‘เนทันยาฮู’ฟุ้ง เร่งดำเนินการ ขอตัวประกัน!

ยอดเสียชีวิตสงครามกาซาพุ่งทะลุ 12,000 รายแล้ว “เนทันยาฮู” ปูดกำลังทำข้อตกลงปล่อย 240 ตัวประกัน แต่ขออุบเงียบรายละเอียด สำนักงานยูเอ็นทั่วโลกลดธงครึ่งเสาไว้อาลัยเหตุการณ์ แรงงานบุรีรัมย์  381 รายยื่นขอเยียวยาแล้ว

เอเอฟพีรายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เมื่อวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ว่ายังคงดุเดือดในฉนวนกาซาแม้เป็นช่วงสุดสัปดาห์ โดยยอดรวมผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 12,300 ราย หลังอิสราเอลปรับลดตัวเลขในฝั่งตัวเองลง ขณะที่ตัวประกันอีก 240 คนยังคงไม่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา

โรงพยาบาลอัลชิฟา ของกาซาซิตี ซึ่งชาวปาเลสไตน์ที่ป่วย บาดเจ็บ และผู้พลัดถิ่นหลายพันคนพักพิงอยู่ กลายเป็นศูนย์กลางการปะทะและถูกโจมตีด้วยปืนและระเบิดหลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่กองทัพอิสราเอลปฏิเสธว่าไม่ได้มุ่งเป้าไปที่โรงพยาบาล แต่กลุ่มฮามาสจงใจใช้โรงพยาบาลเป็นฐานปฏิบัติการและใช้ผู้คนเป็นโล่กำบัง

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เปิดเผยว่า กำลังดำเนินการในข้อตกลงปล่อยตัวประกันที่กลุ่มฮามาสคุมขังไว้ในฉนวนกาซา แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพราะกลัวข้อมูลรั่วไหลจนกลายเป็นความล้มเหลว

สหประชาชาติระบุว่า มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคนจากการโจมตีสถานที่ปฏิบัติงานของสหประชาชาติในกาซาซิตี ซึ่งชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนได้เข้าไปลี้ภัยเพื่อหลบหนีสงคราม เช่นเดียวกับบริเวณโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ดำเนินการโดยหน่วยงานสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา

การอพยพชาวต่างชาติและคนสองสัญชาติ รวมถึงชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บจากฉนวนกาซาไปยังอียิปต์  ได้กลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังจุดผ่านแดนราฟาห์ปิดชั่วคราวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ มีรายงานตัวเลขผู้ผ่านแดนครั้งล่าสุดที่ราว 500 คน

ทั้งนี้ อิสราเอลกำลังเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติอย่างหนัก ในการลดความทุกข์ทรมานของพลเรือนท่ามกลางปฏิบัติการทางอากาศและทางภาคพื้นดินครั้งใหญ่

ล่าสุด โรงพยาบาลทุกแห่งในฉนวนกาซาทางตอนเหนือ จำเป็นต้องปิดให้บริการท่ามกลางการสู้รบ เนื่องจากประเด็นความปลอดภัยและการขาดแคลนทั้งทรัพยากรน้ำและเชื้อเพลิง ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตในศูนย์การแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กทารก

มีรายงานว่า ทารกคลอดก่อนกำหนด 7 รายเสียชีวิตในโรงพยาบาลอัลชิฟา พร้อมด้วยผู้ป่วยอีก 27 รายในห้องไอซียูที่เสียชีวิตจากภาวะไฟฟ้าดับ

องค์การอนามัยโลกในดินแดนปาเลสไตน์เตือนว่า ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่มากถึง 3,000 คนต้องหลบภัยอยู่ในที่พักโดยไม่มีเชื้อเพลิง, น้ำ หรืออาหารเพียงพอ เป็นเวลา 3 วันแล้ว

มีการธงลดครึ่งเสา ณ บริเวณที่ทำการต่างๆ ขององค์การสหประชาชาติในหลายพื้นที่ทั่วโลก และบรรดาเจ้าหน้าที่ยืนสงบนิ่งเป็นเวลาหนึ่งนาที เพื่อรำลึกถึงเพื่อนร่วมงานที่ถูกสังหารในฉนวนกาซา

ส่วนความเคลื่อนไหวในไทยพบว่า แรงงานชาวบุรีรัมย์ที่หนีภัยสงครามกลับภูมิลำเนา ได้นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐ ค่าตั๋วเครื่องบินที่เดินทางกลับเอง เงินปิซูอิม และให้ช่วยติดตามค่าจ้างค้างจ่ายแล้ว 381 ราย จากจำนวนแรงงานที่ทำงานอิสราเอล 1,189 ราย โดยแรงงานที่เหลือส่วนใหญ่ยอมเสี่ยงทำงานต่อเพราะมีภาระหนี้สิน ส่วนผู้เสียชีวิต 3 รายส่งร่างกลับบำเพ็ญกุศลแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 2 รายยังอยู่ระหว่างรอการพิสูจน์อัตลักษณ์จากทางการอิสราเอล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง