ตีปี๊บแก้จนเวทีโลก เศรษฐาชวนสหรัฐลงทุน ภท.ลุยกม.กัญชาเข้าสภา

"เศรษฐา" บ่นมานิวยอร์กเจอรถติด ต้องเดินไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ แถลงโชว์ผู้นำทั่วโลก ประกาศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อน SDGs ชู 3 ประเด็นหลักยกระดับคุณภาพชีวิต เสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคี "ภูมิธรรม" คาด 1-2 สัปดาห์ชงรายชื่อ คกก.ศึกษาประชามติให้ “เศรษฐา” เซ็น จ่อดึงทุกภาคส่วน-ไอลอว์เข้าร่วม ยังกั๊กแก้ รธน.เสร็จยุบสภาเลยหรือไม่  "ประธานวิป รบ." โชว์ฟิตจี้ "นายกฯ-รมต." เข้าตอบกระทู้สภา สร้างความสง่างาม "ภท." เดินหน้าดัน พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้จบสมัยนี้

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายชัย วัชรงค์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภารกิจการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA 78) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พบกับ Mr.Larry Fink CEO กลุ่มบริษัท Blackrock ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในการบริหารการเงินและการลงทุนของโลก เพื่อศึกษาแนวทางในการลงทุนในประเทศไทย ทั้งในภาคการลงทุนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวกับ Clean Energy เพื่อขยายฐานการลงทุน และการผลิตในประเทศไทย นอกจากนี้ยังให้ความสนใจที่จะลงทุนใน Sustainability Linked Bond ที่จะออกโดยรัฐบาลไทย ซึ่งบริษัทมีแนวโน้มในการลุงทุนในบริษัทในประเทศไทยเร็วๆ นี้

ต่อมาเวลา 17.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) ณ Trusteeship Council Chamber สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐากล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปี ค.ศ.2023 (Sustainable Development Goals (SDG) Summit 2023)

นายชัยสรุปสาระสำคัญว่า นายกฯรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2023 ซึ่งรัฐบาลยังคงเน้นย้ำเจตนารมณ์ในการให้ความสำคัญที่จะดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

"นายกฯ ยังสนับสนุนกรอบความร่วมมือพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ และสถาปัตยกรรมทางการเงินระหว่างประเทศให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อนการจัดสรรแหล่งทรัพยากรและเงินทุน การลดช่องว่างทางการเงิน รวมถึงสรรหานวัตกรรมเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ทุกประเทศสามารถรับมือกับความท้าทาย และการร่วมกันขับเคลื่อน SDGs ได้อย่างเป็นรูปธรรม" นายชัยกล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ไทยสนับสนุนข้อเรียกร้องของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติในการปฏิรูปสถาปัตยกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ ผ่านมาตรการกระตุ้นการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Stimulus) เป็นจำนวนเงิน 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี จนถึงปี ค.ศ.2030 ซึ่งรัฐบาลไทยได้ออกมาตรการทางการเงิน 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว และ Thailand Green Taxonomy เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ผ่านการกระตุ้นการกำหนดกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจของไทย

ทั้งนี้ นายกฯ ยืนยันไทยพร้อมประกาศความมุ่งมั่นระดับประเทศเพื่อขับเคลื่อน SDGs รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนี้ 1.ไทยประกาศความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมทั้งลดความยากจนในคนทุกช่วงวัยภายในปี ค.ศ.2027 และ 2.ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศสำหรับประชากรทุกคนในประเทศ 3.จะผลักดันร่วมมือกับหุ้นส่วนความร่วมมือทุกระดับ ในการดำเนินการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

"นายกฯ หวังว่าการประกาศความมุ่งมั่นของไทยในเรื่องดังกล่าวจะสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่พร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายในการมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เพื่อประชาชนและโลกที่ดีขึ้นต่อไป" โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ

ยังกั๊กแก้ รธน.เสร็จยุบสภา

ขณะที่นายเศรษฐาโพสต์อินสตาแกรม sretthathavissin โดยเป็นคลิปนายกฯ สวมชุดสูท เนกไทสีแดง ถุงเท้าสีแดง เดินบนถนนและข้ามทางม้าลาย พร้อมข้อความว่า “มานิวยอร์กเจอรถติด เลยเดินมาประชุมแทน อากาศกำลังเย็นสบายเหมือนเปิดแอร์เบาๆ เลยครับ"

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ได้พยายามติดต่อคนที่จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ คุยถึงหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราอยากแก้ไขให้สำเร็จ และเสร็จสิ้นภายใน 4 ปีที่เป็นรัฐบาล โดยจะเร่งให้เร็วที่สุด ซึ่งในการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ อยากให้ปมขัดแย้งเดิมๆ หายไป และไม่อยากให้สร้างความขัดแย้งใหม่ขึ้นมา โดยจะใช้วิธีให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ทำประชามติ คณะกรรมการที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้หารือถึงแนวทางว่าจะใช้เวลาเท่าไร คาดว่าจะใช้เวลาในเร็ววันหรือ 3-4 เดือน หรืออาจจะเร็วกว่านั้นในการทำประชามติ

"เราชัดเจนว่าต้องเปิดให้มีการพูดคุย หากได้ตั้งคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ตัวแทนวิชาชีพ สมาคมทนายความ นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิหลายๆ ด้าน รวมถึงเชิญตัวแทนสมาคมนักข่าวด้วย 1 คน แต่ต้องหารือนายกสมาคมนักข่าวก่อน อย่างไรก็ตาม บางคนได้ตอบรับมาแล้ว ถ้าทำได้เร็วที่สุด คาดว่าวันอังคารที่ 26 ก.ย.นี้ จะเอาเข้าที่ประชุม ครม. แต่ถ้าช้าหน่อย อาจจะใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ โดยจะต้องรวบรวมรายชื่อและพูดคุยกับทุกฝ่ายให้เข้าใจถึงความต้องการ" นายภูมิธรรมกล่าว 

ถามว่า รายชื่อคณะกรรมการมีประมาณกี่คน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ดูตามวิชาชีพต่างๆ ก็เกือบ 20-30 คน ไม่อยากให้เป็นคณะที่ใหญ่เกินไป อยากให้ทำงานคล่องตัว ซักว่าจะเริ่มนับหนึ่งการทำงานเมื่อไหร่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้เริ่มดำเนินการแล้ว คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์น่าจะมีรายชื่อคณะกรรมการเสนอให้กับนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนามแต่งตั้ง หลังจากนั้นก็จะเริ่มดำเนินการ โดยจะมีตนเป็นประธานคณะกรรมการตามมติ ครม.ที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขานุการคณะกรรมการขอดูคนที่เราทาบทามมาทั้งหมดก่อน คิดว่ารอไม่นาน ภายในสัปดาห์หน้าน่าจะมีรายชื่อออกมา 

เมื่อถามาถ้าแก้ไข รธน.เสร็จจะยุบสภาทันทีเลยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เดี๋ยวดูรายละเอียด แต่คิดว่าเราจะพยายามให้เข้าสู่กระบวนการปกติให้เร็วที่สุด เบื้องต้นขอคุยกับคณะกรรมการก่อน เพราะคณะกรรมการชุดนี้ได้รับมอบหมายให้มาศึกษาและวางรายละเอียดต่างๆ ถ้าตอบไปตอนนี้ก็จะเป็นความเห็นตนคนเดียว อยากให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมให้มากที่สุด ฉะนั้น การพูดคุย การวางไทม์ไลน์ที่ชัดเจนและโปร่งใส ซึ่งตนมีความคิดที่จะเชิญกลุ่มไอลอว์และภาคประชาสังคมทุกภาคมาร่วมคณะกรรมการด้วย พยายามจะดึงเข้ามาให้หมด

ถามว่า กระบวนการต่างๆ จะเป็นการประวิงเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ประวิงเวลา การที่เราให้ ครม.ออกมติให้ทำประชามติ ถือเป็นการสะท้อนที่ชัดเจน

บี้ 'นายกฯ' เข้าตอบกระทู้สภา

ส่วนนายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พท.ว่า  พรรคมีหลายท่านที่จะทำหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ซึ่งหาก น.ส.แพทองธารมารับหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค  เราก็จะมีความภูมิใจ และสามารถนำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จ โดย น.ส.แพทองธารเป็นคนรุ่นใหม่ เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง

 “ปกติผมก็เชียร์คุณอุ๊งอิ๊งออกหน้าออกตาอยู่แล้ว ถ้าจะมานั่งหัวหน้าพรรคก็เป็นเรื่องที่พวกเราชาวเพื่อไทยภูมิใจ และมั่นใจว่าจะนำพรรคเพื่อไทยไปสู่ความสำเร็จในทุกด้านได้อย่างแน่นอน และคงไม่มีใครกล้าลงแข่งด้วย เพราะเป็นหัวหน้าพรรคดีกว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย" นายอดิศรกล่าว

ประธานวิปรัฐบาลกล่าวถึงการทำหน้าที่ในสภาว่า จะประชุมวิปรัฐบาลทุกวันจันทร์เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภาเป็นหลัก แต่ไม่ปฏิเสธที่จะไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เผื่อนายกฯ มีเจตนาที่อยากเข้าร่วมประชุม เพื่อทราบความเคลื่อนไหวการทำงานในรัฐสภา

"ในการประชุมครั้งแรกได้รับความร่วมมือจาก 11 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างดี เราเน้นการทำงานที่อยากจะให้มีการประสานงานกัน เพื่อให้การประชุมราบรื่น และในเรื่ององค์ประชุมซึ่งแต่ละพรรคการเมืองจะไปรับผิดชอบให้สมาชิกมาประชุมเพื่อไม่ให้การประชุมสภาล่ม" ประธานวิปรัฐบาลกล่าว

ถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถจัดการเรื่ององค์ประชุมไม่ให้มีองค์ประชุมล่มได้ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า หากรัฐบาลรับผิดชอบเรื่ององค์ประชุม และทุกคนมาประชุมจะไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมล่มแน่นอน

ซักถึงข้อกังวลต่อความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อการตอบกระทู้ของสภา นายอดิศรกล่าวว่า เชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีจะมาชี้แจงกระทู้ถามสด รวมถึงกระทู้ถามทั่วไปของสภา เพราะเวทีการชี้แจงในสภา

 “ผมอยากเห็นความสง่างามของนายกฯ และรัฐมนตรีมาตอบกระทู้สด  ไม่อยากให้มอบหมาย เพราะศักยภาพของรัฐมนตรีแสดงออกในการตอบกระทู้ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือ” ประธานวิปรัฐบาลระบุ

ที่รัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงถึงกรณีการผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง และแลนด์บริดจ์หรือโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) ว่า พรรคยืนยันที่จะติดตามและผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เหมือนเดิม ด้วยเหตุผลว่ากัญชาถูกปลดออกจากยาเสพติดให้โทษแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการทางการแพทย์และการวิจัยเท่านั้น ไม่มีนโยบายเปิดเสรี นันทนาการหรือสันทนาการ แม้จะมีการโจมตีและด้อยค่านโยบายกัญชาที่ทำให้ถูกตีตกไปในสมัยรัฐบาลที่แล้ว

นายสฤษฏ์พงษ์กล่าวว่า ภท.จะขับเคลื่อน พ.ร.บ.กัญชา กัญชงต่อไป ตามที่เราบอกว่าภูมิใจไทยไม่ได้ร่างกฎหมายแล้วทิ้งขว้าง ทิ้งกลางคัน มาจับขั้วใหม่ โดยจะเป็นไปตามร่างเดิม 94 มาตรา ที่เคยได้มีความเห็นจากทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งยังเห็นตรงกันกับนายกฯ ที่จะนำเสนอเรื่องนี้ในรัฐบาลสมัยนี้ด้วย

"เราพูดแล้วทำเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ของพรรคภูมิใจไทย เราจะทำอย่างจริงจัง เราจะผลักดันให้สำเร็จ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง" นายสฤษฏ์พงษ์กล่าว

สส.กระบี่ พรรค ภท.รายนี้ระบุว่า ในส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ เราอยากให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม  มีการทบทวนหลังจากที่ประกาศจะไม่สานต่อ เนื่องจากตนเห็นว่าอาจจะเป็นการสูญเสียผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ เพราะมีความเชื่อมโยงในหลายๆ โครงการ ทั้งการเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด การขยายท่าเทียบเรือ การตัดถนนมอเตอร์เวย์ รวมถึงรถไฟเพื่อบรรทุกสินค้าสั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะ จ.ชุมพรหรือ จ.ระนองเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจฐานราก ที่จะก่อให้เกิดรายได้ทั้งภาคอุตสาหกรรมและเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย

วันเดียวกัน นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีพรรค ภท.เตรียมยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชาฯ ให้สภาพิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวต้องรอฟังรัฐบาล ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ออกมา อย่างไรก็ดี ตนสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ ส่วนที่พรรค ภท.ต้องการให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ ตนเห็นว่าต้องพูดคุยกัน เพราะการยกร่างกฎหมายกัญชาให้สภาพิจารณาอีกครั้งนั้น ต้องคำนึงด้วยว่าอะไรเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งมีข้อกังวลเรื่องการเข้าถึงของเยาวชน เรื่องนี้ต้องรอฟังรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรเป็นอันดับแรก ส่วนวิปรัฐบาลเป็นลำดับสอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลหนุนโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ

รัฐบาลสนับสนุน 'โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ' เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ของถนัดเศรษฐา! 30 พ.ค.ไปแน่ประธานเปิดงาน AWS Summit

นายกฯ จะร่วมเปิดงาน AWS Summit in Bangkok 30 พ.ค.นี้ พร้อมยืนยันความร่วมมือรองรับการลงทุนบริษัท Amazon ผลักดันไทยเป็นฐานการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัล