วิปฯไล่ก.ก.ซักฟอกตัวเองก่อน

"ไอติม" รับหน้า "ปิยบุตร" โยนบึ้มใส่สางปัญหาคุกคามทางเพศ ลั่นพร้อมน้อมรับนำพรรคสู่พื้นที่ปลอดภัย ไม่สร้างวัฒนธรรมปกปิด ขณะที่ “อดิศร” ทุบจุดอ่อนฝ่ายค้านจ่อเปิดเกมถล่มรัฐบาล ไล่กลับไปซักฟอกตัวเองก่อน “ภูมิธรรม” รุกคืบแก้ รธน.ตั้ง “นิกร-วุฒิสาร” เป็นประธาน 2 อนุฯ ประชามติ ขณะที่ “ชัยเกษม-พิชัย-สงคราม” ขึ้นแท่นที่ปรึกษานายกฯ

เมื่อวันจันทร์ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง สส.ภายในพรรคที่ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศพร้อมให้ข้อเสนอแนะว่า พรรคก้าวไกลเองก็น้อมรับความเห็นของนายปิยบุตร รวมถึงข้อเสนอแนะว่าเราจะปรับปรุงพรรคอย่างไรได้บ้าง ตนคิดว่าเป็นความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อพรรค เชื่อว่าเป็นความเห็นที่มีเจตนาที่ดี ที่จะทำให้พรรคก้าวไกลทำได้ดียิ่งขึ้นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 “ทางพรรคเราก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเราสามารถทำให้ดีขึ้นได้ และป้องกันปัญหาคุกคามทางเพศ รวมถึงปรับปรุงกระบวนการในการรับมือเมื่อปัญหาเกิดขึ้น คิดว่าข้อเสนอแนะของอาจารย์ปิยบุตรหลายข้อ ก็เป็นข้อเสนอที่เราจะนำมาใช้ในการทบทวนปรับปรุงกระบวนการภายในของเรา” นายพริษฐ์กล่าว

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า มีหลายประเด็นของนายปิยบุตรที่สอดคล้องกับมาตรการที่พรรคก้าวไกลได้ประกาศไป 3 มาตรการ ได้แก่ การปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการวินัย ให้มีสัดส่วนของคนนอกที่ไม่ได้เป็น สส. และเป็นผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงไม่ได้เป็นเพศชายมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการปรับปรุงมาตรการดังกล่าวจะทำให้คณะกรรมการทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พอมีคนนอกมาแล้วอะไรที่มีความเชี่ยวชาญ ก็จะทำให้ลดข้อครหาหรือข้อกังวลได้ในกรณีคนในตรวจสอบกันเอง

ส่วนข้อที่สอง เราก็มีแผนในการทบทวนกระบวนการตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ตั้งแต่รับเรื่องร้องเรียนไปจนถึงการดำเนินการ รวมถึงการลงโทษในกรณีที่มีการกระทำผิด ว่าเราจะทำอย่างไรให้ทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่เกิดความล่าช้าโดยไม่จำเป็น

 “สำหรับข้อที่ 3 ที่เราได้ประกาศไว้ คือเรื่องความเข้มข้นในการอบรมบุคลากรพรรค ไม่ว่าจะเป็นการขยายจำนวนผู้เข้าร่วมในการอบรมให้ครอบคลุม ไม่ใช่เพียงแค่ สส.หรือผู้ช่วย สส. แต่ครอบคลุมบุคลากรทุกระดับ รวมถึงการเพิ่มความถี่ เพิ่มรูปแบบในการอบรม ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ใช้เวลาในการอบรม มาทบทวนรายละเอียด ซึ่งหลักสูตรการอบรมทั้งหมดก็จะนำมาใช้ในการคัดกรองบุคลากรด้วย” นายพริษฐ์ระบุ 

เมื่อถามว่า นายปิยบุตรกังวลว่าอาจจะเป็นการลูบหน้าปะจมูก นายพริษฐ์กล่าวว่า เราต้องดำเนินการอย่างจริงจัง คิดว่าการกระทำของพรรคจะเป็นเครื่องพิสูจน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องอย่าสร้างวัฒนธรรมที่ปกปิด หรือเราจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมที่ไม่มีการปกปิดผู้กระทำผิดภายในองค์กร เพราะกังวลชื่อเสียงองค์กร เพราะฉะนั้นเราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเราได้ดำเนินการตามมาตรการที่ได้ประกาศออกไป

ส่วนที่มีการมองว่า พรรคก้าวไกลส่งนายพริษฐ์และ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล มาแถลงข่าว ซึ่งเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง ภาพลักษณ์ดูดี แสดงถึงความไม่กล้าเผชิญปัญหาหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนยืนยันว่าตนทำหน้าที่ในฐานะโฆษกพรรค ส่วน น.ส.ศศินันท์ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการวินัย แน่นอนว่าปัญหาคุกคามทางเพศและการเผชิญหน้าเป็นภารกิจร่วมกันของทุกคนในพรรค ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตนเองหรือ น.ส.ศศินันท์ ต้องทำให้พรรคก้าวไกลเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนที่เข้ามาทำงานและคนในสังคมจริงๆ

ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีที่ได้ข่าวว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่า คิดว่ารัฐบาลชุดนี้ทำงานมาเพียง 1 เดือน มีผลงานมากมายตามที่ปรากฏต่อพี่น้องประชาชน การจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นสิทธิของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เมื่อมีคะแนนเสียงครบ และมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องดูกาลเทศะและช่วงเวลาว่าเหมาะหรือไม่ในการที่จะยื่น โดยขอให้ข้อสังเกตว่า การจะยื่นซักฟอกใคร ท่านควรจะยื่นซักฟอกตัวเองให้ขาวสะอาดก่อน การมาศาลต้องมาด้วยมือสะอาด เป็นหลักของกฎหมายทั่วไป

"ผมได้ยินว่าท่านกำลังซักฟอก ไม่ว่าจะเรื่องคุกคามทางเพศหรือเรื่องอื่นใดตามที่เป็นข่าว ขอให้ซักฟอกให้ขาวสะอาด แล้วค่อยมาเจอกันในศึกไม่ไว้วางใจจะดีกว่าไหม ก็ยินดีครับไม่ว่าจะยื่นเมื่อไหร่ ทางรัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ท่านก็พร้อม ตั้งแต่ทำงานมา ผมว่าท่านยังไม่มีเวลาพักผ่อนเลย" นายอดิศรกล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกร จำนง ในฐานะโฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ได้ลงนามคำสั่งที่ 1/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ทั้งนี้เพื่อให้การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายกรัฐมนตรีจึงได้ให้ความเห็นชอบต่อการตั้งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว มีองค์ประกอบ ได้แก่ นายนิกร จำนง ประธานอนุกรรมการ และอนุกรรมการประกอบด้วย  นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์, พล.อ.ชัชวาลย์ ขำเกษม, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง, พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายวิเชียร ชุบไธสง, นายวัฒนา เตียงกูล, นายยุทธพร อิสรชัย, นายธงชัย ไวยบุญญา, นายชนะโรจน์ เทียนธนะวัฒน์, นายเจือ ราชสีห์, นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี, นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ, นายธัชพงษ์ วงษ์เหรียญทอง, พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล, นายชนินทร์ รุ่งธนะเกียรติ, นายมงคลชัย สมอุดร, เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 1 คน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ, เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 2 คน เป็นเลขานุการ เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

นอกจากนั้น นายภูมิธรรมลงนามในคำสั่งที่ 2/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ มีนายวุฒิสาร ตันไชย เป็นประธานอนุกรรมการ และมีอนุกรรมการประกอบด้วย นายนิกร จำนง, นายพิชิต ชื่นบาน, พล.อ.ชัชวาลย์ ขำเกษม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายศุภชัย ใจสมุทร, นายวิรัตน์ วรศสิริน, นายยุทธพร อิสรชัย, นายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายประวิช รัตนเพียร, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ, นายชวลิต วิชยสุทธิ์, นายเจือ ราชสีห์, นายกฤช เอื้อวงศ์, นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี, นายรัฐภูมิ คำศรี, นายนิยม เติมศรีสุข, นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ, นายมงคลชัย สมอุดร, นายนพดล เภรีฤกษ์, เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  1 คน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ, เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  2 คน เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 1 คน เป็น อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในโควตาพรรคพลังประชารัฐ ให้นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน และนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้นายพงศกร อรรณนพพร เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง