ติดคุกแทนเทวดา เตือนราชทัณฑ์เอื้อพักโทษจบที่ศาลอาญาคดีทุจริต

"สว.สมชาย" เตือนราชทัณฑ์เขียนระเบียบเอื้อ “ทักษิณ” เข้าเกณฑ์พักโทษกรณีพิเศษอาจติดคุกแทน   หวั่นเกิดวิกฤตศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม แนะได้ลดโทษแล้วควรดำเนินการตามกระบวนการปกติ เชื่อสังคมรับได้หากครบ 6 เดือนแล้วพักโทษ ปธ.กมธ.ตำรวจจี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์แจงสังคมให้ชัดนับโทษ "ทักษิณ" แล้วหรือไม่หลังมีคลิปหลุดไม่เรียก "น.ช." ด้าน "วัชระ" อัด "ทวี"  ร้อนตัวให้ปลัดยุติธรรมตอบหนังสือแก้เกี้ยว ฟันธงจบที่ศาลอาญาทุจริต แกนนำคปท.กระตุกผู้ตรวจการฯ จะเป็นตราปั๊มอุ้มทักษิณหนีเรือนจำหากไม่ออกมาชี้แจง

ที่รัฐสภา วันที่ 18 มกราคม นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์กรณีกรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ว่านายทักษิณ ชินวัตร เข้าเกณฑ์พักโทษเป็นกรณีพิเศษ ว่ากรมราชทัณฑ์ต้องดูว่านักโทษเด็ดขาดผู้ใดที่มีความประพฤติดี มีการช่วยเหลือราชการเป็นพิเศษ นายทักษิณอยู่ในเกณฑ์หรือไม่  และมีการรับโทษมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 อย่างใดมากกว่ากัน จึงจะเข้าเกณฑ์ แต่สิ่งที่แถลงไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นการพักโทษพิเศษได้อย่างไร ซึ่งต้องยึด พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 เป็นตัวตั้งและระเบียบกระทรวง 2563 กับระเบียบที่ออกใหม่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้เกิดจากการให้ไปพักรักษาตัวที่บ้าน รวมถึงการพักโทษก่อน 6 เดือนทำไม่ได้ และระเบียบที่อ้างกันก็ไม่ได้มีเจตนารมณ์ให้กลับไปอยู่บ้าน แต่มีความพยายามอ้างเรื่องการพักอยู่ที่บ้าน สิ่งสำคัญคือบ้านที่ไปพักต้องมีลักษณะเป็นเรือนจำหรือไม่ หากมีลักษณะเป็นเรือนจำแล้วมีสภาพคุมขังได้หรือไม่ หากบ้านมีสภาพคุมขังได้ก็หมายความว่านักโทษคนอื่นต้องไปพักได้ด้วย ไม่ใช่บ้านของใครคนใดคนหนึ่ง

 “ผมยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ที่พยายามอธิบายสังคมว่าพักโทษเป็นกรณีพิเศษ และคุณทักษิณจะเข้าข่ายเช่นนั้นหรือไม่ คิดว่าเมื่อคุณทักษิณได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิด ขอรับโทษ และศาลตัดสินต้องจำคุก 8 ปีแล้ว แต่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี ก็ควรดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ โดยไม่ขอรับพระราชทานลดโทษเพิ่มเติมอีก การจะพยายามทำอะไรของฝ่ายการเมือง ฝ่ายกรมราชทัณฑ์  ก็ขอให้ยึดหลักกฎหมายให้ดี เพราะท่านเป็นกระบวนการยุติธรรมท้ายน้ำ อย่าทำให้เกิดวิกฤตศรัทธา ขอย้ำว่าเมื่อศาลพิพากษาลงโทษแล้ว และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแล้ว ก็ควรเดินตามกระบวนการที่ถูกต้อง" นายสมชายกล่าว

เมื่อถามว่า หากตัดเรื่องระเบียบใหม่ออกไป และนายทักษิณใช้กระบวนการรับโทษ 1 ใน 3 แล้วสามารถขอพักโทษได้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ได้ ต้อง 6 เดือนหรือ 1 ใน 3 อย่างใดมากกว่ากัน ไม่ใช่อย่างใดน้อยกว่ากัน คือ 1 ใน 3 ของ 1 ปีคือ 4 เดือน ก็ต้อง 6 เดือน ฉะนั้น วันที่ 22 ก.พ.นี้จึงจะครบ 6 เดือน นั่นคือเกณฑ์ปกติ และการที่ฝ่ายการเมืองแถลงพักโทษพิเศษนั้น ตนมีข้อสงสัยว่ากำลังจะดำเนินการในบางเรื่องหรือไม่ ฉะนั้นต้องคิดให้ดี

เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงมีการดำเนินการพิเศษมากกว่าที่จะรอถึงวันที่ 22 ก.พ. นี้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ถูกต้อง เกณฑ์ปกติคือต้องเดินตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ทำให้เขารีบแถลงออกมา นี่เป็นข้อสงสัยที่ต้องมีการตรวจสอบต่อ ดังนั้นหากรอให้ถึงวันที่ 22 ก.พ. แล้วขอพักโทษข้อครหาก็อาจจะน้อยกว่านี้ เพราะนายทักษิณเข้าเรือนจำเวลา 12.00 น.ของวันที่กลับมาไทย แล้วเวลา 00.30 น.ก็ไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจ หากป่วยมากน้อยแค่ไหนก็ควรบอกสังคม แต่ก็ไม่มีความชัดเจน จึงมีข้อครหาของสังคมหรือความเคลือบแคลงว่าตกลงแล้วนายทักษิณไม่ได้เข้าสู่กระบวนการหรือไม่ แต่ตนยืนยันว่านายทักษิณเข้าสู่กระบวนการแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เข้าเรือนจำ

 “สิ่งที่ดีคือหากนายทักษิณรักษาหายแล้วก็เข้าสู่ระบบ คือการพักฟื้นที่ รพ.ราชทัณฑ์ และรอครบเวลาตามกฎหมาย ผมคิดว่าสังคมรับได้ถ้าครบ 6 เดือน แต่หากไปตั้งเกณฑ์พิเศษขึ้นมาอีกแล้วมีการปล่อยตัว ผมไม่แน่ใจว่าอาจเกิดวิกฤตศรัทธาของกระบวนการยุติธรรมไทยมากขึ้นหรือไม่ จึงฝากเตือนว่า อย่าพยายามเขียนระเบียบอะไรที่ไปทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบือน"

เมื่อถามว่า หากใช้กฎหมายผิดวัตถุประสงค์สามารถนำไปร้องเรียนกับหน่วยงานใด เพื่อให้มีการตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้ได้บ้างหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า กมธ.มีการตรวจสอบและบันทึกไว้แล้ว รวมถึงมีคนไปร้องกับหน่วยงานต่างๆ มากมาย หากเดินไปตามปกติก็ไม่มีอะไร และอยากเห็นกระบวนการเดินตรงไปตรงมา

มีคนติดคุกแทน

เมื่อถามต่อว่า น่าห่วงผู้ที่ดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ก็มีคนติดคุกแทน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงกรณีนี้ติดคุกแทนนายทักษิณ นายสมชายกล่าวว่า หากทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากวันนี้สังคมตั้งคำถามเยอะ ถามว่านักโทษที่ป่วยจากเรือนจำต่างจังหวัดไปอยู่โรงพยาบาลกี่วัน อย่างมากก็ไปเช้าเย็นกลับ หากผ่าตัดอย่างมากก็หนึ่งคืน และข้อชี้แจงของกรมราชทัณฑ์ระบุว่ามีนักโทษที่พักอยู่โรงพยาบาลตลอด 1 ปี 2 เดือน มีจำนวนเกิน 3,000 คน เกิน 30 วันมีแค่ 100 คน เกิน 60 วันมีแค่ 33 คน และเกิน 120 วันมี 3 คน โดยใน 3 คนนี้ 2 คน ป่วยโรคจิตอยู่โรงพยาบาลกว่า 500 วัน กับกว่า 200 วัน

 “ส่วนคนสุดท้ายก็ทราบกันอยู่ ท่านอาจจะป่วยก็ได้ แต่เราไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร หากกรมราชทัณฑ์บอกให้กลับ และกลับบอกว่าแพทย์ไม่ยอมให้กลับ ถามคำเดียวคือนักโทษทั่วไปได้รับสิทธิ์เช่นนั้นหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ได้รับสิทธิ์เช่นนั้น เพราะนักโทษทั่วไปต้องมีการประสานกันระหว่างกรมราชทัณฑ์กับผู้บัญชาการเรือนจำ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทุกแห่ง ในการที่จะนำนักโทษออกไป ต้องมีผู้คุม มีโซ่ตรวน เมื่อไปรักษาเสร็จก็รีบนำกลับ ไม่เช่นนั้นจะเกิดการหนีเหมือนแป้ง นาโหนด วันนี้กระบวนการยุติธรรมที่เกิดคำถามขึ้นคือ ไม่ได้มีความเสมอภาคหรือเท่าเทียมกันจริง มีการละเว้นการปฏิบัติ ถามว่าวันหนึ่งใครจะถูกดำเนินคดี ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ไปทำให้เกิดปัญหา" นายสมชายกล่าว

ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร เข้าข่ายคุณสมบัติได้รับการพักโทษพิเศษว่า เรื่องของนายทักษิณ ทาง กมธ.ต้องรอหนังสือจากกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดที่ทำส่งไปเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2566 ถ้าภายในเดือนนี้ไม่ตอบกลับมา ก็ต้องส่งหนังสือติดตามไปอีกครั้ง แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า กมธ.ก็ทำได้ภายใต้กรอบกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ภาคประชาชนก็ยื่นองค์กรอิสระ โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคลิปออกมา 1 คลิป กรมราชทัณฑ์ยอมรับว่าที่ไม่เรียกนายทักษิณว่า น.ช. เนื่องจากไม่ได้โดนคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และยังไม่ได้นับโทษเลย เพราะฉะนั้นหากตีความแบบนี้ นายทักษิณได้รับโทษแล้วหรือไม่ ซึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ต้องชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจน

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะต้องชี้แจงให้สังคมคลายข้อสงสัยให้ได้ ทั้งระเบียบเรื่องพักโทษ เรื่องค่ารักษาที่บอกว่าหากเกินสิทธิ์จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แล้วใช้เงินส่วนตัวได้ ซึ่งต้องตอบให้ชัดเจนหากเกินสิทธิ์ สปสช. แล้วผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยสามารถเบิกเงินส่วนตัวได้ทุกคน รพ.ตำรวจคืนละเป็นหมื่นบาท ผมยืนยันว่าจะเป็นคนหนึ่งที่จะบอกประชาชนคนทั้งประเทศว่าหากนักโทษคนไหนป่วยแล้วเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล อยู่ห้องพิเศษได้หมด นี่คือการแสดงให้เห็นว่าเป็นสังคม 2 มาตรฐาน" นายชัยชนะกล่าว

จบที่ศาลอาญาทุจริต

ส่วนที่เป็นการพักโทษพิเศษนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ระเบียบการพักโทษมีมานานแล้ว แต่การคุมขังนอกเรือนจำเพิ่งมีการประกาศออกมา เพราะระเบียบคุมขังนอกเรือนจำทำตั้งแต่ปี 2563 หากจะมองว่าเอื้อก็ไม่แฟร์ จึงมองเป็นกลาง ตอนนี้อย่าไปมองเรื่องระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ แต่ต้องมองว่าสิ่งที่กระทำอยู่ตอนนี้ เป็นการกระทำ 2 มาตรฐานหรือไม่

เมื่อถามว่า เรื่องนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่า 2 มาตรฐาน จะมีใครผิดบ้าง ถึงขั้นติดคุกเลยหรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า หากอธิบดีกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ดำเนินการทั้งหมด ทำหนังสือชี้แจงมาไม่ได้ ไม่มีข้อเท็จจริงและระเบียบรองรับ อย่าลืมว่าวันนี้ภาคประชาชนก็ยื่นไปที่องค์กรอิสระ ถ้าเมื่อไหร่ที่องค์กรอิสระคุ้มครองแล้วขอดูภาพวงจรปิดตอนเข้า-ตอนออก และตอนดำเนินการ หากพบว่ามีการกระทำผิดขั้นตอนเรื่องนี้จะเป็นปัญหาแน่นอน

นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้ยื่นหนังสือถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2567 ให้ดำเนินการไต่สวนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองกับพวก มีพฤติการณ์หรือการกระทำปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือทุจริตเอื้อประโยชน์กับ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร และผิดประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง ล่าสุดตนได้รับหนังสือจากกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2567 ที่ ยธ 02019/485 ความว่า ผู้ร้องได้มีหนังสือเรียน รมว.ยุติธรรม จึงได้ส่งเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

นายวัชระกล่าวต่อว่า หนังสือฉบับนี้ ตนได้ยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  ในฐานะ รมว.ยุติธรรม 5 ข้อ แต่ปรากฏว่านายทวีไม่ตั้งคณะกรรมการสอบข้าราชการกรมราชทัณฑ์ตามที่ร้องเรียนแต่อย่างใด หนังสือที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมตอบมานั้นไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่มีธรรมาภิบาล  ไม่ตรงไปตรงมา เพราะคำถามที่ตนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญถาม รมว.ยุติธรรมนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี และยิ่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการเป็นอำนาจของกระทรวงโดยตรง  การส่งไปเรื่องไปให้กรมราชทัณฑ์จึงมิใช่เป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้ร้อง  นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงควรทบทวนในเรื่องนี้ ต้องเป็นข้าราชการมืออาชีพ อย่าตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่มามีอำนาจชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

"รมว.ยุติธรรมไม่ต้องให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมตอบหนังสือผมแก้เกี้ยว  เพราะประชาชนคาใจกันทั้งประเทศ ว่าทำไมนักสร้างสันติภาพของท่านถึงไม่ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว ป่วยทิพย์? เอื้อประโยชน์กันหรือไม่ แต่ควรเตรียมเอกสารไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.ในอนาคตจะดีกว่า ทั้งข้อกฎหมายและจริยธรรมร้ายแรง และเรื่องนี้ต้องจบที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ไม่ใช่จบที่กรมราชทัณฑ์อย่างแน่นอน" นายวัชระกล่าว

จี้ผู้ตรวจการฯ ชี้แจง

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ราชทัณฑ์แถลงเองเออเองว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีตัวแทนขึ้นไปตรวจสอบและได้พบนายทักษิณ ทั้งๆ ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่เคยแถลงว่าเคยพบนายทักษิณ มีแต่ขึ้นไปถ่ายรูปชั้น 14 และคำอ้างว่าข้อมูลด้านสุขภาพถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ป่วยมิได้อนุญาตให้เปิดเผย ที่น่าตลกมากราชทัณฑ์เหมือนจะรู้ใจนักโทษรายนี้ จึงแถลงว่าบทบาททางการเมืองในระหว่างการพักโทษ สามารถกระทำได้ หากไม่เป็นการฝ่าฝืนหรือไปทำอะไรที่ผิดระเบียบ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อาการยังป่วยหนักยังไม่ได้กลับเรือนจำ

"ทางที่ดีราชทัณฑ์ไม่ต้องเสียเวลา สร้างเรื่องให้ประชาชนนินทา อยากจะทำอะไรก็เชิญตามสบาย น่าจะประกาศให้นักโทษกลับบ้านไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาแถลงแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป" นพ.วรงค์กล่าว

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ละครปาหี่ ผู้ร้ายจะกลายเป็นพระเอก ทักษิณ ชินวัตร เข้าข่ายพักโทษกรณีพิเศษ           ทักษิณป่วยหนักเรื่องอะไร ถ้าเจาะไหล่อาการไหล่ติดได้ ก็แสดงว่าไม่มีอาการป่วยวิกฤตอันใดแล้ว คือถ้าคุณเป็นโรคหัวใจตามใบรับรองแพทย์จากนอกประเทศ แล้วอาการวิกฤตจากโรคนี้ ทางการแพทย์เขาจะไม่เจาะไหล่ให้เด็ดขาด ต้องรักษาโรคเดิมให้หายจากวิกฤตเสียก่อนค่อยมาเจาะไหล่ การเจาะไหล่ได้จึงไม่วิกฤต การจะพักโทษโดยไม่เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว มันจึงเป็นการเอากระบวนการยุติธรรมมาฟอกขาวความผิดคดีคอร์รัปชันให้ทักษิณ ศาลสั่งให้ติดคุกระเบียบพาไม่ให้ติดคุก เหมือนเขียนด้วยมือลบด้วยฝ่าเท้า ฟอกความผิดด้วยการพาออกจากคุกแบบไร้ตำหนิ

"คำถามก็คือ แล้วทักษิณติดคุกจากคดีทุจริตคอร์รัปชันตามที่ตัวเองรับผิดไหม     กรมราชทัณฑ์กำลังตีความยุติธรรมคือ ทักษิณ ชินวัตร การที่อ้างว่ามีผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าไปตรวจเยี่ยมทักษิณ ผู้ตรวจการแผ่นดินคณะไหนที่เข้าตรวจ ต้องรีบออกมาชี้แจงสังคมโดยเร่งด่วน กรมราชทัณฑ์โยนภาระให้ท่านแล้ว ไม่งั้นท่านจะเป็นแค่ตราปั๊มในขบวนการละครปาหี่อุ้มทักษิณหนีเรือนจำอีกองค์กร" นายพิชิต  ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง