‘ก้าวไกล’เหน็บ1ประเทศ2นายกฯ

ยังไม่ชัด 18 หรือ 22 ก.พ. "อิ๊งค์" เผยครอบครัวชินวัตรจะไปรับ "น.ช.ทักษิณ" ที่ รพ.ตำรวจ หลานๆ เขียนการ์ดรอปู่กลับบ้านแล้ว "ภูมิธรรม" แจง พักโทษตามกฎหมาย เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ เปิดทางรัฐบาลรับคำปรึกษาจากนักโทษคดีโกง "ชูศักดิ์" ลั่นไม่มีข้อห้ามให้ไม่ให้คนได้รับการพักโทษแสดงความเห็นทางการเมือง ก้าวไกลเหน็บ 1 ประเทศ 2 นายกฯ

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดา หลังได้รับการพักโทษตามที่มีกระแสข่าว จะได้รับการพักโทษในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ว่า ตอนนี้ให้หลานๆ เขียนการ์ด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางครอบครัวจะรอให้การต้อนรับที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเลยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า คิดว่าจะไปรับกัน ทุกคนน่าจะไปรับอยู่แล้ว ส่วนกำหนดการจะออกมาเวลาใด ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า นายทักษิณจะออกวันที่ 18 หรือ 22 กุมภาพันธ์ เนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาเป็นสองวันนี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตอบว่า ถ้าคุณหมอว่าอย่างไรก็เป็นตามนั้น

ถามย้ำว่า ถ้าคุณหมอไม่ต้องตรวจอาการต่อจะออกวันที่ 18 กุมภาพันธ์เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ค่ะ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ เมื่อจบแล้วเป็นเรื่องของครอบครัวดูแล จะออกมาเวลาไหน อย่างไร ให้เป็นเรื่องของครอบครัว ส่วนเราปฏิบัติหน้าที่ของเราไป โดยส่งกำลังใจและความปรารถนาดีให้กับนายทักษิณ ที่คงจะดีใจมากที่ได้กลับมาพบกับครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตว่า หากนายทักษิณออกมา อาจเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง ในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกันเลย นายทักษิณออกมาก็กลับไปใช้ชีวิตปกติในครอบครัวของท่าน ส่วนเรื่อง ครม.ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นกระแสข่าวมาเรื่อย แต่พวกเรายังไม่เคยได้ยินและทำงานด้วยกันได้อย่างดี

ซักว่าหากนายทักษิณกลับมาจะสามารถให้คำปรึกษารัฐบาลได้หรือไม่  รองนายกฯ ตอบว่า นายทักษิณเป็นคนที่มีประสบการณ์ เพราะฉะนั้นอาจเสนออะไรต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคม ต่อสาธารณะและส่วนต่างๆ ได้ทั้งหมด เราไม่ได้ไปปิดกั้น อย่าไปโฟกัสว่าท่านจะมาให้คำปรึกษา หรือกำหนดอะไรรัฐบาล ท่านสามารถเสนออะไรก็ได้ที่เห็นว่าไม่ดี  หรือเห็นว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ก็เสนอต่อสาธารณะได้

"ได้ประกาศเจตจำนงตอนที่เข้ามาในประเทศ ว่าอยากใช้บั้นปลายชีวิตอยู่กับครอบครัว เพราะจากไปเกือบ 20 ปี และเมื่อเข้ามาได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างที่ทุกกลุ่มเคยเรียกร้องให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม และวันนี้ก็กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ศาล และกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ต้องดำเนินการ เป็นไปตามกฎระเบียบ และวิถีปฏิบัติเช่นนี้มาตลอด ดังนั้น สิ่งที่นายทักษิณทำเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้มีอะไรผิดแปลก" นายภูมิธรรมกล่าว

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มต่างๆ ว่า เท่าที่ประเมินเชื่อว่าคงไม่แรงขึ้น เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวก็ต้องระวัง แต่เท่าที่ประเมินวันนี้ ก็เชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์ เพราะเมื่อเกิดแล้วทุกคนก็รู้ว่ากระทบจิตใจ

เมื่อถามว่า นายทักษิณเป็นปัจจัยในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า “ไม่อยู่แล้ว ท่านไม่ยุ่ง เรื่องนี้ไม่เห็นมีอะไร ท่านไม่ยุ่งอยู่แล้ว” นายกฯ ได้กำชับเรื่องหลักๆ คือเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ การจัดซื้อจัดจ้าง และเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายให้เป็นไปโดยโปร่งใส ให้กำลังพลมีขวัญกำลังใจ และรักองค์กรของเขา ถ้าเราไปทำอะไรให้เกิดให้เขาเสียประเพณีและเสียขวัญ ไม่รักองค์กร ก็จะเป็นความเสียหาย อีกเรื่องคือการประชาสัมพันธ์ไอโอ ให้ประชาสัมพันธ์เฉพาะผลงานรัฐบาล อย่าเอาไปใช้ประโยชน์การเมือง

ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณอาจให้ความเห็นทางการเมืองหลังจากนี้ว่า ความเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องสิทธิทางการเมือง ไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าไม่ให้คุณมีความเห็นทางการเมือง เป็นสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของคนทั่วไป ที่จะมีความคิดเห็นทางการเมือง ไม่มีอะไรไปห้าม เพียงแต่กฎหมายบางประเภทเขาไปห้ามเรื่อง เช่น  การไปตัดสิทธิ์ ห้ามลงสมัครหรือดำรงตำแหน่งอะไรต่างๆ เป็นต้น แต่เรื่องของการแสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกได้

นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่าสภาพดังกล่าวจะเหมือนกับการมีนายกรัฐมนตรี 2 คน ถ้าไม่ระมัดระวัง และจะมีปัญหาในการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับความเสมอภาคของกระบวนการยุติธรรม แน่นอนว่ายังมีคำถามอีกมาก เช่น สิทธิที่นายทักษิณได้รับในการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยไม่ต้องอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ซึ่งโดยหลักการพรรคก้าวไกลสนับสนุนสิทธิการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม แต่กรณีนี้ก็เกิดคำถาม ว่าได้รับอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่นหรือไม่ ซึ่งมีผู้ต้องขังน้อยมากที่ได้สิทธิแบบนายทักษิณ กว่าจะได้รักษานอกเรือนจำก็ลำบาก และต้องรีบกลับมาอยู่ในเรือนจำ

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรรมาธิการฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ก็พบว่า ผู้ต้องขังที่ป่วยเกิน 120 วัน มี 3 คน คือสองคนป่วยจิตเวช และอีกหนึ่งคนคือนายทักษิณ ขณะเดียวกันก็มีการอ้างว่าจำเป็นจะต้องอยู่โรงพยาบาลด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ซึ่งทันทีที่ได้รับการพักโทษ ก็ไม่แน่ใจว่าสามารถมีสุขภาพดีเพียงพอที่จะออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่ อย่างนี้ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้องข้อสังเกต

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า ตอนนี้มีคนตรวจสอบเยอะ ว่าข้ออ้าง เหตุผลของกรมราชทัณฑ์ ที่อ้างรายงานทางการแพทย์ มีความถูกต้อง โปร่งใส ชัดเจนหรือไม่ ซึ่งอีกเรื่องหนึ่งที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ คือความเสมอภาคเท่าเทียมในการอำนวยความยุติธรรม ในกรณีนี้หลายคนพูดว่านายทักษิณควรได้รับการอำนวยความยุติธรรม เพราะถูกกระทำด้วยคดีความต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรมจากการรัฐประหาร พรรคก้าวไกลก็อยากจะบอกว่า คนที่ยังไม่ได้รับความยุติธรรมยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ทุกคนควรได้รับการอำนวยความยุติธรรม ไม่ใช่แค่นายทักษิณคนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีความเชื่อมโยงกับการนิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีทางการเมืองด้วย

ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ภาคอีสาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงในหลายจังหวัดได้ประกาศพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดงเพื่อแสดงความยินดีและต้อนรับนายทักษิณกลับบ้าน ซึ่งอาจจะมีคนเสื้อแดงหรือผู้ที่รักใคร่และให้การเคารพนับถือไปรอรับ แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่เดินทางไป เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะทะหรือกระทบกระทั่งในวันที่ทุกคนนั้นมีความสุขที่สุด

ขณะที่ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่าทักษิณพักโทษเหมือนชนะศึก แต่ คปท.ก็ไม่ได้แพ้ศึก การเปิดพื้นที่ทวงคืนความยุติธรรม สร้างป้ายแขวนคอที่ถอดออกไม่ได้ให้ทักษิณ ว่าเป็นนักโทษเทวดา สร้างความเหลื่อมล้ำไปทั้งชีวิตที่เหลือ นี่คือชัยชนะของประชาชนแล้ว

"ทักษิณ พ้นโทษไปแบบมีชนักติดคอไปตลอด พักโทษเหมือนชนะศึก แต่ คปท.ก็ไม่ได้แพ้ ทักษิณบาดเจ็บหนักกว่า คปท.เยอะ ใครกันแน่ที่ชนะศึกนี้ คิดดูดีๆ กลศึกสงครามจึงไม่ได้ตัดสินที่ผลการศึกอย่างเดียว" นายพิชิตระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง