ปปช.ไต่สวนเอง โจ๊กพันเว็บพนัน เหตุเรื่องร้ายแรง

ป.ป.ช.มีมติรับพิจารณาไต่สวนคดีกล่าวหา “บิ๊กโจ๊ก” กับพวกรวม 5 คน เรียกรับเงินพัวพันเว็บพนันออนไลน์มินนี่ ร่วมกันฟอกเงิน ไม่คืนสำนวนให้ ตร.  ยันเป็นอำนาจ ป.ป.ช.ตาม รธน. ไม่ได้ดึงเรื่องหรือมีความสัมพันธ์ส่วนตัว เหตุเป็นเรื่องร้ายแรง มอบหมายไม่ได้

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.มีการประชุมในวันนี้ และมีมติรับพิจารณาคดีกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก ถูกกล่าวหาเรียกรับเงินซึ่งพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่และร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเห็นว่า  เป็นการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งสูงกว่าผู้ร้องเรียน ซึ่งอยู่ในระดับผู้อำนวยการ และกล่าวหาว่าเป็นการกระทำความผิดร้ายแรง มีผลกระทบในวงกว้าง เข้าหลายข้อในเรื่องความผิดร้ายแรง มูลค่าที่มีการกล่าวหากันก็มีมูลค่าสูง ซึ่งอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ไม่สามารถมอบหมายให้ได้

"คณะกรรมการจึงมีมติให้รับเรื่องนี้ไว้พิจารณา ดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนเอง ประกอบกับมีเรื่องข้อกล่าวหาเดิมที่เคยส่งไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันในเรื่องของบัญชีม้า ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ต้องทำไปพร้อมกัน จึงมีมติให้ดึงสำนวนดังกล่าวกลับมาพิจารณาพร้อมกัน"

ส่วนกรอบระยะเวลาการทำงานนั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า การดำเนินการต้องดูข้อมูลที่พนักงานสอบสวนจะส่งมา เพราะส่งมายังไม่ครบ หากส่งมาครบก็สามารถสั่งไต่สวนได้เลย ไม่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ซึ่งจริงๆ วันนี้ได้คุยกันเรื่องกรอบเวลาการทำงานด้วย แต่ยังไม่เห็นชัดว่าสำนวนนั้นมีพยานหลักฐานอะไร เพราะเห็นอัยการเองก็มีการสั่งให้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ดังนั้นต้องดูสำนวนตำรวจก่อน หากครบแล้วชี้ไปได้เลยก็ไต่สวนโดยองค์คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ ทั้งนี้อยู่ระหว่างการจัดหนังสือให้มีการส่งคืนเรื่องกลับมา หากส่งกลับมาแล้ว ป.ป.ช.ก็จะเรียกประชุมเลย เบื้องต้นสัปดาห์นี้ ป.ป.ช. น่าจะสามารถส่งหนังสือออกไปได้ เพราะที่ประชุมมีมติว่า ให้สำนักงานดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม

 “ถ้าสำนวนที่ส่งมาครบถ้วนก็สั่งไต่สวนได้เลย และแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง  ถ้าชี้แจงแล้วฟังไม่ได้ก็จะสรุปเพื่อมีคำวินิจฉัย” เลขาธิการป.ป.ช.กล่าว 

นายนิวัติไชยกล่าวว่า การที่ ป.ป.ช.รับเรื่องนี้ไว้พิจารณาเองนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการดึงเรื่องหรือมีความสัมพันธ์ส่วนตัวอะไร แต่ที่ดึงคืนมาเพราะเป็นเรื่องร้ายแรง มอบหมายไม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องร้ายแรงมอบไม่ได้ ทั้งนี้กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากเป็นระดับล่างอาจจะมอบได้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงมอบไม่ได้ ประกอบกับมีเรื่องร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับเรื่องการทำสำนวนของสิบตำรวจเอกณัฐวุฒิ หวัดแวว ด้วย ป.ป.ช.จึงเห็นว่าควรดำเนินการเอง ไม่ส่งตำรวจ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับพวกรวม 5 คน ประกอบด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ข้าราชการบำนาญ, พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่ สายตรวจ 3 บก.จร.บช.น.   ถูกกล่าวหาพัวพันเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 149 ซึ่งเป็นสำนวนคดีที่ 2 ที่ บก.ปปป.ส่งมาให้ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 66 ให้กลับไปดำเนินการเอง  

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นสมควรให้เรียกสำนวนคดีกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องในส่วนแรกจำนวน 14 ราย ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามทุจริต มีความเห็นสั่งฟ้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายไปก่อนหน้านี้ กลับมาดำเนินการไต่สวนโดยให้เป็นสำนวนเดียวกันด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง