ฟาด‘เตี้ยหลังม็อบ’ยุนศ.ถืออาวุธ

"แรมโบ้" ฟาดหนักผู้แทนแก๊งสามนิ้ว "เตี้ยหลังม็อบ"  ดอดร่วมกิจกรรม "วางหนังสือถืออาวุธ" ชี้พฤติกรรมเจตนาปลุกระดม  ปูทางจุดไฟป่วนดินแดง ขณะที่ ตร.นั่งไม่ติดเร่งสาวกลุ่มชักใยในพื้นที่  หนาวแน่! จับตามั่นคงขยายผลล้มล้างการปกครองหรือไม่

เมื่อวันจันทร์ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า "วันนี้อยู่กับน้องๆ ที่นครสวรรค์" พร้อมภาพร่วมกิจกรรม “วางหนังสือถืออาวุธ” โดยมีกลุ่มวัยรุ่น 3 นิ้วเข้าร่วมกิจกรรมว่า ตั้งแต่นางอมรัตน์มาเป็น ส.ส. ยังไม่เคยเห็นว่าได้ทำประโยชน์อะไรให้ประชาชนบ้างเลย เห็นมีแต่สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศและประชาชน แต่ยังอยากได้เงินเดือนที่มาจากเงินภาษีของประชาชน

 “การโพสต์และมีข้อความเช่นนี้เป็นการยุยงส่งเสริมให้เยาวชน น้องๆ นักศึกษาจับอาวุธมาสร้างความรุนแรงอย่างนั้นใช่หรือไม่ มีเจตนาปลุกระดมสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองเกิดความรุนแรง เหมือนที่มีการสนับสนุนให้ม็อบทะลุแก๊สทำความเดือดร้อนวุ่นวาย สร้างความรุนแรงให้ประชาชน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงบาดเจ็บสาหัสไปหลายคน เหตุเกิดที่แยกสามเหลี่ยมดินแดงมาแล้ว หวังผลเช่นนั้นใช่หรือไม่” นายเสกสกล ระบุ

 “ขอประณามการกระทำและพฤติกรรมของนางอมรัตน์ และอยากให้ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศที่รักสถาบันได้ออกมาประณาม ส.ส. คนนี้เช่นเดียวกัน อย่าปล่อยให้นำเงินภาษีไปใช้ในทางที่ผิด ใช้สนับสนุนกลุ่มคนที่สร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมือง และที่สำคัญเลือกตั้งครั้งต่อไปขออย่าเลือก ส.ส.คนนี้เข้ามาทำงานในสภาอีก พฤติกรรมของเตี้ยหลังม็อบคนนี้ ผมไม่อยากเรียกว่าเป็น ส.ส.หรือผู้แทนของปวงชนชาวไทย คงเป็นได้แค่ผู้แทนของแก๊งสามกีบที่คิดจ้องทำลายสถาบันมากกว่า” นายเสกสกลระบุ

นายเสกสกลกล่าวด้วยว่า ตนเคยแจ้งความดำเนินคดีมาตรา 112  และความผิดพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว จะได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบดำเนินคดีเพิ่มอีกสักคดี เพราะหากปล่อยให้มีการกระทำของบุคคลนี้ต่อไปจะยิ่งหนักแผ่นดิน และจะขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดคดีเก่าของคนคนนี้ให้เร็วที่สุด ขืนชักช้ายิ่งได้ใจ ไม่เคยคิดเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเลยสักนิด ไม่ควรจะเข้าไปอยู่ในสภา  ควรเข้าไปอยู่ในคุกจะดีกว่าไหม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตภาพและข้อความบนทวิตเตอร์ระบุว่า  "วันนี้อยู่กับน้องๆ ที่นครสวรรค์" ภาพดังกล่าวเป็นภาพนางอมรัตน์ไปร่วมกิจกรรม “วางหนังสือถืออาวุธ” ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่น 3 นิ้วราว 20 คนเข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้นางอมรัตน์ยังได้อบรมสัมมนากลุ่มวัยรุ่น  ขณะที่วัยรุ่นบางคนได้สวมหมวกดาวแดง สัญลักษณ์ของผู้ที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ รวมถึงยังมีการถ่ายภาพร่วมกันในขณะชู 3 นิ้วอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าฝ่ายความมั่นคงจะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ ว่าเป็นการจัดกิจกรรมปลูกฝังให้ความรู้ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นการเผยแพร่แนวคิดที่อาจต้องการล้มล้างการปกครองหรือไม่

ที่ จ.นครสวรรค์ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ลำภูรีสอร์ท โดยระบุว่ากลุ่มนักศึกษาทั้งหมดเป็นกลุ่มม็อบสามนิ้ว โดยมีนายภาณุวัฒน์ ศรีธรานุวัฒน์ หรือไนซ์ แกนนำกลุ่มดาวดิน นำกลุ่มผู้ชุมนุมและกลุ่มคณะราษฎรขอนแก่นมาเปิดห้องพัก พร้อมจัดสัมนาในระหว่างวันที่ 18-19  ธันวาคม 2564 และมี ส.ส.อมรัตน์ร่วมเดินทางมาสัมมนาด้วย

พล.ต.ต.ระพีพงษ์กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบพฤติกรรมและข้อความป้ายผ้าที่ปรากฏ เป็นเรื่องที่น่าตกใจถึงแนวคิดของคนกลุ่มนี้ จากการสอบสวนเจ้าของรีสอร์ตทราบว่า เจ้าของรีสอร์ตไม่ทราบว่าระหว่างสัมมนานั้นกลุ่มดังกล่าวพูดคุยประเด็นอะไรบ้าง เพราะช่วงที่มีการพูดคุยกันมีการปิดห้องและห้ามพนักงานของรีสอร์ตเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยตนเองได้ส่งสายสืบออกหาข่าวในพื้นที่แล้ว เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกว่ามีกลุ่มบุคคลใดในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์อยู่เบื้องหลังการสัมมนาครั้งนี้หรือไม่

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า การปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เหตุการณ์เป็นไปอย่างสงบ ไม่พบการรวมกลุ่มของมวลชนกลุ่มทะลุแก๊สในพื้นที่แต่อย่างใด ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมได้รุมทำร้ายร่างกาย ส.ต.ต.ชยพล เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดช่วงกลางคืนของวันที่ 12 ธ.ค.64 บริเวณถนนเพชรบุรี ใกล้แยกมิตรสัมพันธ์ ซึ่งได้จับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว 5  ราย ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายมามอบตัวที่ สน.พญาไทเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

"ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.63 จนถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 807 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 406 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 401 คดี” รอง  ผบช.น.กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง