ลุ้น!สธ.แจงฉากทัศน์โอมิครอน

ไทยติดเชื้อใหม่ 2,532 ราย ดับ​เพิ่ม 22​ คน โอมิครอนโผล่อีกหลายจังหวัด! เชียงใหม่เจอ 2 รายนักท่องเที่ยวเยอรมัน-อังกฤษ จ.เลยอีก 2 คน ผัวเมียกลับจากฝรั่งเศส ส่วนคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ลามเพิ่ม 38 ราย พุ่งรวม 66 คน นายกฯย้ำโควิดทุกสายพันธุ์ป้องกันได้ วอนทุกคนเคร่งครัดมาตรการ สธ.นัดแถลง 3 ฉากทัศน์รับมือโอมิครอนระบาดหลังปีใหม่ กรมศาสนาเปลี่ยนจัดสวดมนต์ข้ามปีออนไลน์ทั้งหมด

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,532 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 2,449 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 2,412 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 37 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 23 ราย จากต่างประเทศ 60 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 3,771 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 35,862 ราย อาการหนัก 813 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 206 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 22 ราย เป็นชาย 11 ราย หญิง 11 ราย เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 15 ราย มีโรคเรื้อรัง 7 ราย เสียชีวิตมากที่สุด ที่ จ.นครศรีธรรมราช 3 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งตั้งปี 2563 ทั้งสิ้น 2,209,970 ราย หายป่วยสะสม 2,152,528 ราย เสียชีวิตสะสม 21,580 ทั้งนี้ ยอดผู้ฉีดวัคซีนในประเทศเพิ่มเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 389,218 โดส ทำให้มียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งสิ้น 102,561,331 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 279,830,073 ราย เสียชีวิตสะสม 5,413,120 คน

ขณะที่จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 414 ราย, ชลบุรี 179 ราย, นครศรีธรรมราช 144 ราย, สมุทรปราการ 79 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 73 ราย, เชียงใหม่ 66 ราย, สุราษฎร์ธานี 60 ราย, กาฬสินธุ์ 55 ราย, ตรัง 54 ราย, ปทุมธานี 51 ราย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับไปถึงทุกส่วนราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และขอความร่วมมือส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบล ที่ให้บริการประชาชน ยกระดับการดูแลสถานที่ตามข้อกำหนดของ ศบค. จัดสรรจำนวนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามภารกิจ ลดความเสี่ยงของบุคลากรในการแพร่/รับเชื้อไวรัส โดยให้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในงานบริการ ลดการสัมผัสระหว่างบุคคล ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขทั้งในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการด้วย

“นายกฯ ยังฝากเตือนว่า สงครามโรคยังไม่สิ้นสุด จึงขอทุกฝ่ายถือเป็นวาระแห่งชาติในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและมาตรการสาธารณสุข เพราะไวรัสโควิด-19 สามารถป้องกันได้ หากทุกคนร่วมมือ ร่วมใจ รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม” โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ

เปิดฉากทัศน์รับมือโอมิครอน

ทางด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในไทยว่า ช่วงเช้าวันที่ 27 ธ.ค. ในการประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุข จะมีการหารือถึงประเด็นต่างๆ รวมถึงมาตรการรับมือโควิด-19 และช่วงบ่ายจะมีการแถลงข่าวอัปเดตฉากทัศน์ของการระบาดโควิด-19 หลังปีใหม่ ซึ่งจะเป็นการคาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อเทียบกับการปฏิบัติตามมาตรการที่แตกต่างกันออกไป มีทั้ง 1.สถานการณ์แย่ที่สุด 2.ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ และ 3.ฉากทัศน์ที่ดีที่สุด เพื่อดูต้องทำอะไรบ้าง

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมวิทย์กำลังรวบรวมข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสของสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งจะอัปเดตตัวเลขผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนและคลัสเตอร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 27 ธ.ค. พร้อมกับการแถลงฉากทัศน์ ทั้งนี้ ย้ำว่าสถานการณ์ล่าสุดข้อมูลจากประเทศอังกฤษที่ติดโอมิครอนเป็นแสนคน แต่อัตราเสียชีวิตไม่มาก ข้อสรุปเบื้องต้นคือแพร่เร็วแน่นอน ส่วนคนที่เคยติดเชื้ออื่นหรือได้รับวัคซีนป้องกันมาแล้วก็แพร่ได้ แต่วัคซีนช่วยไม่ให้อาการรุนแรงได้

นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ในช่วงปีใหม่ประชาชนเดินทางกันมากขึ้น มีการเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้น ดังนั้น คำแนะนำที่สำคัญคือ การคัดกรองตัวเองด้วยชุดตรวจ ATK สร้างความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง แต่ก็มีข้อจำกัดในตัวเอง หากตรวจไม่ถูกวิธี ตรวจในวันแรกเชื้ออาจน้อย อาจจะหาไม่เจอ ยังต้องระวัง และสิ่งสำคัญ คือการเก็บตัวอย่างตรวจ ต้องปั่นให้ถูกวิธี ปั่นจมูกข้างละ 5 รอบ ให้ติดน้ำมูกที่อยู่ตรงเพดานจมูก และการตรวจควรตรวจก่อนทำกิจกรรม และหลังทำกิจกรรมเสมอ หากมีความเสี่ยงควรตรวจทุกๆ 3 วัน

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังรับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้น สปสช.ขอทำความเข้าใจกับประชาชนอีกครั้งว่า ระบบดังกล่าวเป็นระบบการชดเชยความเสียหายเบื้องต้น ไม่ต้องถึงขนาดพิสูจน์ถูกผิดจนจบกระบวนการว่าเกิดจากวัคซีนหรือไม่ แต่เมื่อใดที่ไปฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการข้างเคียง หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต แต่แพทย์จะระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากเรื่องอื่น ถ้าสงสัยว่าจะเกี่ยวกับวัคซีน สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเข้ามาได้เลย ไม่ต้องรอผลการชันสูตรอะไร

นายเกรียงศักดิ์ บุญประสิทธิ์ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า จากที่ได้มีการประชุมหารือร่วมกับภาคคณะสงฆ์ วัด องค์กรเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการดำเนินการจัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่าวิถีใหม่ พุทธศักราช 2564 ต้อนรับศักราชใหม่ 2565” เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง กรมการศาสนาจึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการจัดกิจกรรมเป็นแบบออนไลน์ทั้งหมด โดยประชาชนจะยังสามารถเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีได้ผ่านทางสื่อและช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น ในส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร ร่วมสวดมนต์ข้ามปีไปพร้อมกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ผ่านทาง Facebook วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และ Facebook กรมการศาสนา ตั้งแต่เวลา 22.30 น.เป็นต้นไป หรือร่วมสวดมนต์ข้ามปีไปพร้อมกับวัดอรุณราชวราราม ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 HD ในเวลา 23.30-00.15 น. หรือรับชมออนไลน์ผ่านทาง Facebook กรมการศาสนา และยังสามารถร่วมรับชมพิธีตักบาตรรับอรุณวันใหม่ ต้อนรับศักราช 2565 ผ่านทาง Facebook Live กรมการศาสนาได้อีกด้วย

ศูนย์อำนวยการต้านโควิด-19 จ.กาฬสินธุ์ รายงานว่า พบมีผู้ป่วยรายใหม่ 57 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคลัสเตอร์เชื่อมโยงกับสองสามีภรรยากลับจากต่างประเทศ และตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ 38 ราย และคลัสเตอร์งานแสดงดนตรีหาดแสงจันทร์ อ.สหัสขันธ์ 12 ราย หลังผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับตลาดโรงสีไปร่วมงาน ส่วนที่เหลือพบในพื้นที่ อ.ยางตลาด อ.นามน และ อ.ท่าคันโท ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,510 ราย หายป่วยแล้ว 10,227 ราย กำลังรักษา 210 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 73 รายเท่าเดิม

นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 66 รายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสามีภรรยาที่กลับจากประเทศเบลเยียม 2 ราย และกลุ่มผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับร้านอาหารในตลาดโรงสีอีก 64 รายนั้น ผลการตรวจเบื้องต้นของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.ขอนแก่น พบว่าส่วนใหญ่เป็นเชื้อที่เข้ากับสายพันธุ์โอมิครอน จึงต้องส่งทั้งหมดตรวจยืนยันสายพันธุ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าเป็นเชื้อโอมิครอนหรือไม่ และอยู่ระหว่างการยืนยันอย่างเป็นทางการ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงตลาดโรงสีที่เพิ่งพบเพิ่ม 38 ราย และงานแสดงดนตรีอีก 12 รายนั้น อยู่ระหว่างการส่งตรวจสายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ จ.ขอนแก่น พร้อมกับเร่งสอบสวนโรคในกลุ่มเสี่ยงสูงของผู้ติดเชื้อโดยเร็วที่สุด

เลยโผล่อีก 2 กลับจากฝรั่งเศส

ขณะที่ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 8 เปิดเผยว่า คลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโอมิครอนที่พบในเขตสุขภาพที่ 8 นอกจากคลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสามีภรรยา จ.กาฬสินธุ์แล้ว ยังพบอีกครอบครัว เป็นชายชาวฝรั่งเศส ภรรยาชาว จ.เลย และลูกอายุ 2 ขวบ รวมเป็น 3 คน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2564 เดินทางถึงประเทศไทย ลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าโรงแรมกักตัวในกรุงเทพมหานคร ตรวจ RT-PCR วันที่ 17 ธ.ค. ผลตรวจเป็นลบ หลังจากนั้น ภรรยาจึงออกไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนประมาณ 10 คน ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งสามีและลูกรออยู่ที่โรงแรม ต่อมา 19 ธ.ค. ครอบครัวดังกล่าวเดินทางโดยเครื่องบินกลับบ้านที่ อ.เอราวัณ จ.เลย เพื่อไปเยี่ยมแม่ และวันที่ 22 ธ.ค. พ่อและพี่ชายเดินทางจาก อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู มาเยี่ยมที่บ้าน

จากนั้น 23 ธ.ค. ภรรยาทราบว่าเพื่อนที่ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันที่กรุงเทพฯ ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้น ตัวเอง สามี และลูก จึงไปตรวจหาเชื้อ วันที่ 24 ธ.ค. และผลออกมาว่าสามีกับภรรยาติดเชื้อโควิด-19 แต่ลูกผลตรวจเป็นลบ ขณะนี้กำลังกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ สำหรับสองสามีภรรยา ล่าสุดผลการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัส พบว่าเป็นเชื้อโอมิครอน อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันอีกครั้ง แต่ครอบครัวนี้ได้ขอย้ายตัวเองไปรักษาที่ รพ.เอกชน ใน จ.อุดรธานี โดยขณะนี้ สธ.กำลังตามผู้ร่วมเดินทางโดยเครื่องบินในแถวที่มีความเสี่ยงตามที่กำหนดให้ตรวจหาเชื้ออยู่ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากสามีภรรยา รวม 4 คน คือ ลูก แม่ที่อยู่บ้านด้วยกันที่ จ.เลย พ่อและพี่ชาย ที่เดินทางไปเยี่ยม ก็กำลังกักตัวเพื่อรอผลการตรวจครั้งแรก ส่วนจะบอกว่า เพื่อนที่กินข้าวด้วยกันติดมาจากรายดังกล่าวหรือไม่นั้น ต้องมาสอบสวนโรคอีกครั้ง แต่เบื้องต้นเพื่อนที่ติดเป็นสายพันธุ์โอมิครอนเช่นกัน

ส่วนคลัสเตอร์สถานปฏิบัติธรรม จ.บึงกาฬ พบติดเชื้อโควิดในกลุ่มพระสงฆ์เกือบ 100 รูป ซึ่งตอนแรกกังวลว่าจะเป็นโอมิครอน แต่ได้ส่งตรวจสายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 8 จ.อุดรธานี พบว่าทุกคนเป็นเชื้อเดลตา ทางทีมสอบสวนโรคได้แยกกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงแล้ว อยู่ระหว่างการรอตรวจเชื้อซ้ำ

ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 จังหวัดเชียงใหม่​ นายประจญ​ ปรัชญ์สกุล​ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายแพทย์วทัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และแพทย์หญิงเสาวนีย์​ วิบุลสันติ ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงตรวจพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19​ สายพันธุ์โอมิครอน​ 2 ราย และกำลังเร่งตรวจสอบควบคุมกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่พบผลเป็นบวกเพิ่มและได้กักตัวเฝ้าระวัง พร้อมประสานพื้นที่ใกล้เคียงที่ผู้ป่วยได้เดินทางไปเที่ยวแล้ว

นพ.วรัญญูเปิดเผยว่า วันที่ 25 ธ.ค. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งผลตรวจสายพันธุ์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาผ่านระบบการคัดกรองแบบ Test & Go จำนวน 2 ราย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าจะทราบผลยืนยันในอีก 2 วัน โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 22 ปี เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 17 ธ.ค. ผลตรวจ RT-PCR ในวันแรกไม่พบเชื้อ ผู้ติดเชื้อรายนี้อยู่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 17-20 ธ.ค. และได้เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 20 ธ.ค. ด้วยสายการบินไลออนแอร์ SL510 ก่อนจะเข้าพักในคอนโดฯ ที่จองไว้ย่านช้างคลาน และได้เดินทางไปเที่ยวในอำเภอแม่วางวันที่ 21 ธ.ค. เริ่มมีอาการผิดปกติ วันที่ 22 ธ.ค. จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน พบว่าติดเชื้อ จากผลการติดตามผู้สัมผัสของผู้ติดเชื้อรายแรกพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 18 ราย เสี่ยงต่ำ 7 ราย ขณะนี้ติดตามตัวได้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งผลตรวจรอบแรกเป็นลบ

ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 64 ปี เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันที่ 18 ธ.ค. ผลตรวจ RT-PCR ในวันแรกไม่พบเชื้อ เดินทางมาเชียงใหม่ วันที่ 19 ธ.ค. ด้วยสายการบินไทยสไมล์ WE110 และเข้าพักที่บ้านเช่าในอำเภอสันทราย ผู้ติดเชื้อรายนี้ได้ตรวจ ATK ด้วยตนเอง วันที่ 24 ธ.ค. พบผลบวก จึงเข้ารับการตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด ก่อนจะทราบผลติดเชื้อในเวลาต่อมา ขณะนี้รักษาตัวในโรงพยาบาลสันทราย จากผลการติดตามผู้สัมผัสของผู้ติดเชื้อพบผู้สัมผัส ได้แก่ เพื่อนที่ร่วมเดินทาง 3 ราย ตรวจแล้วผลเป็นลบ 2 ราย อีก 1 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ, ผู้สัมผัสในเที่ยวบิน WE110 ที่นั่งอยู่ 2 แถวหน้า-หลัง และแถวเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลจากสายการบิน และพนักงานขับรถแท็กซี่ 1 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง