ลูกหมีมาแน่‘ป้อม’ไม่ส่งชุมพร

“วิษณุ” ปัดไขก๊อกเวลานี้ แต่ย้ำไปเมื่อสิ้นรัฐบาล “ประวิตร” นั่งหัวโต๊ะประชุม กก.บห.พรรค ตกลงส่งชิงเก้าอี้ ส.ส.แค่สงขลา ส่วน “ชุมพร” ปล่อยผ่าน “สุชาติ” ยกเหตุผลมี ส.ส.ในพื้นที่ 4 เขต ถือเป็นขาใหญ่ ต้องขยายพื้นที่จะได้ระดมสรรพกำลังลุยที่เดียว ปัดเกี๊ยะเซียะก๊วนลูกหมี “ก้าวไกล” ส่งด้วยทั้ง 2 เขต หวังทดสอบกระแสพรรค เพื่อไทยรับ “วิฑูรย์” มีเจรจาย้ายข้ามวิกจริง แต่ยังไม่ชัดเจน

เมื่อวันอังคารที่ 21 ธันวาคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเตรียมลาออกเพื่อวางมือทางการเมืองว่า พูดเอาไว้หลายเดือนแล้ว เป็นการปรารภเล่นกัน หมายความว่าเมื่อสิ้นรัฐบาล เมื่อถามย้ำว่าไม่ใช่ว่าเดี๋ยวนี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุโบกมือปฏิเสธพร้อมระบุว่า ไม่ได้หมายความว่าต้องเดี๋ยวนี้ เมื่อสิ้นรัฐบาลนะ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หยุดเดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อเจอสื่อมวลชนถามคำถามนี้ พร้อมหันไปถามคณะทำงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ก่อนกล่าวว่า กระแสมาจากไหน มาจากเสาไฟฟ้า เป็นกระแสไฟฟ้าหรือเปล่า ไม่ได้ยินเลยนี่ อาจารย์วิษณุยืนยันแล้วไม่ใช่เหรอ

เมื่อถามย้ำว่า นายวิษณุยืนยันแล้วว่าจะไม่ลาออก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "เออ! แล้วมาถามทำไม" ถามย้ำอีกว่าเป็นการสะท้อนอะไรในรัฐบาลหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์โบกมือปฏิเสธตอบคำถาม แล้วเดินเข้าตึกทันที

สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้ร่วมประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 พร้อมกล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ โดยขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีความสุข บ้านเมืองสงบ ขอให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปด้วยกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในจังหวัดชุมพรและสงขลานั้น ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า จะประชุมช่วงบ่ายนี้ และขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนกรณีนายพิทักษ์ชน ช่างเหลา บุตรชายนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยนั้น ยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีการพูดกัน และเป็นเรื่องของเด็ก

ต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาระบุที่พรรค พปชร.ไม่ประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเพราะไม่มีตัวใช่หรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรเพียงหันมายิ้ม แล้วไม่ตอบคำถามดังกล่าว และเมื่อรุกถามย้ำว่า เหตุที่ยังไม่ประกาศเพราะกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ในพื้นที่ตก ทำให้กลัวแพ้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบทันทีว่า โอ๊ย ไม่จริงหรอก

เมื่อถามย้ำว่า พรรค พปชร.จะส่งลงทั้ง 2 เขตใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มี มีอยู่แล้ว เดี๋ยวจะประชุม กก.บห.ให้รอผลตอนนั้น

ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลฯ ในฐานะ กก.บห.พรรค พปชร.กล่าวเช่นกันว่า การประชุมพรรคจะมีความชัดเจนว่าจะส่งหรือไม่ส่ง โดยจะพิจารณาทุกปัจจัย ทั้งเรื่องมารยาท การทำงานในอนาคตของรัฐบาล รวมถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่ง กก.บห.ต้องหารือให้รอบคอบ แต่สุดท้ายต้องมองความเข้มแข็งของพรรคว่าจะเดินต่อไปในอนาคตที่จะทำงานให้เข้มแข็งและตอบโจทย์ประชาชนอย่างไร

ในเวลา 15.15 น. ที่ห้องประชุม พปชร.ชั้น 6 อาคารรัฐสภา พล.อ.ประวิตรเป็นประธานการประชุม กก.บห.พรรค โดยมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง

พปชร.ส่งแค่สงขลาเว้นชุมพร

จากนั้น เวลา 16.20 น. น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรค พปชร.แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เขต 6 แต่ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอชื่อนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรค

นายสุชาติกล่าวถึงสาเหตุที่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเพียงเขตเดียวว่า จ.สงขลามี 8 เขต โดยมี ส.ส.ของพรรค 4 เขต ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มี 3 เขต พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 1 เขต ถือว่าพื้นที่ ส.ส.ของเรามีมากกว่า ยุทธศาสตร์ในการทำการเมืองที่จะทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพิงได้ เราต้องขยายพื้นที่ ถ้าเราไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เราจะตอบ ส.ส.ของพรรคอีก 4 คนไม่ได้ ส่วน จ.ชุมพร ที่พรรคไม่ส่งผู้สมัครนั้น เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ของพรรค และมองว่า จ.ชุมพรไม่มี ส.ส.ของพรรค จึงระดมสรรพกำลังทั้งหมดไปสู้และรักษาพื้นที่ใน จ.สงขลาดีกว่า

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เพราะนายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.พรรค ปชป. อาจมาร่วมงานกับพรรค พปชร.ในอนาคตใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ตรงนั้นเป็นสิ่งที่คิดได้ แต่เป็นเรื่องอนาคต ส่วนตัวตนและนายชุมพล และนายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต

ถามย้ำว่า แสดงว่าไม่ใช่การเกี๊ยะเซียะทางการเมืองใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์การขยายพื้นที่เท่านั้นเอง และการไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร ก็ไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า เพราะการเลือกตั้ง 400 เขต ตามกฎหมาย ไม่มีทางที่จะยึด 400 เขตไปหลัก ต้องโฟกัสอยู่แล้วว่าจะเอาเขตไหนบ้าง เราไม่มีเหตุผลที่จะสู้ทั้ง 400 เขต ทางการเมืองเราต้องการเสียงข้างมากสุดในสภา ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเราต้องโฟกัสจังหวัดที่เรามีพื้นที่อยู่แล้ว และสามารถขยายพื้นที่ได้อีก

“คิดว่าผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเข้าใจ กลับกันถ้าเขาเป็นเรา ก็ต้องคิดเหมือนกับเรา หากเขามี ส.ส.มากกว่าเราต้องรักษาพื้นที่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการยึดพื้นที่จังหวัดที่เรามี ส.ส.มากกว่า ถ้ามองว่าเราจะมีปัญหากันมันไม่ใช่หรอก เพราะเรารู้จักกันหมด และเราเป็นเพื่อนกันหมด ไม่ว่าจะในทางการเมืองหรือการเลือกตั้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องรักษาพื้นที่” นายสุชาติกล่าว และว่า ส่วนที่ผ่านมาแกนนำ ปชป.ออกมาแซะเรื่องนี้ เข้าใจได้ เพราะความรู้สึกของแต่ละท่าน ส.ส.แต่ละพรรคมีหลายร้อยหลายสิบคน ความคิดของแต่ละคนต่างกัน แต่เชื่อว่าเหตุผลของพรรค พปชร.จะเป็นที่เข้าใจได้

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแจ้งว่า พล.อ.ประวิตรเข้าประชุมพรรคอย่างอารมณ์ดี โดยกล่าวในที่ประชุมช่วงหนึ่งว่า การหารือกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการลงมติให้ส่งผู้สมัครทั้ง 2 พื้นที่ คือ เขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา แต่วันนี้ให้ยกเลิกของเดิม ไม่เอาแล้ว จะส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเฉพาะ จ.สงขลา คือนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เนื่องจากมีคุณวุฒิพร้อม และมั่นใจว่าจะได้ที่นั่งในเขตนี้ ส่วนที่ไม่ส่ง จ.ชุมพร เพราะจากการเจรจากับนายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะนำทีมงานทั้ง 3 เขต มาอยู่กับพรรค พปชร.แน่นอน แต่ในครั้งนี้จะขอส่งลงสมัครกับพรรคประชาธิปัตย์ไปก่อนเพื่อรักษาพื้นที่ไว้

ส่วนนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะรองโฆษกพรรค ปชป. กล่าวในเรื่องนี้ว่า พรรคมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะในครั้งนี้ เนื่องจากผู้สมัครของพรรคได้พื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่พรรคได้นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรครับผิดชอบภาคใต้ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเข้มแข็ง มีภาวะผู้นำ และเข้าใจพื้นที่ได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าศักยภาพของนายเดชอิศม์จะนำพาลูกทีมให้ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรได้ รวมถึงสิ่งที่สำคัญคือผลงานของพรรคที่ผ่านมา โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้ก็เป็นที่ยอมรับของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

ก้าวไกลส่งชิงทดสอบเสียง

“มั่นใจว่าจะป้องกันแชมป์ได้แน่นอน เพราะผู้สมัครของพรรคเป็นคนมีศักยภาพและได้ลงพื้นที่มาต่อเนื่อง อีกอย่างพรรคได้รองหัวหน้าพรรคภาคใต้คนใหม่ที่เข้มแข็ง มีภาวะผู้นำ และเข้าใจพื้นที่ได้เป็นอย่างดี คิดว่าจะรักษาเก้าอี้ไว้ได้ และไม่สนใจว่าพรรคการเมืองใดจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งหรือไม่ลง เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีเป้าหมายที่จะต้องรักษาเก้าอี้ไว้ให้ได้” นายอัครเดชระบุ

ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรค ก.ก. กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันครบทั้ง 2 เขต ได้แก่ นายธิวัชร์ ดำแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 และนายวรพล อนันตศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 ซึ่งเหตุผลที่เราส่งผู้สมัคร เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้คงเข้าใกล้การเลือกตั้งใหญ่ รัฐบาลคงอยู่อีกไม่น่าเกิน 1 ปี การเลือกตั้งทั้ง 2 สนามนี้ จะเป็นบทพิสูจน์สิ่งที่พรรคได้เคยทำงานมวลชนในพื้นที่ภาคใต้

ส่วนนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรค ปชป. ยกทีมมาร่วมทำงานกับพรรค พท.ว่า ได้ยินข่าวมาบ้าง และเท่าที่ทราบคือมีการพูดคุยเจรจากับผู้บริหารในพรรคจริง แต่ไม่ทราบในรายละเอียด และไม่ทราบว่าสุดท้ายนายวิฑูรย์จะมาร่วมงานกับพรรคหรือไม่ ถ้ามาก็เป็นเรื่องที่ดี และคงมาทั้งชุดที่มีทั้ง ส.ส.และ ส.จ.

“หากนายวิฑูรย์มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยจริง คงไม่กระทบกับพื้นที่ ส.ส.เพื่อไทย เพราะเรามี ส.ส.อยู่กันคนละเขตกับนายวิฑูรย์อยู่แล้ว ปัจจุบัน ส.ส.อุบลราชธานีมี ส.ส. 10 คน พรรคเพื่อไทย 7 คน, ประชาธิปัตย์ 2 คน, พลังประชารัฐ 1 คน หากมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ คาดว่าพื้นที่ จ.อุบลราชธานีจะมี ส.ส.เพิ่มเป็น 11 คน ก็ไม่ส่งผลกระทบเช่นกัน” นายสมคิดกล่าว

เมื่อถามว่า หากนายวิฑูรย์ยกทีมมาอยู่จริง จะยิ่งตอกย้ำกระแสไม่สู้ดีของพรรค ปชป.ในพื้นที่อีสานหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่านายวิฑูรย์จะมาร่วมงานกับพรรคจริงหรือไม่ และไม่ทราบว่า ปชป.คิดอย่างไร แต่เท่าที่รู้นายวิฑูรย์ลาออกจากสมาชิก ปชป.มานานแล้ว จึงไม่ทราบว่าจะกระทบกับพรรค ปชป.หรือไม่ แต่ถ้านายวิฑูรย์มา พวกเราเพื่อไทยพร้อมต้อนรับ ถ้าไม่มาก็ไม่เป็นอะไร ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็สู้กันไป

รับสภาพแก้สภาล่มไม่ได้

วันเดียวกัน ยังคงมีประเด็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ล่ม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เสถียรภาพของรัฐบาลยังมั่นคงอยู่ ซึ่งการแสดงตนต้องใช้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แม้เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล แต่ต้องช่วยกัน และเชื่อว่าในการพิจารณากฎหมายสำคัญจะสามารถผ่านไปได้เพราะมีเสียง ส.ส.เพียงพอ และการที่องค์ประชุมไม่ครบเพราะ ส.ส.บางคนติดธุระ

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ยอมรับว่า ตั้งแต่รับหน้าที่เป็นประธานวิปรัฐบาล ปัญหาสภาล่มเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งเป็นเรื่องขัดข้องทางเทคนิค ส่วนเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ยอมรับว่ารัฐบาลมาประชุมไม่ครบ แต่มากว่า 200 คน สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยอมรับ แต่คงไม่กำชับอะไรมาก เพราะทุกอย่างเป็นหน้าที่ของ ส.ส. ต้องมีทัศนคติที่ถูกต้องในการทำงานเป็น ส.ส. และก็คงแต่ได้กำชับส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ

ถามถึงกรณีที่หลายคนกังขาการทำงานของประธานวิปรัฐบาลที่เป็นมือใหม่ นายนิโรธกล่าวว่า ทำตามระบบและหน้าที่ ความจริงเป็นคนประนีประนอม ไม่ได้แข็งกร้าว และไม่ท้อ เพราะเป็นนักกีฬา เล่นกีฬามา ผ่านการต่อสู้ วันนี้ไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อปกป้องสภานิติบัญญัติให้มีความมั่นคง ทำทุกอย่างเท่าที่คิดได้ นายชวนก็ได้แนะนำ ซึ่งก็ได้ปฏิบัติตาม แต่พอเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อถามอีกว่า ถ้าเกิดสภาล่มอีกจะจัดการอย่างไร นายนิโรธกล่าวว่า ได้คุยกับวิปรัฐบาล ซึ่งทุกคนก็เข้าใจและตั้งใจที่จะสื่อสารให้ชัดเจนมากขึ้นว่ามีระเบียบวาระการประชุมอะไรบ้าง โดยเน้นไปที่วิปแต่ละพรรคทำความเข้าใจกับ ส.ส.ของตัวเอง วิปแปลว่าฝ่ายประสานงาน ตนเองก็ประสานงาน แต่ฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือและสมาชิกรัฐบาลบางคนติดภารกิจจะให้ทำอย่างไร บางคนบอกว่าไม่มีลูกล่อลูกชน แบบนั้นคือคนกะล่อน ถามว่าจะส่งเสริมคนเช่นนี้หรือ การทำหน้าที่เป็นส.ส. ต่อรองไปมา เล่นเชิงไป เล่นเหลี่ยมมา คนแบบนี้เรียกกะล่อน

"ถ้าทุกฝ่ายอยากรักษาความมั่นคงของสภานิติบัญญัติ ต้องช่วยกัน แต่ถ้าอยากทำลายก็ไม่ว่ากัน แต่พวกผมฝ่ายรัฐบาลเดินหน้าเพื่อรักษาความมั่นคงของฝ่ายนิติบัญญัติ รัฐบาลไม่ได้สั่นคลอน รัฐบาลเป็นฝ่ายบริหารก็มีความมั่นคง จะไปโยงมันไม่ใช่" ประธานวิปรัฐบาลระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง