เศรษฐาคิวแน่น! ถกธุรกิจฝรั่งเศส ฟุ้ง2568‘ปีทอง’

“เศรษฐา” เหยียบถิ่นน้ำหอมแล้ว ภารกิจวันแรกพบเอกชนหลากสาขา ทั้งท่องเที่ยว-แฟชั่น-อุตสาหกรรมยาง ฟุ้งปี 2568 จะเป็นปีทองจัดงานใหญ่ทั้งคอนเสิร์ตและแฟชั่น

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ออร์ลี กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศสแล้ว โดยเมื่อเวลา 08.50 น.  ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส นายเศรษฐาได้พบปะกับนาย Sébastien Bazin, ผู้บริหารบริษัท ACCOR Group Worldwide บริษัทชั้นนำในภาคธุรกิจการบริการ โดยเครือโรงแรม Accor เป็นเครือโรงแรมต่างประเทศใหญ่ที่สุดที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยได้หารือกันเพื่อสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว Co-Promotion สนับสนุนการขาย

 ต่อมาเวลา 09.30 น. นาย Pascal Morand ผู้บริหาร Fédération de la Haute Couture et de la Mode สหพันธ์แฟชั่นและการตัดเย็บชั้นสูง เป็นหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมแฟชั่นฝรั่งเศส มีสมาชิกมากกว่า 100 สมาคม   ได้หารือเรื่องเป้าหมายของไทยในการเป็น Southeast Asian center of fashion and design ซึ่งได้พูดคุยเรื่องความร่วมมือในการจัดกิจกรรมร่วมกันที่กรุงเทพฯ หรือปารีส เพื่อร่วมมือระหว่างบริษัทชั้นนำ รวมถึงการจัดโปรแกรมการฝึกฝนเพื่อพัฒนา young designers และร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำจัดหลักสูตรพัฒนา young designer ทั้งในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท

เวลา 10.10 น. ผู้บริหารบริษัท Michelin ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะสัญชาติฝรั่งเศส มีความเชี่ยวชาญการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับยางล้อ โดยบริษัท Michelin ลงทุนในไทยแล้ว 5 โรงงาน จ้างงาน 8 พันคน ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1 พันล้านยูโร หรือมากกว่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยใน 1 ปี บริษัทใช้ยางธรรมชาติมากกว่า 7 แสนล้านตันต่อปี และบริษัทระบุว่า ใน 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มกำลังการผลิตลงทุนเพิ่มถึง 300 ล้านยูโร ทั้งนี้ บริษัทคำนึงถึงการเปลี่ยนผ่านไปใช้พลังงานสะอาดในอนาคตอันใกล้ ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุน รวมทั้งได้หารือต่อประเด็นเรื่องกฎระเบียบใหม่ และรัฐบาลไทยพร้อมจะสนับสนุนช่วยให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

ในเวลา 10.50 น. นายเกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือมิชลินไกด์ทั่วโลก (MICHELIN Guide International Director) ได้เข้าพบ ซึ่ง Michelin guide 2024 สำหรับไทยมีร้านอาหารที่ได้ 1 ดาว จำนวน 28 ร้าน  2 ดาว จำนวน 7 ร้าน โดยจากวันแรกที่ Michelin มาไทย พบว่ามีศักยภาพดีขึ้นมาก และในส่วนของร้านอาหารที่อยู่ในกลุ่มมี potential คุณภาพดี ราคาเหมาะสม มีจำนวนมาก และปีนี้มิชลินจะจัดลำดับให้กับโรงแรม ซึ่งอาหารและที่พักถือเป็นกุญแจสำคัญของการท่องเที่ยว  ทั้งนี้ นายกฯ ได้ย้ำว่าปี 2568 จะเป็น Golden year of tourism จะจัด World class festival คอนเสิร์ต แฟชั่นในไทยเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เยือนโรงงานผลิตผ้าแบรนด์ชั้นนำอิตาลี ต่อยอดภูมิปัญญาผ้าย้อมครามไทยสู่สากล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานของห้องเสื้อ Zegna เมืองวาลดิลานา (Valdilana) และพบหารือกับนาย Gildo Zegna ผู้บริหารของห้องเสื้อ Zegna