ชงอายัดทรัพย์ ศรีสุวรรณ15ล. ทำให้เข็ดหลาบ

บก.ปปป.ชง ปปง.อายัดทรัพย์ “ศรีสุวรรณ”  กว่า 100 รายการ มูลค่ากว่า 15 ล้าน ฐานฟอกเงิน พบผู้เสียหาย 11 วง จ่ายเงินสำเร็จแล้ว 4-5 วง "บิ๊กเต่า” ลั่นดำเนินการทางคดี-ยึดทรัพย์ เพื่อหยุดวงจรอุบาทว์ให้พวกนักร้องเข็ดหลาบ ขณะที่ ผอ.กองพัฒนาฯ กรมการข้าว เข้าพบ ตร.ปปป. ยืนยันไม่ได้นำข้อมูลให้ขบวนการตบทรัพย์

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดเล็ก เพื่อพูดคุยและวางแนวทางการทำคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว โดยมี  พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เข้าร่วมการประชุมด้วย โดยการประชุมเพื่อพูดคุยถึงแนวทางการสืบสวนขยายผล รวมถึงการสืบทรัพย์สินเพื่อเตรียมเสนอ ปปง.อายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาตามความผิดมูลฐานการฟอกเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่า ทรัพย์สินหลายรายการได้มาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะของนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่พบว่ามีทรัพย์สินทั้งบ้าน 5-6 หลัง มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท โฉนดที่ดิน และของสะสม เช่น พระเครื่อง, งาช้าง,  เขาสัตว์, เฟอร์นิเจอร์, ครุฑ ฯลฯ ที่มีมูลค่านับร้อยรายการ

ส่วนการขยายผลไปยังผู้เสียหายวงอื่นๆ มีรายงานว่า  ขณะนี้มีกลุ่มผู้ต้องหาที่ไปเกี่ยวข้องกับผู้เสียหายทั้งหมด 11 วง และมีที่จ่ายเงินไปสำเร็จแล้ว 4-5 วง โดยจะต้องรอความชัดเจนว่าผู้เสียหายจะประสงค์แจ้งความหรือไม่ด้วย ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างประสานให้เข้ามาให้ข้อมูล ส่วนผู้เสียหายในวงที่ 2 ขณะนี้ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบคำให้การพยานเพิ่มเติมแล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า วันนี้นายโอวาท ยิ่งลาภ ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เคยออกมาให้ข้อมูลอ้างว่า เป็นคนนำข้อมูล ข้อสงสัยเกี่ยวกับการทุจริตของกรมการข้าวส่งต่อให้นายเอกลักษณ์ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลให้ขบวนการตบทรัพย์ จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับตนเอง และเป็นการพูดคุยแบบส่วนตัว ยังไม่ได้เป็นการสอบปากคำ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า มีข้อมูลว่ากระทรวงเกษตรฯ สั่งห้ามข้าราชการนำข้อมูลออกไปให้คนภายนอกนั้น ตนก็คงต้องพูดคุยก่อน เพราะเอกสารราชการไม่สามารถเอาออกไปเผยแพร่และให้ใครได้ หากนำออกมาก็ถือว่ามีความผิดเพราะเป็นความลับทางราชการ ขณะที่ นาย ก. ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ อีก 1 ราย และเจ้าหน้าที่คณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 สำนักนายกรัฐมนตรีหลายราย ซึ่งเป็นคดีทำงานชุดเดียวกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือการ์ตูน จะเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในวันที่ 13 ก.พ. โดยเจ้าหน้าที่จะตั้งประเด็นสอบแยกกลุ่มกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดี และตำรวจจะเรียกขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางราชการ เป็นเอกสารที่เกี่ยวกับรายละเอียดคำสั่ง และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่นำมาให้ครบถ้วน ตำรวจจะออกหมายเรียกเอกสารอีกครั้งหนึ่ง

"ส่วนประเด็นการอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา  ขณะนี้ตำรวจกำลังดำเนินการสืบทรัพย์สินไปพร้อมกับทำคดีในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าบุคคลพวกนี้ไปทำอะไรไม่ดีไว้บ้าง และเพื่อให้สังคมรู้ว่ามีวงจรอุบาทว์ โดยจะเร่งดำเนินการทุกเรื่องให้เร็วที่สุด ตอนนี้ได้รวบรวมหลักฐานเรื่องการเรียกรับเงินเพื่อต้องการให้นักร้องเข็ดหลาบ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มผู้ต้องหาเท่านั้น ทั้งนักร้องที่อยู่ในสภาฯ  นักร้องจากต่างจังหวัด ที่ใช้ประชาชนเป็นเหยื่อล่อ จะต้องจัดการให้หมด โดยเฉพาะพวกที่แสดงออกว่ารักชาติรักแผ่นดิน แต่กลับมีอะไรหลบไว้เยอะ"

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าเรื่องสำนวนคดี ในวงแรกกำลังเร่งทำสำนวน เพื่อให้เป็นแผนประทุษกรรมก่อนขยายไปยังวงอื่นๆ ที่มีมากกว่า 10 วง ซึ่งในวงที่ 2 อยู่ระหว่างการไปสอบพยาน และมีผู้ประสงค์จะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกวง และวงที่ 2-3-4 มีมูลค่าความเสียหายมากกว่าวงแรก ดูแล้วยังไม่เยอะพอประมาณ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ไล่ดูรายละเอียดเพิ่มเติมทีละเคสก่อน ส่วนคนใกล้ชิดนายศรีสุวรรณที่ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหานั้น ยังคงจะเดินทางมาตามนัดหมายเดิมคือวันที่ 15 ก.พ.นี้ ส่วนนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีข้อมูลเกี่ยวโยงกับการตบทรัพย์นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ อีสาน อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) จะเดินทางมาให้ข้อมูลในวันอังคารที่ 20 ก.พ.

ส่วนประเด็นคลิปเสียงภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ที่จ่ายเงินให้นายเอกลักษณ์ จำนวน 1 ล้าน 3 แสนบาท เกี่ยวข้องกับคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า เบื้องต้นได้สอบถามภรรยาอธิบดีกรมการข้าวนอกรอบ เป็นเพียงการหยิบยืมเงินเท่านั้น แต่จะให้ความช่วยเหลือเรื่องอะไรกันหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับการตบทรัพย์

ด้านนายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว เดินทางเข้าพบ ตร.บก.ปปป. พร้อมกับนำเอกสารหลักฐาน เช่น แชตข้อความในไลน์มามอบให้เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นพยานหลักฐาน ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ของอธิบดีกรมการข้าว

โดยนายโอวาทยอมรับว่า รู้จักกับนายเอกลักษณ์ วารีชน หรือเอก ปากน้ำ หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวจริง เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกัน และหลังเกิดเรื่องได้มีการพูดคุยกับนายเอกลักษณ์ ซึ่งนายเอกลักษณ์ ก็ยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้อง และยังรู้สึกกังวลกรณีมีการนำชื่อไปพาดพิงกับเรื่องดังกล่าว โดยที่ผ่านมาระหว่างมีข่าวว่านายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เอาเอกสารมาร้องและกล่าวว่าตนเป็นคนนำข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตภายในกรมการข้าวไปให้นายเอกลักษณ์นั้น ขณะนั้นตนอบรมอยู่ต่างประเทศ เมื่อกลับมาจึงรีบเข้ามาชี้แจง หลังจากนี้คงต้องระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น

ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ตนเป็นคนนำข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตภายในกรมการข้าวไปให้นายเอกลักษณ์นั้นไม่เป็นความจริง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมาย และหารือกับทีมทนายในการฟ้องดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะต่อไป เพราะเรื่ิองดังกล่าวทำให้ตนเสียหายอย่างมาก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง