บิ๊กป้อมถกนายกฯลาว! ครม.เท272ล.แก้ไฟป่า

“บิ๊กป้อม” แต่งแดงลุยหนองคาย ถกสารพัดปัญหาหวังนำจัดทำยุทธศาสตร์พรรคพัฒนาอีสาน ยกคณะข้ามโขงพบนายกฯ สปป.ลาวถกชื่นมื่น “เศรษฐา” เพิ่งตื่นอนุมัติงบกลาง 272 ล้านแก้ไฟป่า ขีดเส้นเคพีไอต้องลดลง 50% ขึ้นไป พร้อมรายงานทุก 4 ชั่วโมง 

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2567 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมคณะ เดินทางถึง จ.หนองคาย โดยนั่งรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กม 8888 ขอนแก่น เมื่อเดินทางถึงมีตัวแทนกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยต้อนรับและให้กำลังใจ ผูกผ้าขาวม้าแดง และ  สส.นำพระพุทธรูปมามอบให้เป็นที่ระลึก ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรมีสีหน้าแจ่ม แต่งกายด้วยสีแดงสดใสทั้งตัว โดยสวมเสื้อฮาวายสีแดง ทับด้วยแจ็กเกตสีแดง กางเกงสแล็กและรองเท้าผ้าใบแดง สีสันแปลกตากว่าทุกครั้ง

จากนั้นเวลา 09.30 น. พล.อ.ประวิตรเป็นประธานเปิดเวทีวิชาการรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการเอกชนกลุ่ม จ.หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ หนองบัวลำภู และเลย ทั้งเรื่องของการแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การยกระดับอุตสาหกรรมและสร้างระบบเศรษฐกิจบีซีจี ยกระดับโครงสร้างการขนส่งและคมนาคมของประชาชน พัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน รวมถึงปฏิรูปรัฐราชการและการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต โดยมีแกนนำ  กรรมการบริหารพรรค สส. เข้าร่วม

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ร่วมสัมมนาและเสียสละเวลามาร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคอีสาน ซึ่งตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา พรรคตระหนักดีว่าจะแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ โดยคำนึงถึงบริบทความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละจังหวัดและภูมิภาคที่จะจัดทำภูมิศาสตร์หลายภาคขึ้น โดยข้อมูลที่ได้รับจากทุกภาคส่วนคณะกรรมการยุทธศาสตร์จะนำไปจัดทำเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาภาคอีสาน ให้ทันสมัยและยึดโยงความต้องการของคนในภาคอีสาน โดยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ต่อมาที่โรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก อ.เมืองหนองคาย คณะ พล.อ.ประวิตรเดินทางมาติดตามผลงานที่ผ่านมาในพื้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดิน น้ำ กีฬา รวมทั้งเยี่ยมชมการลงทะเบียนของเกษตรกร เพื่อเปลี่ยน สปก.4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร โดยเปลี่ยนจากชุดแดงทั้งชุดมาสวมแจ็กเกตพรรคสีน้ำเงิน กางเกงสแล็กดำ

โดย พล.อ.ประวิตรได้เยี่ยมจุดบริการรับยื่นคำร้องขอออกโฉนดเพื่อการเกษตรตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) พร้อมกล่าวว่า อยากให้ประชาชนทุกคนมีที่ดินทำมาหากิน เรื่อง ส.ป.ก.เป็นโฉนดเป็นนโยบายของพรรค พปชร.ที่ได้ดำเนินการมาหลายปีแล้ว เท่าที่ฟังจากนายกรัฐมนตรี ยังมีกว่า 4 หมื่นคนที่ยังไม่ได้รับโฉนด เราจะจัดการให้ทั้งหมด เพื่อจะได้มีที่อยู่ที่กินเลี้ยงตัวเอง เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า พปชร.พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาจากประชาชน เพื่อนำไปสะท้อนต่อสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลเพื่อให้เข้ามาแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนต่อไป หากมีปัญหาอะไรที่อยากให้รัฐบาลและ สส.รับฟัง ก็ขอให้บอกมา เพื่อนำไปสานต่อนโยบายของพรรค

จากนั้น พล.อ.ประวิตรและแกนนำ พปชร. ได้ร่วมจับเข่าคุยกับประชาชนและผู้ประกอบการในจังหวัดหนองคายเพื่อพัฒนาแลนด์มาร์กท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยได้มอบหมายให้ประสานกับนายก อบจ.หนองคาย และ สส.ในพื้นที่ไปหารือแนวทางต่อไป

ต่อมา คณะ พล.อ.ประวิตรเดินทางจากด่านชายแดนฝั่งไทยข้ามสะพานไทย-ลาว ไปยังทำเนียบรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อพบปะนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว โดยมี รมต.เกษตรและสิ่งแวดล้อม, รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข, รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูง สปป.ลาว ให้การต้อนรับ

โดย พล.อ.ประวิตรได้หารือกับนายสอนไซระบุว่า ไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือกับ สปป.ลาวทุกๆ ภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของ สปป.ลาว ในปี 2567 นี้ โดยพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ที่จะพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

 “การเดินทางมาเยือน สปป.ลาวของผมและผู้บริหารพรรคครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญยิ่งที่จะได้ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นอันจะเป็นประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนาความร่วมมือด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคต และในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายสำคัญในการดูแลรักษาป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาฝุ่นควัน ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่เราจะต้องร่วมมือกัน”

ด้านนายสอนไซกล่าวยินดีต้อนรับคณะพรรค พปชร. ระบุว่า 2 ประเทศอยู่ติดกัน มีความเป็นพี่เป็นน้องกัน ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนชาวไทยมาลงทุนใน  สปป.ลาวเป็นอันดับ 2 ซึ่ง สปป.ลาวมีแนวทางเช่นเดียวกับไทยที่จะพัฒนาสังคมสีเขียวให้เกิดขึ้น พร้อมผลักดันให้เกิดขึ้นในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตร  การควบคุมโรคระบาดในสัตว์ รวมถึงปัญหาหมอกควันที่ สปป.ลาวก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับไทย

จากนั้น พล.อ.ประวิตรพร้อมคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมโครงการเวียงจันทน์โลจิสติกส์พาร์ค หรือ VLP มีพื้นที่ 3,000 ไร่ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีท่าบกท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางด้านธุรกิจ ระหว่างไทย-ลาว-จีน โดยเฉพาะการทำอุตสาหกรรมในเขตปลอดภาษี หรือฟรีโซน

วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า ครม.ยังได้อนุมัติงบกลาง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 และการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ โดยขอให้ ทส.ปรับเคพีไอให้ชัดเจนและหวังผลสูงขึ้น โดยให้มีความทะเยอทะยานลดจำนวนไฟป่าให้น้อยลง โดยให้รายงานผลทุก 4 ชั่วโมง รวมทั้งใช้ข้อมูลจุดความร้อนในอดีตมาเทียบเคียงเพื่อป้องกันและจัดทีมไฟป่าได้อย่างรวดเร็วทันใจ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทส. กล่าวว่า ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2566 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงินทั้งสิ้น 272,655,350 บาท ซึ่งดำเนินการโดยกรมป่าไม้เป็นเงิน 109,946,650 บาท และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า  และพันธุ์พืช เป็นเงิน 162,708,700 บาท เพื่อยกระดับในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และพื้นที่ที่มีจุดความร้อนและมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟป่า ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวในเรื่องนี้ว่า  นายกฯ มีข้อสั่งการให้ ทส.ปรับเคพีไอเชิงรุกแบบหวังผล ให้ลดไฟป่า 50% ขึ้นไป ให้ดูแลป้องกันไม่ให้มีการทุจริต ให้นำข้อมูลดาวเทียมและจุดฮอตสปอตมาใช้ และรวมถึงการจัดทีมระงับไฟป่าดูแลอย่างใกล้ชิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง