เชื่อแล้วหนาวจริง! 0องศาเหมยขาบมา

เชียงใหม่ ๐ หนาวของจริง! น้ำหนาวเหลือ 0 องศา ดอยอินทนนท์แตะ 4 องศา  ต่ำสุดอีกครั้ง พร้อมเหมยขาบมารัวๆ ครั้งที่ 5 ยะเยือกสมใจ นักท่องเที่ยวเพียบ ไม่ต้องไปต่างแดน บึงกาฬใช่ย่อย ลดเหลือ 11 องศา แต่ชาวประมงไม่ปลื้มเพราะออกหาปลาไม่ได้

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม นักท่องเที่ยวร่วม 4,000 คนได้สัมผัสอากาศหนาวสุดขั้วกับอุณหภูมิแตะต่ำสุดอีกครั้งของหน้าหนาวปีนี้ ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์    อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้าที่ยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิลงมาต่ำสุดวัดได้ 4 องศาเซลเซียส มาพร้อมกับปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ  บริเวณบนลานจอดรถจุดชมวิว เกาะตามใบและยอดหญ้า กิ่งไม้ที่อยู่กับพื้น สะท้อนกับแสงยามเช้าของพระอาทิตย์ เป็นเงางามวาววับดุจอัญมณี นักท่องเที่ยวต่างถ่ายภาพ เซลฟี อย่างสมใจ

โดยที่จุดชมวิวและแสงแรกกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิวัดได้ 7 องศาเซลเซียส จุดนี้นักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก เพราะรถนักท่องเที่ยวมาจอดรอชมความสวยงามของทะเลหมอกบนยอดดอยก่อนยลแสงแรกของวัน แม้กระทั่งจุดโค้งของถนนที่ขึ้นมาจะเห็นทะเลหมอกล่องลอยไปทั่วบริเวณ

ขณะที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. 31 วัดได้ 12 องศาเซลเซียส ซึ่งบรรยากาศภาพรวมก็หนาวได้ใจ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็ไม่ผิดหวัง หลายคนบอกไม่ต้องเดินทางไกลไปเที่ยวรับลมหนาวถึงต่างประเทศในยุคข้าวยากหมากแพง อยู่เมืองไทยก็หนาวยะเยือกได้

ส่วนสถิติของการเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นั้น วันนี้เป็นครั้งที่ 5 ส่วนสถิตินักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 2,153 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 1,413 คน ยอดรวมจำนวน 3,566 คน ยานพาหนะรวมจำนวน 928 คัน

ทั้งนี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ระยะสัปดาห์นี้บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส โดยบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

ที่ จ.เพชรบูรณ์ หลังจากอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างฮวบฮาบ ส่งผลให้สภาพอากาศเกิดความหนาวเย็นจัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาสูง อาทิ ที่บ้านห้วยหญ้าเครือ อ.น้ำหนาว โดยช่วงเช้าตรู่ อุณหภูมิลดต่ำลง 0 องศา ส่งผลให้เกิดน้ำค้างกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง หรือแม่คะนิ้ง เกาะตามต้นไม้ใบหญ้า ในขณะที่สภาพอากาศหนาวเย็นจัด

ส่วนที่ภูทับเบิก มีรายงานเช่นกันว่า เมื่อช่วงเช้ามืดอุณหภูมิลดลงฮวบฮาบแตะ 1 องศา ส่งผลให้ราษฎรชาวม้งในพื้นที่ต้องก่อกองไฟผิงเพื่อคลายหนาว ส่วนที่ อ.เขาค้อ อุณหภูมิลดลง สภาพอากาศหนาวเย็น ในขณะที่นักท่องเที่ยวพากันอกหักหลังไม่มีทะเลหมอกให้ชมเนื่องเพราะมีลมแรง นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมามีการเปิดเทศกาลท่องเที่ยวฤดูหนาว “อบหมอก กอดหนาว ดูดาวที่เขาค้อ” ประจำปี 2566 ขึ้นที่บริเวณจุดชมวิวเขาค้อ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดบึงกาฬ อุณหภูมิลดลงอีกเช่นกัน โดยในช่วงเช้ามืดอุณหภูมิวัดได้ 11 องศาเซลเซียส บวกกับมีลมกระโชกแรงพัดมาจากฝั่ง สปป.ลาว ในช่วงสายพอเริ่มมีแสงแดดอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 13 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ใน 4 อำเภอของจังหวัดบึงกาฬ ได้แก่ อำเภอปากคาด, อำเภอเมืองบึงกาฬ, อำเภอบุ่งคล้า และอำเภอบึงโขงหลง มีอากาศหนาวเย็น กระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขงไม่สามารถออกเรือหาปลามาขายได้ เช่นเดียวกับชาวบ้านบึงโขงหลง ในพื้นที่อำเภอบึงโขงหลง ต้องจอดเรือ เนื่องจากกระแสลมแรงก่อระลอกคลื่นในน้ำสูง 10-30 เซนติเมตร ชาวประมงเกรงจะเกิดอันตราย จึงจอดเรือหางยาวหยุดออกหาปลา ทำให้ขาดรายได้ไปในช่วงนี้ ส่วนชาวบ้านบ้านบึงโขงหลง ม.12 ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง ที่อยู่ใกล้เขาภูลังกา ต้องรวมกลุ่มออกมาก่อไฟผิงเพื่อคลายความหนาวเย็น

ส่วนที่ ป่านันทนาการหินสามวาฬ  จังหวัดบึงกาฬ ศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู บ้านโนนทรายทอง หมู่ที่ 8 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ หรือที่รู้จักกันว่า “ภูสิงห์” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนชื่อดังของ จ.บึงกาฬ มีนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์แคมปิ้ง และทยอยขึ้นไปชมความสวยงามทางธรรมชาติ สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นบนหินสามวาฬ จุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น ผ่านทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงามของ จ.บึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่เหนือสุดแดนอีสานของประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าฤดูฝนปี 2567 จะมาช้ากว่าปกติ 2 สัปดาห์ ปริมาณฝนใกล้เคียงค่าเฉลี่ยปกติ

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดฤดูฝนปี 2567 จะเริ่มประมาณสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคม 2567 ช้ากว่าปกติ 2 สัปดาห์