่มตั้งขบวนเพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาลว่า เจตนารมณ์ของเราชัดเจนตั้งแต่วันแรก ถ้าเรายังไม่ได้ในสิ่งที่เราเรียกร้องไป เราก็จะปักหลักกันเหมือนเดิม และถ้าคุณยังนิ่งเฉย ระวังตำแหน่งคุณไว้ให้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินขบวนในวันนี้มีภาคีเครือข่ายหลากหลายพื้นที่เข้าร่วม อาทิ กลุ่มโรนินฝั่งธน และเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, สมาพันธ์สมาคมประมงพื้นบ้าน, SAVEนาบอน, กพ.อปช.ภาคใต้, รักษ์โตนสะตอ พัทลุง และ สมาคมเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้

ทันทีที่มวลชนชาวจะนะเริ่มตั้งขบวนเตรียมเดินเท้าจากหน้ายูเอ็น ถนนราชดำเนินนอก มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเกือบ 100 นาย ทำการปิดกั้นการจราจรบริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ โดยในเวลา 15.00 น. นายเรียง สีแก้ว ที่ปรึกษาเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ได้นำมวลชนเคลื่อนขบวน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแนวป้องกันพร้อมแผงเหล็กสกัดบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าประชิดทำเนียบฯ ได้

กระทั่งเวลา 16.30 น. แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศให้มวลชนผลักดันแผงเหล็กและเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าไปสู่พื้นที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อปักหลักทวงสัญญาข้อเรียกร้องให้ยุติการดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เมื่อไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ได้ ผู้ชุมนุมบางส่วนได้พยายามขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของเข้ามา โดยเจ้าหน้าที่พยายามประกาศว่าให้หยุดการกระทำ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขณะที่แกนนำก็ได้ขอร้องว่าให้หยุดใช้ความรุนแรง จนเหตุการณ์สงบ จากนั้นเวลา 17.00 น. แกนนำได้ประกาศให้มวลชนพักผ่อน แต่ยังคงตรึงกำลังชิดแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วน และมีการปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลเป็นระยะ

วันเดียวกัน ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิรชัช เจ๊ะเหล็ม ประธานเครือข่ายประมงพื้นบ้านนครศรีธรรมราช ได้รวมตัวเพื่อออกแถลงการณ์ในนามเครือข่ายประมงพื้นบ้านนครศรีธรรมราช 6 เครือข่าย สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวอำเภอจะนะ และเตรียมระดมเครือข่ายประมงพื้นบ้านไปช่วยสนับสนุนการเคลื่อนไหวด้วย

มีรายงานข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่ามีการสั่งการจาก สนง.ตำรวจแห่งชาติให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจทุกพื้นที่ จาก จ.สงขลาถึง กทม. ตรวจสอบกลุ่มคนที่เอ็นจีโอใน จ.สงขลา-สตูล ระดมคนในพื้นที่ไปร่วมกับกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น

นอกจากนั้นยังมีคำสั่งจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ให้พื้นที่หาข่าวความเคลื่อนไหวของแนวร่วมขบวนการบีอาร์เอ็นในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่ามีการเคลื่อนไหวหรือเดินทาง เข้ามาใน กทม.หรือไม่ เนื่องจากมีข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงว่าอาจจะมีการก่อวินาศกรรมในกรุงเทพฯ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง เป็นการ ขู่ให้รัฐบาลเร่งลงนามเซ็นสัญญาที่กลุ่มรักษ์จะนะต้องการให้ตัวแทนรัฐบาลลงนาม ขณะที่องค์กรหลายองค์กรเกี่ยวกับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนในการสนับสนุน

ด้านนายจอม หวั่นห้วย อดีตผู้ใหญ่บ้านใน ต.นาทับ ซึ่งเป็นแกนนำของชาวบ้านที่เห็นด้วยกับโครงการ "เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต" กล่าวว่า กลุ่มผู้เห็นด้วยจะไม่เดินทางไปเพื่อกดดันรัฐบาล แต่ก็ได้ยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ต่อรัฐบาลในการสนับสนุนการพัฒนาผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลาแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง