ก.ก.กระอัก!ฉาวต่อเนื่อง บีบเซ็นใบอนุโมทนาทิพย์

กระอักเลือด "ชัยธวัช" กัดฟันพูดไม่กังวลปมภูมิใจไทยยื่น กกต.สอบขับ สส. 2 มาตรฐาน อ้างเหตุกลัว  "ปดิพัทธ์" สอบอาคารรัฐสภาหรือไม่    ฉาวต่อเนื่อง "เด็กโตโต้" ทำคลิปล้อเลียนคุกคามทางเพศ "แทนคุณ" ควง "เค สามถุยส์" พา ผอ.โรงเรียนฯ บุกสภา ร้องผู้ช่วย สส.จันทบุรีก้าวไกลคุกคาม-ใส่ร้าย บีบเซ็นใบอนุโมทนาทิพย์ ยอดรวมเฉียด 1.2 ล้านบาท ด่าเจ็บ! เมาเสรี ฟรีกาม  คุกคามประชาชน

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ยื่นเรื่องถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง จากการตั้งข้อสังเกตว่า มีความแตกต่างกับการขับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล และนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล ออกจากพรรค ที่ดำเนินการเปิดเผยทุกกระบวนการว่า ไม่ได้มีข้อกังวลในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเราดำเนินการทั้งสองกรณีอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และตรวจสอบได้ โดยขั้นตอนต่อไปของ กกต. ก็คงมีการแจ้งให้ไปชี้แจง ซึ่งเราก็พร้อมชี้แจงด้วยข้อมูลและเอกสารต่างๆ 

นายชัยธวัชตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมนายศุภชัยจึงดำเนินการเรื่องนี้ หรือเป็นเพราะว่านายปดิพัทธ์กำลังดำเนินการเกี่ยวกับอาคารรัฐสภาอยู่หรือไม่ ยืนยันว่าเราไม่กังวลอะไร ทุกเรื่องชี้แจงและตรวจสอบได้

ขณะเพจเฟซบุ๊ก "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" โพสต์คลิปพร้อมข้อความแฉพรรคก้าวไกลอีกครั้ง โดยระบุว่า "ทุกคนคะ  ทีมงาน สส. โตโต้ พรรคก้าวไกล เห็นการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องตลก ทำคลิปล้อเลียน เหยื่อใช้ลิ้นเลีย อ้างทำขำๆ คลิปในเมนต์เพราะทุเรศเกินค่ะ"

ต่อมา นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ "โตโต้" สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ชี้แจงใน X  (ทวิตเตอร์) ว่า "ไม่ใช่ครับ เป็นแค่สมาชิกพรรคในเขตบางนา และเป็น เคยเป็นอาสาสมัครช่วยหาเสียง เหมือนสมาชิกในเขตทั่วๆ ไป"

อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊ก "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" โพสต์ตอบโต้นายปิยรัฐว่า "ทุกคนคะ ขอแซงคิวก่อนค่ะ พี่โตโต้ รีบออกมาปัดคนที่ทำคลิปล้อเลียนเหยื่อที่ถูกคุกคามทางเพศว่าเป็นแค่สมาชิกพรรค เป็นอาสาสมัครช่วยหาเสียง                แต่จากภาพและคลิปมากกว่านั้นนะคะ"

อีกกรณี จากที่นายแทนคุณ​ จิตต์​อิสระ​ รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ ​พรรค​ประชา​ธิ​ปัตย์   ​ออกมาเปิดเผยว่าได้รับข้อมูล​ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ปลอมลายเซ็นผู้​อื่น และแจ้งยอดเงินไม่ตรงกับที่จ่าย มีบางรายไม่ได้รับเงินสักบาท แต่ถูก​สวมสิทธิ์​เซ็นชื่อรับเงิน ซ้ำร้ายนำส่งเอกสารปลอมยอดเงินเท็จและการหลอกนำบัตรประชาชน​ของผู้เสียหายไปประกอบเอกสารเท็จยื่นบัญชี​รายรับ-รายจ่ายการลงสมัคร สส.ให้ กกต. โดยไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง​

โดยผู้เสียหายเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ถูกปลอมลายเซ็น และนำสำเนาบัตรประชาชนไปแอบอ้างในการรับเงินค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง โดยได้มีการรับเงินเป็นจำนวน 13,490 บาท แต่กลับไม่ได้​รับเงินเลยสักบาท และผู้เสียหายอีก 2 ราย ได้รับเงินมาเพียง 9,000 บาท ถูกทำเอกสารปลอมว่ารับเงินจำนวน 18,020 บาท โดยมีการนำบัตรประชาชนของผู้เสียหาย​ทั้ง 3 ราย ไปปลอมลายเซ็นแอบอ้างทำเอกสารเท็จยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่

จึงได้รวบรวม​หลักฐาน​แจ้งความ​ดำเนินคดี​กับ สส.คนดังกล่าว ​และต้องการให้ข้อมูล​กับนายแทนคุณ​ นอกจากนี้  ​ผู้เสียหาย​ได้​นำเอกสารการแจ้งความ​ไปยื่นกับ กกต.แล้ว จึงขอเรียกร้อง​สำนึกจาก สส.ก้าวไกล ​ที่ถูก​กล่าวหา​ว่าทำผิดกฎหมาย​เลือกตั้ง​และกฎหมาย​คุ้มครอง​ข้อมูล​ส่วนบุคคล​ ออกมาสารภาพ​และลาออก

ล่าสุด นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงว่า ตามที่มีอดีตผู้ช่วยหาเสียงบางรายกล่าวหาผมว่า ผมปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปเบิกเงินพรรคนั้น เป็นความเท็จทั้งสิ้น

ประการที่ 1 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งแทบทั้งหมดเป็นเงินสดของผมเอง ส่วนพรรคได้มีการสนับสนุนเป็นป้ายหาเสียง รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาเสียงต่างๆ เป็นหลัก และมีการสนับสนุนเป็นเงินบริจาคที่ได้รับจากประชาชนที่พรรคจัดสรรให้เท่านั้น ดังนั้น ผมจึงไม่มีมูลเหตุจูงใจใดๆ ให้ปลอมแปลงเอกสารไปเบิกเงินจากพรรคตามที่ถูกกล่าวหาแต่ประการใด ในทางกลับกัน ผมจะปลอมเอกสารขึ้นเพื่อเบิกเงินตัวเองไปทำไม ข้อกล่าวหาดังกล่าวจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กกต.จังหวัด ซึ่งผมพร้อมและยินดีเข้าสู่กระบวนการการตรวจสอบตามกฎหมายทุกประการ

ประการที่ 2 การร้องเรียนที่เกิดขึ้นนี้ ผมสันนิษฐานว่าอาจเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของอดีตผู้ช่วยหาเสียงบางคนซึ่งผมไม่ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วย สส.และอดีตผู้ช่วย สส.บางคนที่ถูกผมปลดออกจากตำแหน่งผู้ชำนาญการ สส.

ทั้งหมดนี้ผมขอยืนยันว่า ผมไม่มีเหตุผลหรือแรงจูงใจใดๆ ให้ต้องปลอมแปลงเอกสารเพื่อเบิกเงินจากพรรคเลย เพราะค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งล้วนเป็นความรับผิดชอบของผมเกือบทั้งสิ้น

วันเดียวกันนี้ นายแทนคุณ และนายนิยม นพรัตน์ ฉายา “เค สามถุยส์” นำผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี ยื่นหนังสือผ่านตัวแทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม สืบเนื่องจากโดนผู้ช่วยสส.พรรคก้าวไกลคนหนึ่งของ จ.จันทบุรี อักษรย่อ จ. คุกคาม

นายแทนคุณกล่าวว่า วันนี้พา ผอ.โรงเรียนมาร้องเรียน เพราะถูกผู้ช่วย สส.ของพรรคก้าวไกล ขอให้ ผอ.คนนี้ช่วยออกใบอนุโมทนา 2 ใบ โดยใบแรกจำนวน 8 แสนบาท และใบที่สองจำนวน 3.7 แสนบาท แต่ ผอ.ไม่ยอมออกให้ เนื่องจากไม่มีอำนาจและไม่มีจำนวนเงินดังกล่าวเข้าโรงเรียนแต่อย่างใด ภายหลังเหตุการณ์นี้ ผอ.ได้รับความเดือดร้อน โดนใส่ร้ายป้ายสีกระทบเรื่องส่วนตัว อีกทั้งผู้ช่วย สส.รายนี้ยังบุกเข้ามาโวยวาย ผอ.ว่าทุจริตคดโกง

เขากล่าวว่า บอกได้เลยว่าตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมา ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมจริงๆ ไม่เคยมีการเมืองครั้งไหนที่จะเรียกว่า เมาเสรี ฟรีกาม คุกคามประชาชน รุนแรงและเลวร้ายเท่ากับการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล

 “เราถูกดูถูกด้อยค่าหาว่าเราเป็น io เราเลยเอาตัวตนจริงๆ ออกมา ไม่มีหรอก io มีแต่ ไอเอือม ไม่ไหวแล้วฝากไปถึง สส.ท่านนั้นด้วยว่า ถ้าคิดสั้นก็ฟ้องมา แต่ถ้าคิดยาวก็ลาออกดีกว่า ยังไปต่อได้” นายแทนคุณกล่าว

ด้าน ผอ.กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนไม่ยอมเซ็นใบอนุโมทนาให้ ต่อมาในวันที่ 28-29 มี.ค. ผู้ช่วย สส.ไปหว่านล้อมชุมชนเพื่อให้มากดดัน ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน ชีวิตวุ่นวาย ลามไปถึงลูกสาวด้วย สุดท้ายทนไม่ได้จึงลาออกจากการเป็น ผอ. แต่ก็เปลี่ยนใจขอทบทวนไม่ลาออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ทบทวนการเซ็นคำสั่ง

ส่วน เค สามถุยส์ เปิดเผยว่า ผู้ช่วยสส.คนดังกล่าวเป็นเพศหญิง และเป็นหลานเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจันทบุรี แต่มีพฤติกรรมเข้าไปอยู่ในกุฏิวัด ซึ่งกุฏิดังกล่าวสร้างจากเงินผู้มีจิตศรัทธาในศาสนา เพื่อใช้รับรองพระสงฆ์ แต่ผู้ช่วยสส.กลับยึดครองไว้เอง

 “นี่คือพฤติกรรมของพรรคก้าวไกล เช่น การคุกคาม สส. ที่ผ่านมาก็ไปบอกว่าน้องเขามาชอบตัวเอง เป็นความพยายามโทษเหยื่อเพื่อให้ตัวเองดูดี” นายเคกล่าว

ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัย กรณี สส.ปราจีนบุรีออกมาแฉว่ามี ผช.สส.กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เข้าไปมีเอี่ยวเรียกรับผลประโยชน์เกี่ยวกับที่ดินจากบริษัทบ่อขยะและอาจมีการเลี่ยงภาษี อันมีผลต่อการกล่าวหามาถึงตนเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ แต่พรรคก้าวไกลกลับสอบสวนอย่างล่าช้า และปกปิดความจริงที่ควรกระทำ อันอาจขัดต่อจริยธรรมหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง