พปชร.ชวดผู้ว่าหมูป่า ขอเกษียณ3ปีสง่าผ่าเผย/ปชป.คึกลุยเปิดตัวส.ก.

"ผู้ว่าฯ หมูป่า" ประกาศไม่สมัครผู้ว่าฯ กทม. อ้างคุณสมบัติไม่ครบ อยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ตั้่งใจสวมหมวก ขรก.อีก 3 ปี เกษียณอายุอย่างสง่าผ่าเผย ขณะที่ ปชป.หวัง “ดร.เอ้” ชนะเรียกคะแนนพรรคคืนก่อนดันขึ้น “นายกฯ” “เฉลิมชัย” ลั่นไม่เคยนำทัพแพ้ ฮือฮา “พ่อโฟกัส สามนิ้ว” ลงชิงเก้าอี้ ส.ก. พท.เมินส่งผู้สมัครในนามพรรค

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พูดเรื่องนี้ในที่ประชุมว่าคงจะให้มีการการเลือกตั้งดังกล่าวได้ในช่วงกลางปี 2565 ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำหนด โดย ครม.จะเป็นผู้ให้สัญญาณไปถึง กกต.

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะสามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้หรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เกิดขึ้นในกลางปี 2565 นายวิษณุกล่าวว่า ก็พูดอย่างนี้ ส่วนจะมั่นใจหรือไม่ก็แล้วแต่

เมื่อถามว่า คุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จำเป็นต้องอาศัยในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มีการกำหนดช่วงเวลาของการอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ตนจำไม่ได้ว่าต้องอยู่กี่ปี เมื่อถามย้ำว่าถ้าบุคคลนั้นเคยอยู่กรุงเทพฯ แล้วย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น จากนั้นกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง จะนับเวลาต่อเนื่องได้หรือไม่ หรือต้องนับเฉพาะช่วงเวลาปัจจุบันที่อยู่ในกรุงเทพฯ นายวิษณุกล่าวว่า จำไม่ได้ แต่เรื่องดังกล่าวไม่ได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องที่ต่างจากคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นำว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 50 คน 50 เขต เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ กทม. พร้อมด้วยแกนนำพรรคและ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มาให้กำลังใจ โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานเปิดตัว พร้อมกล่าวว่า เป็นวันที่รอคอยมา 2 ปีเศษ นับแต่เป็นเลขาธิการพรรค รอวันที่จะนำกรุงเทพฯ กลับมาดูแลด้วยพรรค ปชป. และรอคอยผู้สมัครอย่างดร.สุชัชวีร์ ก็จะนำข่าวนี้ไปบอกกับสมาชิกทั่วประเทศ ซึ่งมีผลแน่นอนเพราะคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด ดังนั้นอะไรที่เป็นคะแนนให้กับพรรคก็ต้องสื่อออกไป

เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อุดมการณ์และหลักการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่วิธีทำงานและกรอบความคิดต้องเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ถ้าเรามีโอกาสครั้งนี้ก็จะใช้ประสบการณ์ที่ได้ไปดูมหานครมาแล้วทั่วโลก บางประเทศมีผู้นำมหานครไปเป็นผู้นำประเทศในวันข้างหน้า ซึ่งตนจะนำแนวคิดนั้นมาใช้ ถ้าเราได้โอกาสในการเป็นผู้นำกรุงเทพฯ เราก็จะได้อนาคตของผู้นำประเทศไปด้วย เชื่อมั่นว่านายสุชัชวีร์มีศักยภาพที่จะเดินไปถึงจุดนั้น และวันข้างหน้าจะได้กลับมาดูแลคนกรุงเทพฯ ได้มากกว่านี้

ปชป.หวังอยู่ในใจคนกรุงอีกครั้ง

“แม้การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่แล้วประชาธิปัตย์จะไม่ได้อยู่ในใจ แต่เชื่อว่าความเป็นประชาธิปัตย์ยังอยู่ในความหวังประชาชนตลอดมา ผมมั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะกลับไปอยู่ในใจประชาชนอีกครั้ง จากการทำงานหนักของพวกเรา ผมอยากทำสถิติอีกครั้งหนึ่งว่า ผมเป็นเลขาธิการพรรคครั้งไหนไม่เคยแพ้ในศึกเลือกตั้ง ดังนั้นความหวังนี้ไม่สามารถทำได้เพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เราต้องทำงานหนักขึ้นให้พี่น้องประชาชนเห็นความตั้งใจจริงของเราที่จะมาเปลี่ยนกรุงเทพฯ ไปในทางที่ดี และวันหน้าถ้ามีโอกาส เราจะเปลี่ยนประเทศไทยด้วยกัน” นายเฉลิมชัยกล่าว

ด้านนายสุชัชวีร์กล่าวว่า เมื่อคืนนอนหลับสนิท ตื่นเช้าออกกำลังกายและเดินทางมาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะน้องใหม่ เมื่อเดินเข้าบ้านใหม่ก็รู้สึกตื่นเต้น แต่รู้สึกอบอุ่น รู้สึกถึงพลังของพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ แต่ประเทศไทยด้วย ดังนั้นต้องส่งสัญญาณไปทั่วประเทศ ว่า ส.ก.ทั้ง 50 เขตต้องเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน และสัญญาณต้องส่งให้ชัดเจนว่าถ้ากรุงเทพฯไม่เปลี่ยนก็ไปไม่รอด กรุงเทพฯ เปลี่ยนประเทศเพราะเราทำได้ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงประเทศของเรา เพราะเราไม่ใช่ทีมประชาธิปัตย์ แต่เป็นทีมเปลี่ยนอนาคต

โดยพื้นที่แรกตั้งใจจะไปคือฝั่งธนบุรี เพื่อเยี่ยมประชาชนในเขตบางขุนเทียน บางบอน บางแค และดูปัญหาน้ำทะเลที่กัดเซาะใน กทม.มากน้อยเพียงใด และทำไมวาระน้ำท่วมจึงเป็นเรื่องชี้ชะตากทม. ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ต้องประสานกับทีมงานในพื้นที่ก่อน ขณะที่การเปิดนโยบายจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเพียงการส่งสัญญาณเท่านั้นว่า กทม.ถึงเวลาต้องเปลี่ยน เพราะถ้าไม่เปลี่ยนอยู่ไม่ได้ พร้อมยืนยันว่าให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ เพราะเป็นช่วงสำคัญในการเปลี่ยนผ่านเจเนอเรชัน

ถามอีกว่า รัฐบาลส่งสัญญาณการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ช่วงกลางปี 65 เพียงพอต่อการลงพื้นที่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า หากเป็นจริงตามนั้น เรามีเวลา เพราะเคยประกาศแล้ว 1,600 ตารางเมตร เท่ากับ 1,600,000 ก้าว จะไปทุกเขตพร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เพื่อพบประชาชน เรียนรู้ รับฟังปัญหา และหาทางแก้ไข ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี ตนเตรียมตัวมา 30 ปี สะสมความรู้และประสบการณ์ทุกด้าน เพราะงานผู้ว่าฯกทม.เป็นงานที่มีลักษณะพิเศษ เป็นทั้งพ่อบ้านและนายช่างใหญ่ เชื่อมั่นว่าถ้าประชาชนรู้จักมากขึ้นแล้ว และรู้ว่าทำอะไรสำเร็จมาแล้ว ก็จะพิจารณาให้โอกาสตนเป็นผู้ว่าฯ กทม.

เมื่อถามว่า ทันทีที่เปิดตัวมีทั้งกระแสตอบรับที่ดีและมีการดิสเครดิตจะตั้งรับอย่างไร นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ตนเข้าใจเพราะชีวิตเปลี่ยนตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. และเดินเส้นทางสายอาสา เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ถือเป็นการรับน้อง ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส.ส.ใน กทม.แม้แต่คนเดียวนั้น ตนมองว่าเรื่องการเมืองมีขึ้นมีลงเช่นเดียวกับต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต มีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึง นอกจากนี้ ยังมีนายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นบิดาของ น.ส.โฟกัส จีระกุล ดาราสาวที่สนับสนุนแนวคิดกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองฝั่งตรงกันข้ามกับรัฐบาล

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเตรียมการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่ารัฐบาลมีหน้าที่ในการคัดเลือกใครก็ได้มาเป็นผู้ว่าฯ กทม.ให้ได้คนดี และรัฐบาลทำให้โปร่งใสในการเลือกตั้ง ฉะนั้นใครก็ได้ที่สามารถทำงานกับรัฐบาลได้ ขอให้เป็นคนดีแล้วกัน ส่วนการส่งผู้สมัครในนามพปชร.นั้น คงต้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคคิดดูก่อนว่าจะเลือกใคร ขอให้ตกผลึกก่อน ทั้งนี้ ยอมรับว่านายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ไม่สามารถลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้พรรคจะส่งใครแทน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้กรรมการบริหารเป็นผู้เฟ้นหา ตอนนี้ยังไม่ได้เคาะว่าจะเอาใครลงสมัคร เมื่อถามย้ำว่ายังไม่ตัดสินใจที่จะไม่ส่งเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ยังๆ”

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดตัวนายสุชัชวีร์เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น ถือว่าไม่เป็นไร ใครเปิดก็ได้ เราสามารถทำงานได้ด้วย ใครมาเป็นรัฐบาลหากได้คนดีก็ทำงานได้ด้วย ส่วนชื่อ พล.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.นั้น คงให้คณะกรรมการบริหารพรรคเขาดูก่อน

ผู้ว่าฯ หมูป่าปัดลงแข่ง

ทางด้านนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือผู้ว่าฯ หมูป่า เปิดเผยว่า การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเข้ารับตำแหน่งที่จังหวัดใด ก็ต้องย้ายทะเบียนบ้านเข้าสู่จังหวัดนั้นๆ โดยในส่วนตนเองคงคุณสมบัติอาจจะไม่ครบ ตลอดชีวิตราชการเริ่มต้นมาจากกรมที่ดิน จนผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยเห็นความสามารถจึงได้ย้ายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง และปทุมธานี ตามลำดับ ตอนนี้ชีวิตราชการเหลือประมาณ 3 ปี หลังเกษียณอยากกลับไปสอนหนังสือ ที่สำคัญอยากจะกลับไปดูแลครอบครัว ตลอดชีวิตราชการกว่า 30 ปี ตนไม่ค่อยมีโอกาสที่จะดูแลครอบครัว ทุ่มเทให้กับชีวิตราชการและการทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลักและด้วยสุขภาพร่างกายที่อาจไม่เอื้ออำนวยให้เข้าไปดูแลคนกรุงเทพฯ จึงอยากจะเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานมากกว่า โดยตนขอเพียงแค่นั่งอยู่ข้างทางดูคนรุ่นใหม่คอยบริหารงาน น่าจะดีกว่า

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า หากตนตัดสินใจไปลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เหมือนกับเป็นการทิ้งพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี ซึ่งชาวจังหวัดปทุมธานีก็คงจะรู้สึกผิดหวัง และที่สำคัญ รวมทั้งมีพี่น้องประชาชนตามภูมิภาคต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยอมรับคงไม่เหมาะที่จะไปดูแลหัวใจของประเทศอย่างกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่เห็นถึงความสามารถ แต่ตอนนี้ขอเลือกทางเดินชีวิตของตน เพื่อใช้ชีวิตราชการที่เหลืออยู่ทำงานเพื่อประชาชน ที่อยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ให้ดีที่สุด

"อยากจะสวมหมวกราชการให้ดีที่สุด แล้วความภาคภูมิใจของราชการที่ดีที่สุดก็คือ การเดินจากราชการไปอย่างสง่าผ่าเผย คือความตั้งใจ และเป็น intention (เจตนา) จริงๆ มีคนเคยถามผมว่าแล้วหลังชีวิตราชการจริงๆ อยากไปไหน ผมบอกว่าหลังเกษียณราชการผมอยากพักผ่อนหรือสอนหนังสือตามความตั้งใจเดิมที่มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว" ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทยว่า มีข้อสรุปชัดเจนว่า จะไม่ส่งตัวแทนของพรรคเพื่อไทยในการแข่งขันผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากเราต้องการส่งเสริมคนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนมีตัวแทนอยู่แล้ว ถ้าตัดสินใจส่งผู้สมัครในนามของพรรค อาจจะมีปัญหาในการตัดคะแนนกัน ส่วนสนามส.ก. จะส่งผู้สมัครในนามของพรรคทุกเขต ส่วนจะประกาศสนับสนุนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่นั้น ที่คงต้องรอจังหวะ โอกาส และเวลาที่เหมาะสม เพราะว่ามีผลกระทบหลายด้าน โดยเฉพาะตัวผู้สมัครเอง แต่เรายินดีใช้กลไกของพวกเราสนับสนุนผู้สมัครที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย หากพรรคการเมืองอื่นที่เป็นประชาธิปไตยจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ก็เป็นหนึ่งข้อในการพิจารณา แต่ก็ต้องมองว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง