ศาลทุจริตฯฟัน แก๊งขโมย‘ปืนรัฐ’ โทษจำคุกระนาว

ศาลอาญาคดีทุจริตสั่งจำคุกระนาวคดีแอบลักเอ็ม 16 ไปขาย 71 กระบอก สิบตำรวจโทร่วมกับพวก 8 คนไม่รอด จำคุกหนักสุด 96 ปี เบาสุด 6 ปี 8 เดือน แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดกึ่งหนึ่ง ยกฟ้องจำเลยที่ 9

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2566 มีรายงานจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแจ้งว่า ศาลได้อ่านคำพิพากษา ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 72 และ 119/2566 ที่ศาลสั่งให้รวมเป็นคดีเดียวกัน ตามที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 ยื่นฟ้องสิบตำรวจโท น. กับพวกรวม 9 คน จำเลย ในคดีนำอาวุธปืนเล็กยาว M16 จำนวน 71 กระบอกไปขาย ซึ่งจำเลยทั้ง 9 ให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลย ฟังได้ว่า จำเลยแต่ละคนได้ให้การถึงรายละเอียดของการซื้อขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆ กับบุคคลภายนอกจำนวนหลายครั้ง พยานหลักฐานของโจทก์ก็สอดคล้องเชื่อมโยง ตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นคำซัดทอดที่ต้องห้ามตามกฎหมายคำให้การของจำเลยแต่ละคนในชั้นสอบสวน สามารถนำมารับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้ ไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนบังคับ ขู่เข็ญ ให้สัญญาล่อลวงทำร้ายร่างกายหรือกระทำการอื่นใดอันมิชอบด้วยกฎหมาย จำเลยแต่ละคนให้การถึงรายละเอียดดังกล่าว ตามลำดับขั้นตอนข้อเท็จจริงสอดคล้องกันเป็นอย่างมาก พูดถึงรายละเอียดการกระทำความผิดที่เจือสมสอดคล้องกัน

การวินิจฉัยพยานหลักฐานของศาลฟังประกอบหลักฐานอื่น มิได้รับฟังแต่เพียงพยานบอกเล่าโดยลำพัง มีเหตุผลหนักแน่นแม้จะไม่สามารถยึดอาวุธปืนของกลางนำมาตรวจสอบได้ว่าเป็นอาวุธปืนจากคลังอาวุธที่ถูกลักไปหรือไม่ แต่ภาพที่บันทึกในโทรศัพท์ของจำเลยที่ 6, 7 มีสัญลักษณ์ของกองบัญชาการ ต.จำนวน 3 กระบอก มีหมายเลขอาวุธปืน 2 กระบอก ปะปนอยู่กับอาวุธปืนที่สูญหายอีก 71 กระบอก จึงเชื่อว่าเป็นจำนวนเดียวกันกับที่จำเลยที่ 1 กับพวกลักนำออกไป

พยานหลักฐานของโจทย์ที่นำสืบและไต่สวนสามารถพิสูจน์ ความผิดของจำเลยผู้ทำความผิดได้ ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยแต่ละคนที่อ้างว่าไม่เกี่ยวข้องนั้น เห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานของโจทก์ก็ได้ ฟังได้ว่าจำเลยแต่ละคนรู้หน้าที่และบทบาทของกันและกัน มีลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ รวมถึงรู้ถึงการกระทำในแต่ละครั้งของจำเลยที่ 1 ด้วย จำเลย 2, 4-8 และที่ 8 มิใช่เจ้าพนักงานตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวบุคคล การกระทำของจำเลยดังกล่าวข้างต้นเป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานนี้เท่านั้น

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1-8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91, 147, 157, 57, 371 พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน, พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ และประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่องกำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์

การกระทำของจำเลยที่ 1, 2, 4-6, 8 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 6 ปี 2 กระทงจำคุก 12 ปี การกระทำของจำเลยที่ 2, 4, 6, 8 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 4 ปี  2 กระทง จำคุกคนละ 8 ปี จำเลยที่ 1, 2, 4-6, 8 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันค้าหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 78 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 20 ปี จำเลย 1, 2-4, 6 และ 8 กระทำผิดคนละ 2 กระทง จำคุกคนละ 40 ปี ส่วนจำเลยที่ 5 กระทำผิด 4 กระทง จำคุก 80 ปี การกระทำจำเลยที่ 3 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 78 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 2 ปี 2 กระทงรวมจำคุก 4 ปี และการกระทำจำเลยที่ 7 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นค้า หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 78 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 13 ปี 4 เดือน  2 กระทง จำคุก 26 ปี 8 เดือน

การกระทำของจำเลยที่ 1, 2, 4-8 ที่เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 2 ปี การกระทำของจำเลยที่ 1, 2, 4, 6-8 กระทำผิดคนละ 2 กระทง จำคุกคนละ 4 ปี จำเลยที่ 5 กระทำผิด 4 กระทง จำคุก 8 ปี การกระทำของจำเลยที่ 3 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานสนับสนุนผู้อื่นให้พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 1 ปี 4 เดือน 2 กระทง จำคุก 2 ปี 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 1 รวม 56 ปี จำคุกจำเลยที่ 2, 4, 6, 8 รวมคนละ 52 ปี จำคุกจำเลยที่ 5 รวม 96 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 รวม 6 ปี 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 7 รวม 30 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 1-8 ให้การในชั้นซักถาม ชั้นสืบสวนและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 28 ปี คงจำคุกจำเลยที่ 2, 4, 6, 8 มีกำหนดคนละ 26 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 5 มีกำหนด 48 ปี จำคุกจำเลยที่ 7 มีกำหนด 15 ปี 4 เดือน และให้จำเลยที่ 1-8 คืนอาวุธปืนเล็กยาวแบบเอ็ม 16 เอ จำนวน 71 กระบอก หรือใช้ราคาแทนเป็นเงิน 1,483,900 บาท แก่ผู้เสียหาย ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 9 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง