ธรรมนัสปูดเกลือเป็นหนอน

สะพัด! ไฟไหม้ ก.เกษตรฯ  ห้องโซนเสียหายส่อโยงหน่วยงานกำลังถูกตรวจสอบ "ผบช.สพฐ." ลงพื้นที่ระบุต้นเพลิงอยู่ห้องครัว ล็อกประตูไว้ใครก็เข้าไม่ได้ รอ จนท.วิเคราะห์ว่าจะมีสารไวไฟหรือไม่ "ไชยา" ยันห้องไฟไหม้ไม่มีเอกสารสำคัญอย่าโยงการเมือง ท้าดูวงจรปิด "เจ๋ง-ศรี" ไม่เคยมาพบ ปัดเอี่ยวกรมการข้าว ลั่นเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ใครทำอะไรไม่ได้ "ธรรมนัส" ให้รอ 1-2 วันรู้สาเหตุ  แย้มมีข้อมูลเยอะเรื่องเกลือเป็นหนอน    "เศรษฐา" ให้รอกองพิสูจน์หลักฐาน "เสธ.หิมาลัย" ชี้คดี “เจ๋ง” เป็นเรื่องส่วนตัวต้องไปพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์  ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร  กรุงเทพฯ หลังกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในกระทรวงเกษตรฯ เมื่อเวลา 19.00 น. เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและตำรวจ สน.นางเลิ้งได้เข้ามายังจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน และตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยทางขึ้นฝั่งอาคารปีกซ้าย เจ้าหน้าที่ได้นำโปลิสไลน์ และแผงเหล็กมากั้น ไม่อนุญาตให้ใครขึ้นประตูฝั่งใกล้ที่เกิดเหตุเด็ดขาด

ทั้งนี้ มีรายงานว่าห้องโซนที่ถูกเพลิงไหม้อาจมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ เนื่องจากถูกแก๊งของนายศรีสุวรรณ จรรยา และพวกตบทรัพย์ โดยตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาจมีเอกสารหรือพยานหลักฐานอื่นที่ไปเชื่อมโยงบุคคลในแก๊งตบทรัพย์ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับกรมการข้าว มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ มีท่าทีชี้ไม้ชี้มือ พูดในลักษณะไม่พอใจ ในช่วงประเด็นที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก เดินทางเข้ามาที่กระทรวงเกษตรฯ แต่ไม่เข้ามาไหว้เจ้าที่ไหว้เจ้ากระทรวง แต่กลับเดินไปยังห้องของบุคคลท่านหนึ่งเป็นประจำ และยังชี้ไปทางฝั่งซ้ายของตึกซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เกิดเพลิงไหม้ และวันที่ ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ตรงกับวันศุกร์ จากนั้นก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ในช่วงค่ำของวันต่อมา คือวันเสาร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วารี อัตวุศมางกุร ผบก.พฐก. พร้อมทีมตรวจสถานที่เกิดเหตุ (CSI)  พฐก.นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนักเคมี-ฟิสิกส์  พ.ต.ท.สำเนียง โสธร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง พ.ต.ต.นรินทร์ เฟื่องศรี สว.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ก่อนเข้าประชุมกรณีเหตุเพลิงไหม้ โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

พล.ต.ต.ไตรรงค์กล่าวว่า เบื้องต้นนำเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเคมีและฟิสิกส์เข้าเก็บพยานหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงสอบปากคำแม่บ้านและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นกลุ่มควันเป็นกลุ่มแรก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปดับไฟ เพื่อหาแหล่งต้นเพลิง ซึ่งให้การตรงกันว่าห้องต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณห้องครัว หรือห้องเตรียมอาหาร โดยจุดที่เพลิงไหม้หนักที่สุดคือเฟอร์นิเจอร์ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด และสายไฟฟ้าหลอมละลายมากที่สุดอยู่บริเวณมุมห้องครัวที่ติดกับระเบียงใกล้หน้าต่าง ซึ่งอากาศที่เข้ามาทางหน้าต่างทำให้เพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว และมีเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทตู้เย็นและไมโครเวฟ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากอุปกรณ์ใดหรือไม่

ส่วนจะมีร่องรอยหรือองค์ประกอบของตัวเร่งหรือสารไวไฟเช่นน้ำมันหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า ต้องรอเจ้าหน้าที่เก็บพยานหลักฐานไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ก่อน คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะจึงจะทราบผลตรวจแม่บ้านยืนยันว่าไม่มีใครเข้าไปในห้องดังกล่าว เนื่องจากวันเกิดเหตุนัดช่างเข้ามาฉีดปลวก แต่เนื่องจากช่างมาสาย ทำให้เจ้าหน้าที่ล็อกห้องและกลับไปก่อน ขณะเกิดเหตุห้องดังกล่าวถูกล็อกไว้ ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้

ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่าห้องที่ถูกเพลิงไหม้มีการเก็บเอกสารสำคัญด้วยนั้น ผบช.สพฐ.กล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน ขณะที่เรื่องกล้องวงจรปิด พล.ต.ท.ไตรรงค์ระบุว่า อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน

'ไชยา'ยันไม่มีเอกสารสำคัญ

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่หน้ากระทรวงเกษตรฯ นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาติดตามกรณีเหตุเพลิงไหม้ พร้อมเปิดเผยว่า เพิ่งทราบข่าว และเพิ่งลงเครื่องมาจากต่างจังหวัด ตนจะเข้าไปดูห้องที่เกิดความเสียหาย แต่ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่อนุญาตให้เข้า แต่จากที่ได้รับรายงานความเสียหายเกิดขึ้นที่ห้องครัว และลามไปห้องคณะทำงานและห้องประชุม เสียหายเยอะที่สุดคือห้องครัว ตนยืนว่าไม่มีเอกสารสำคัญใดๆ ตามที่มีข่าวลือว่าทำลายหลักฐานนั้นไม่เป็นความจริงไม่อยากให้ไปเชื่อมโยงประเด็นการเมืองด้วย

"ห้องดังกล่าวไม่มีเอกสารสำคัญใด ยิ่งยุคปัจจุบันเอกสารสำคัญไปอยู่ในคลาวด์ หรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หมดแล้ว แม้เอกสารเรื่องสืบสวนสอบสวนที่ได้รับคำตอบแล้ว ผมเก็บสำนวนไว้ทั้งหมด ไม่เคยเก็บไว้ที่ทำงาน ถ้าอ้างว่าเป็นเผาทำลายหลักฐานก็ไร้ประโยชน์ แต่มีเพียงเอกสารการไปเปิดงานแบบรูทีนธรรมดา"

ส่วนกรณีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเพลิงไหม้ในครั้งนี้อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของนายเจ๋ง ดอกจิก และนายศรีสุวรรณ จรรยา เป็นการเผาทำลายหลักฐานหรือไม่ นายไชยากล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากตนไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกรมการข้าว จึงไม่อยากให้นำไปโยงเกี่ยวกับการเมือง ยืนยันว่าเจ๋งและนายศรีสุวรรณไม่เคยมาพบตน สามารถตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดได้ ส่วนประเด็นที่นายศรีสุวรรณมายื่นร้องให้ตรวจสอบให้ตรวจสอบ TOR ในการจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวง 2 ลำว่ามีการล็อกสเปกเครื่องยนต์ ในทางปฏิบัติตนได้รับการมอบหมายให้กำกับดูแลในส่วนบริหารและนโยบาย ไม่มีอำนาจในการอนุมัติงบประมาณ

"ตั้งแต่มาทำงานในช่วงระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา มีการปราบปรามหมู เนื้อ และตีนไก่เถื่อน ผมก็พอจะรู้มาบ้างว่าจะต้องเจอกับอะไร แต่ผมเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ใครก็ทำอะไรผมไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว และหากข้าราชการคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดที่เกิดขึ้น ก็จะต้องดำเนินคดี ไม่มีข้อยกเว้น" นายไชยากล่าว

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากที่ตนได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้  เบื้องต้นเข้าใจว่าเป็นเรื่องของคอยล์ร้อนมีปัญหา ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ระเบิด ทำให้ไฟไหม้ตรงบริเวณห้องใกล้ห้องทำงานทีมงานของนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ ตอนนี้โครงสร้างไม่เสียหาย เสียหายแค่วอลเปเปอร์ ม่าน และในห้องนั้นไม่ได้มีอะไร ยืนยันไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองแน่นอน

มื่อถามว่า เอกสารสำคัญเสียหายหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในส่วนของห้องที่ปรึกษาน่าจะเสียหายหมด เมื่อถามย้ำว่าใช่การวางเพลิงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า สาเหตุที่แท้จริงคงต้องรอการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคาดว่าอีก 1-2 วันน่าจะรู้เหตุผลที่แท้จริง

ส่วนที่หลายคนกังวลเรื่องของเอกสารต่างๆ ที่มีการตรวจสอบแก๊งตบทรัพย์อยู่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง  อะไรก็ตามที่ร้องมา ตนใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน ก็เซ็นหนังสือถึงท่านปลัดให้ตรวจสอบ จากนั้นจะให้เจ้าหน้าที่แต่ละกรมชี้แจงข้อเท็จจริง ถ้าชี้แจงแล้วสมเหตุสมผล เราก็จำหน่ายไป แต่อะไรที่ชี้แจงแล้วไม่สมเหตุสมผล เราก็ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทุกเรื่อง ยืนยันเรื่องความโปร่งใสของกระทรวงเกษตรฯ ในยุคของตนไม่ต้องห่วง

เมื่อถามว่า วันศุกร์ตอนที่ให้สัมภาษณ์เรื่องนายเจ๋ง เหมือนจะชี้ไปทางทิศที่ไฟไหม้ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ได้หมายถึงใคร ไม่มีนัยสำคัญอะไร แต่ชี้ไปจุดนั้นเพราะเราเจอคนที่พูดถึงตรงนั้น

'ธรรมนัส' รู้ข้อมูลเกลือเป็นหนอน

 ถามว่ากระทรวงเกษตรฯ เกิดเรื่องตลอด จำเป็นจะต้องมีการทำบุญครั้งใหญ่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ที่จริงแล้วตนไหว้พญานาคราชทุกวันพุธ เพราะฉะนั้นตนเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง และศรัทธาในสิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่เคยลบหลู่ คิดว่าไม่จำเป็นต้องมีการทำบุญอะไร ตอนนี้คิดว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่ไม่เสียหายมากถึงโครงสร้างอาคาร แต่ความจริงแล้วกระทรวงเกษตรฯ เราก็มีแผนที่จะย้ายที่ทำการอยู่แล้ว เพราะตึกมันเก่าเกินไป ประกอบกับถนนราชดำเนินเป็นถนนที่สวยงาม ไม่ควรจะมีการชุมนุมหน้ากระทรวง

"ผมเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 จปร.36 เพื่อนผมเป็นระดับแกนนำของหน่วยงาน มีความจำเป็นจะต้องขอตัวบุคคลสำคัญในแต่ละหน่วยงานแต่ละกองทัพมาช่วยงานในกระทรวง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นนักสืบสวนสอบสวน ดังนั้นยืนยันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่มีอะไรรอดสายตาผมได้ การข่าวเราจะรู้มาโดยตลอด ใครคิดจะทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายในกระทรวง ตอนนี้เราก็พอมีข้อมูลอะไรเยอะพอสมควร เรื่องเกลือเป็นหนอน บอกแล้วว่าผมมีหูมีตาเยอะ ทุกกรมมีคนของผมหมด อย่าลืมว่าผมเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงนี้มาก่อน เท่ากับว่าอยู่ที่นี่มาหลายปี ดังนั้นผู้ที่อยู่ในยุคผม เขาก็จะมารายงานผลตลอด และให้สังเกตได้เลยว่ากรมที่ผมกำกับดูแล มันไม่มีปัญหา แต่เป็นของกรมอื่นที่เราต้องเข้าไปช่วยกันทำงาน และผมได้ย้ำรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 ท่านไปแล้ว" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไฟไหม้ที่กระทรวงเกษตรฯ ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสกรณ์ ได้โทรศัพท์มารายงานว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของการไปล้างแอร์ ไม่ได้มีอะไรเสียหายมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเมืองตามที่มีการวิเคราะห์กันใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็ไม่อยากจะคิดเช่นนั้น ขอให้มีการพิสูจน์ ให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปดูให้ดีก่อนดีกว่าว่ามีอะไรหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นไม่น่ามีอะไร  ยืนยันว่าเบื้องต้นไม่มีอะไรน่าสงสัย

นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กกรณีของ "เจ๋ง ดอกจิก" โดนกล่าวหาว่าพัวพันกับขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมข้าว โดยระบุว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเจ๋งล้วนๆ และคุณเจ๋งจะต้องไปตอบสังคมและต่อสู้คดีเอาเอง โดยคุณเจ๋งเข้าร่วมงานกับพรรค รทสช. ตามโครงการสมานฉันท์ของ รทสช.ที่ต้องการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ เรียกว่าเป็นการสลายสีเสื้อ ก้าวข้ามความขัดแย้ง การร่วมงานตามอุดมการณ์ของพรรค ทุกคนจึงมีอิสระในการทำงานตามแนวทางของตัวเอง แต่ที่นี่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ให้แสวงหา การบริหารพรรคโดยท่านหัวหน้าพรรค นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และท่านเลขาธิการพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

จุดแข็งเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตของพรรค ในบางครั้งอาจกลายเป็นจุดอ่อน หากผู้เข้ามาร่วมงานการเมืองของพรรค ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือลาภอันมิควรได้ บุคคลเหล่านี้จึงอาจจะต้องไปหาหนทางจากที่อื่น ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของพรรค พรรคการเมืองจึงเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน มาช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติตามนโยบายและแนวทางของพรรคนั้นๆ ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาลที่จะมานั่งคอยอบรมสั่งสอนควบคุมความประพฤติของสมาชิกและผู้ร่วมงาน แต่ละท่านที่มาร่วมอุดมการณ์ย่อมต้องระวังตัว  ควบคุมจิตใจตัวเองให้ยึดมั่นและมั่นคงในอุดมการณ์ แม้จะต้องอยู่อย่างยากลำบาก อดมื้อกินมื้อ แต่นั่นคือเกียรติยศทางการเมืองของแต่ละท่าน

"เรื่องที่เกิดขึ้น จึงเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่จะเข้าสู่ถนนการเมืองได้พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ ส่วนคุณเจ๋ง ดอกจิกนั้น คงต้องเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ที่จะต้องไปพิสูจน์ตัวเองตามวิถีทางของกระบวนการยุติธรรมและบริบทของสังคมต่อไป" นายหิมาลัยระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง