เรื่องยังไม่เงียบ! คดีเข้า พ.ร.บ.อุ้มหาย อัยการสูงสุดเซ็นตั้ง "วัชรินทร์ ภาณุรัตน์" นั่งหัวหน้าชุดกำกับการสอบสวน "คดีลุงเปี๊ยก" ถูกถุงดำคลุมหัวให้รับสารภาพฆ่าเมียตัวเอง เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย และแนวทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ออกคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 373/2567 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน กรณีนายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก คงแสนคำ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องกรณีนายปัญญา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ ไว้เป็นคดีพิเศษที่ 9/2567 ขอให้พนักงานอัยการเข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 ตามกฎหมายดังกล่าว
และเนื่องจากการสอบสวนคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญ ที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ มีผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้การตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 19 ประกอบมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 ประกอบ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ มาตรา 31 และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 ข้อ 23, 29 และ 30 อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงาน และมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการดังนี้
ตั้งนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ตั้งนายปรัชญา ทัพทอง อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน ตั้งนายน้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน ตั้งนายธีรัช ลิมปยารยะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นคณะทำงาน ตั้งนางสาวทักษอร สุวรรณสายะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นคณะทำงาน ตั้งร้อยตำรวจเอก สุวรรณสาม คีรีวิเชียร อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 เป็นคณะทำงาน ตั้งนายสุวภัทร ปานคง อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 เป็นคณะทำงาน
ตั้งนายเทพสิทธิ์ เกียรติเดชปัญญา อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 เป็นคณะทำงานและเลขานุการ ตั้งนางสาวบุษยภา เมณฑกา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นคณะทำงานและเลขานุการ
โดยให้มีอำนาจหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนในทันที เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ และแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ โดยเคร่งครัด และแต่งตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะทำงาน เเละให้เลขานุการคณะทำงานรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้ให้อัยการสูงสุดทราบเป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเกิดจากคดีฆาตกรรมนางบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ หญิงสติไม่ดี วัย 47 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายเปี๊ยก เเละเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีการดำเนินคดีกับนายปัญญาในข้อหาฆาตกรรมภรรยา โดยตำรวจแจ้งว่านายปัญญาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าและกระทำด้วยความมึนเมา
ต่อมามีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สื่อมวลชนไปหามาได้จากจุดเกิดเหตุ และได้เปิดเผยความจริงที่ว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนางบัวผันเป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 คนที่เป็นลูกตำรวจใน จ.สระแก้ว ส่งผลให้สังคมตั้งคำถามการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ก่อนหน้านี้มีการแจ้งข้อหาและฝากขังนายปัญญา จนมีพยานหลักฐานหลุดออกมาว่าที่นายปัญญายอมรับสารภาพนั้น เพราะถูกบังคับให้ถอดเสื้อในห้องปรับอากาศเเละคลุมถุงดำ โดยที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในภาค 2 ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และออกมาสรุปผลว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะเป็นความผิดทางวินัยและอาญา แต่ยังไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ
จนกระทั่ง อสส.มีคำสั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบ หรือกำกับการสอบสวนคดีลุงเปี๊ยกในครั้งนี้ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โจ๊กจ่อสมัครสว. ล่าชื่อถอดป.ป.ช. สอบ2บิ๊กยื้อ30วัน
"บิ๊กโจ๊ก" จ่อลงสมัคร สว. ดิ้นต่อ! ยื่นประธานรัฐสภาล่าชื่อถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งแท่นส่งศาลฎีกาสอบพฤติการณ์ทุจริต
พิชัย-เศรษฐพุฒิ เคลียร์ใจชื่นมื่น! ให้โจทย์อุ้มSME
ชื่นมื่น! “พิชัย” เผยจับเข่าเคลียร์ใจ “เศรษฐพุฒิ” 2 ชั่วโมงฉลุย คุยกันด้วยหลักการ เข้าใจกันเป็นอย่างดี
กกต.-มท.ติวเข้มเลือกสว. เหลือ10สำนวนใบดำ-แดง
"กกต.-มท." ติวเข้มทุกจังหวัดจัดเลือก สว. "อนุทิน" กำชับผู้ว่าฯ
ไม่ฉีกสัญญาเดินหน้าเรือดำน้ำจีน
เดินหน้าเรือดำน้ำจีน ไม่ยกเลิกสัญญา รักษาความสัมพันธ์ 2 ชาติ
โยนรบ.ปลดล็อกม.112 กมธ.นิรโทษฯชง3ข้อเสนอทะลุฟ้า/ก.ก.ย้ำสิทธิประกันตัว
"กลุ่มทะลุฟ้า" บุกทำเนียบฯ-รัฐสภา ร้องรัฐบาลตรวจสาเหตุ "บุ้ง" เสียชีวิตให้โปร่งใส จี้คืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง
ผวาค่าแรง400 ดัชนีเชื่อมั่นร่วง เอกชนบี้ชะลอ
เอกชนหวั่นปรับขึ้นค่าแรง 400 ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม เม.ย.ร่วง ส.อ.ท.วอนรัฐชะลอ พร้อมอุ้มราคาพลังงาน 3 เดือน