‘สุนทร-กนกวรรณ’รอดรุกป่า ป.ป.ช.อุทธรณ์มั่นใจสำนวน

"กนกวรรณ-สุนทร" รอด!   ศาลยกฟ้องคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เขาใหญ่ พร้อมพวกรวม 10 คน เจ้าตัวดีใจได้รับความยุติธรรม    ด้าน ป.ป.ช.จ่ออุทธรณ์ ระบุขออ่านคำพิพากษาก่อน ลั่น คดียังไม่สิ้นสุด เพิ่งศาลชั้นต้น ยังมั่นใจสำนวนแน่น

เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 ต.ท่าประดู่  อ.เมืองฯ จ.ระยอง นายสุนทร วิลาวัลย์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ และผู้ร่วมขบวนการ 8 ราย ได้เดินทางมารับฟังคำตัดสินคดีบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงปี 2545 ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด โดยทั้งหมดได้ถูกนำตัวไปที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 2

หลังจากที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายสุนทรพร้อมด้วยนางกนกวรรณ บุตรสาว และพวก 8 คน ได้เดินออกมาจากห้องพิจารณาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า แล้วขับรถออกมาทันที

 โดยนายสุนทรได้เปิดกระจกรถยนต์ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ศาลได้ยกฟ้องทั้งหมด ซึ่งตนเองก็รู้สึกดีใจที่ได้รับความยุติธรรม เพราะตนเองซื้อมาด้วยความถูกต้องตามกระบวนการ ซื้อมาก็ให้มีการตรวจสอบตามขั้นตอน โดยยกฟ้องทั้งหมด 10 คน

หลังจากนั้นนายสุนทรได้มอบมะม่วงน้ำปลาหวานที่ผลิตเอง ไม่มีขายที่ไหน โดยมีฉลากที่มีรูปนายสุนทร พร้อมเขียนว่า มอบให้ด้วยใจ โดยให้กับผู้สื่อข่าวและ เจ้าหน้าที่ไปชิม ก่อนจะเดินทางกลับไป

มีรายงานว่า ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากมีความเห็นแย้งว่าไม่มีความผิดตามฟ้อง โดยศาลวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 10 ไม่มีหน้าที่ตามมาตรา 151

ส่วนกรณี ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด ศาลวินิจฉัยว่า ป.ป.ช.ไต่สวนโดยมิชอบ การกระทำของจำเลย 1, 2, 3, 5, 6, 10 ไม่มีเจตนา จำเลยที่ 4, 7, 8, 9 จึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน จึงมีคำสั่งยกฟ้องทั้งหมด เนื่องจากความคิดเห็นเรื่องหลักเขตแนวที่ดินกับอุทยานฯ ไม่ตรงกัน จึงยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ส่วนประเด็นอื่นไม่วินิจฉัย

ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล  เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 จ.ระยอง ยกฟ้องนายสุนทร วิลาวัลย์ และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ กับพวกอีก 8 ราย ในคดีความผิดกรณีบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ว่า คดีดังกล่าวถือว่ายังไม่สิ้นสุด เบื้องต้นต้องรอฟังคำพิพากษาฉบับเต็มเสียก่อนว่ากรณีที่ศาลยกฟ้องนั้นมีประเด็นใดบ้าง เพราะที่ ป.ป.ช.ฟ้องไป คือฐานความผิดตามมาตรา 151 และ 157 แต่ศาลอาจจะมองว่ามาตรา 157 ขาดอายุความ และไม่ได้เป็นความผิดตามมาตรา 151 ซึ่งเมื่อได้ดูคำพิพากษาแล้ว ป.ป.ช.อาจพิจารณาขออุทธรณ์ได้ ทั้งนี้ หากเป็นกรณีอัยการเป็นผู้ฟ้อง ต้องให้อัยการเสนอว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ และต้องให้ ป.ป.ช.เห็นชอบด้วยว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ เป็นดุลยพินิจตามอำนาจของอัยการสูงสุดที่จะไม่อุทธรณ์ก็ได้ แต่ถึงอย่างไรต้องรายงานมาให้  ป.ป.ช.ก่อน 

 “คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังสามารถอุทธรณ์ได้ นี่เพิ่งศาลชั้นต้นเอง” นายนิวัติไชย ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้เวลาอีกนานหรือไม่ นายนิวัติไชยกล่าวว่า ต้องดูที่ผลของคำพิพากษา เพราะมีกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์อยู่ ป.ป.ช.ต้องดูคำพิพากษาก่อนว่าศาลได้วินิจฉัยอย่างไร ยังมีระยะเวลาหากจะอุทธรณ์ 

ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า นายสุนทร อาจจะฟ้องกลับ ป.ป.ช. ตรงนี้กังวลหรือไม่ นายนิวัติไชยกล่าวว่า เป็นกรณีปกติอยู่แล้ว เพราะการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. อาจมีทั้งคนพอใจหรือไม่พอใจ แต่เราถือว่าเราทำงานอย่างเต็มที่ในส่วนของการที่จะรักษาทรัพย์สินของแผ่นดิน โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติของประเทศในคดีบุกรุก

เมื่อถามย้ำว่า ป.ป.ช.มีความเชื่อมั่นว่าสำนวนแน่นอยู่ใช่หรือไม่ เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า ใช่ครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง