ลาม33จ.พุ่ง740คน ห่วงอีสาน‘กาฬสินธุ์’ซูเปอร์สเปรดเดอร์โอมิครอน

ศบค.เผยยอดติดเชื้อรายใหม่ 2,575 ราย เสียชีวิต 17 ราย ห่วงหลายจังหวัดอีสานโควิดพุ่ง ฝาก อสม.ดูแล ปชช.กลับภูมิลำเนาตรวจ ATK ก่อนเข้าบ้าน ผวา! เชื้อโอมิครอนแพร่กระจาย สธ.แจ้งพบแล้ว 33 จังหวัด ป่วย 740 ราย ชี้ "กาฬสินธุ์" เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ติดเชื้อไปกว่า 200 คน "บิ๊กตู่" ขออย่าประมาท เทศกาลลดเสี่ยงเลี่ยงอยู่ที่แออัด

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยพบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,575 ราย ภายในประเทศ 2,360 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 2,360 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 59 ราย เรือนจำ​ 40 ราย ต่างประเทศ 116 ราย​ ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,217,287 ราย​ หายป่วยเพิ่ม 2,695 ราย​ ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 2,162,138 ราย​ อยู่ระหว่างการรักษา 33,502 ราย อาการหนัก 614 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 153 ราย เสียชีวิต 17 ราย เป็นชาย ​10 ราย หญิง ​7 ราย เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 16 ราย มีโรคเรื้อรัง 7 ราย เสียชีวิตมากที่สุดอยู่ที่ จ.สงขลา 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 21,647 ราย ยอดฉีดวัคซีนเพิ่มเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 464,144 โดส ทำให้มียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 103,439,403 โดส

สำหรับ 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 358 ราย, ชลบุรี 191 ราย, สมุทรปราการ 84 ราย, อุบลราชธานี 73 ราย, ขอนแก่น 68 ราย, กาฬสินธุ์ 65 ราย, นครศรีธรรมราช 63 ราย, สงขลา 62 ราย, นครราชสีมา 57 ราย, เชียงใหม่ 56 ราย

"จะเห็นว่าจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในภาคอีสานเริ่มเข้ามาอยู่ใน 10 จังหวัดแรก ต้องให้ระมัดระวังกันด้วย ซึ่งคงจะเห็นปรากฏการณ์ของการกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาล ตรงนี้ต้องช่วยกัน ต้องฝาก อสม.ลูกหลานที่กลับภูมิลำเนาจำเป็นต้องได้รับการตรวจ อย่างน้อย ATK หรือกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อรอดูอาการ" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

โฆษก ศบค.กล่าวว่า อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานในที่ประชุมพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนสะสม 739 ราย เฉพาะวันที่ 29 ธ.ค. 149 ราย มีการกระจายไปทั่วประเทศ โดยที่ กทม.สะสม 273 ราย กาฬสินธุ์วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 98 ราย ทำให้มียอดสะสม 226 ราย โดยเป็นการสุ่มตรวจหาสายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์เดลตายังเป็นสายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่แพร่ระบาดในประเทศ 90.94% ส่วนโอมิครอนอยู่ที่ 9% ซึ่งแนวโน้มคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเฝ้าระวัง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค.ยังมีการหารือกันเรื่องวัคซีน อยากเน้นย้ำไปยังคนในกลุ่มคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะขณะนี้ได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่งเพียง 75.1% เท่านั้น กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับวัคซีนตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัวและหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต โดยจังหวัดที่กลุ่มผู้สูงอายุที่ยังได้วัคซีนไม่ถึง 50% ได้แก่ ปัตตานี นครนายก ราชบุรี กาญจนบุรี และมีถึง 28 จังหวัดที่กลุ่มผู้สูงอายุได้รับวัคซีนได้รับวัคซีนเพียง 60-69% ได้แก่ นนทบุรี นครปฐม ยะลา นราธิวาส แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก ตาก สุโขทัย อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี สระแก้ว กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น ยโสธร อำนาจเจริญ พัทลุง สตูล สระบุรี ตราด ถือว่ามีการฉีดน้อยมาก จึงเน้นย้ำให้ไปฉีดวัคซีน วัคซีนช่วยได้ ทำให้ความรุนแรงน้อยลงและเสียชีวิตลดน้อยลง

ทั้งนี้ จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่งยังไม่ถึง 60% ของประชากรทั้งจังหวัด มี 38 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม นราธิวาส ปัตตานี แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร ชัยนาท นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี นครนายก ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี สระแก้ว ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี พัทลุง สตูล กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม บึงกาฬ หนองบัวลำภู สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี จึงขอกรุณาจังหวัดเหล่านี้ไปฉีดวัคซีนให้มากๆ

กาฬสินธุ์ซูเปอร์สเปรดเดอร์

"ศปก.ศบค.ได้หารือใน 2-3 ประเด็นเกี่ยวกับช่วงเทศกาลปีใหม่ เกี่ยวกับการเดินทางกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่จะเข้าประเทศ ผ่านระบบไทยแลนด์พลัส ซึ่งลงทะเบียนไว้กว่า 2 แสนคน ผ่านการอนุมัติกว่า 1.1 แสนคน รอเข้ามาประมาณ 9 หมื่นคน พบว่าเดินทางเข้ามาน้อยกว่าลงทะเบียน 40-50% โดยให้ติดตามตัวทุกคนที่เข้ามาด้วยการให้ลงทะเบียนแอปพลิเคชันหมอชนะให้ได้ทั้ง 100% และตรวจคัดกรองด้วยวิธี RT-PCR ให้ได้ผลทั้ง 100% ซ้ำ 2 ครั้งเช่นกัน ส่วนข้อห่วงใยคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศและจะกลับเข้าประเทศไทยไม่ว่าจะเดินทางไปแบบเดี่ยวหรือเป็นครอบครัว ขอให้ดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดี ขอให้มีการกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการ พร้อมกับตรวจเช็คด้วย ATK หากมีอาการให้มาตรวจหาเชื้อเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อได้" โฆษก ศบค.กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับความเป็นห่วงว่าหลังเทศกาลปีใหม่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนา ที่จะเดินทางกลับเข้ามาทำงานหลังวันที่ 1 ม.ค.65 ขอให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามประกาศฉบับที่ 40 โดยเฉพาะส่วนราชการขอให้ดำเนินการทำงานที่บ้านหรือเวิร์กฟรอมโฮมเป็นเวลา 1-14 วัน ขณะที่ภาคเอกชน ขอความร่วมมือทำงานจากที่บ้าน เพราะการกลับมาของทุกคนถือว่ามีความเสี่ยง จึงต้องมีการควบคุมเพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อ รวมทั้งการ์ดต้องไม่ตก เพื่อป้องกันตัวเองและคนที่รัก รวมถึงประเทศชาติ

ขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงโควิดสายพันธุ์โอมิครอนว่า ขณะนี้ภาพรวมจากการตรวจหาเชื้อใน 8,000 ตัวอย่าง พบติดเชื้อโอมิครอนถึง 740 คน แบ่งเป็นติดเชื้อต่างประเทศ 489 คน ติดเชื้อในประเทศ 251 คน โดยพื้นที่ที่พบการติดเชื้อโอมิครอนมากที่สุด ได้แก่ กทม. เนื่องจากเป็นพื้นที่เชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเป็นจุดตรวจเชื้อตั้งแต่เดินทางมาถึง รองลงมาพื้นที่ภาคอีสาน เขต 7 ได้แก่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ที่พบการติดเชื้อในประเทศ จากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์เคสเดียวแพร่ถึง 200 คน

"พบจังหวัดที่มีคนติดเชื้อโอมิครอนถึง 33 จังหวัด (น้อยที่สุดจังหวัดละ 1 คน)และมี 19 จังหวัดติดเชื้อในประเทศ ส่วนพื้นที่เขต 2 ที่ยังไม่พบการระบาดในประเทศ ได้แก่ ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุดรดิตถ์ จากการรายงานนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่เจอเชื้อเดลตาเลย ยังพบอยู่เป็นส่วนใหญ่ แต่สัดส่วนของเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้น โดยพบว่าคนที่เดินทางเข้าไทยด้วย T&G พบเชื้อโอมิครอนถึง 75%" อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ระบุ

ส่วน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโอมิครอนของไทยจากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ยกให้เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ เนื่องจากเคสนี้พบการติดเชื้อไปกว่า 200 คน ไปในพื้นที่ภาคอีสานเกือบทั้งหมด และไปภาคเหนือบางจังหวัด โดยกระจายไปใน จ.กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ลำปาง ลำพูน โดยในกาฬสินธุ์จังหวัดเดียว มี 14 อำเภอ พบคนติดเชื้อไป 11 อำเภอ

สำหรับสาเหตุการติดเชื้อที่อยากยกตัวอย่างไว้เป็นอุทาหรณ์นั้นมาจากพฤติกรรมการพบปะที่ไปสังสรรค์ในสถานที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเท โดยหลังจากทาง ศบค.อนุโลมมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในร้านอาหาร ทำให้ผับ บาร์ ผันตัวมาปรับร้านให้เป็นร้านอาหารแทน บางร้านสามารถทำได้ตามมาตรการที่กำหนด แต่บางร้านทำไม่ได้ตามมาตรฐาน

"เคสคลัสเตอร์กาฬสินธุ์พบเดินทางไปในร้านอาหารลักษณะนี้ด้วยกัน 2 ร้าน เป็นร้านดังที่คนต้องมา พบว่ามีการติดเชื้อโอมิครอนทั้งร้าน ทั้งลูกค้า พนักงาน นักดนตรี เนื่องจากเป็นร้านที่มีดนตรีเล่นทำให้มีการใช้บริการนาน พนักงานไม่ตรวจ ATK ป่วยก็ไม่หยุด กินอาหารร่วมกัน สภาพในร้านแออัด สัดส่วนของลูกค้าและโต๊ะ คนใช้บริการ 80% อากาศไม่ถ่ายเท ส่วนบาร์ เอส พบว่าไม่มีการติดเชื้อเลยเพราะมีการจำกัดการให้บริการแค่ 3 ชม. พนักงานตรวจ ATK ไม่มีการแสดงดนตรีสด" อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว

'บิ๊กตู่'ขอปชช.ลดเสี่ยงติดเชื้อ

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม​ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ COVID-Free Setting ให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะสถานประกอบการต่างๆ จะต้องซื่อสัตย์ ทำตามกฎหมายและระเบียบ จากการเปิดให้บริการทั้งหมดตามที่ขออนุญาตและอนุมัติใหม่ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกปิดทันที ขอเตือนไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานประกอบการ ร้านอาหาร การจัดกิจกรรมในเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งงานวันเด็ก ขอให้ใช้การจัดงานผ่านระบบออนไลน์เพื่อลดความเสี่ยงลง โดยเฉพาะเด็กๆ รวมถึงผู้ปกครอง ซึ่งภูมิต้านทานต่างกันอยู่แล้ว

"ในส่วนของโอมิครอนเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนตื่นตระหนก เพราะเป็นการแพร่ระบาดที่เร็วขึ้น ทำอย่างไรเราจะไม่อยู่ในพื้นที่ที่มันแออัดอย่างนั้น เราจำเป็นต้องป้องกันตัวเองสวมหน้ากากอนามัย ฉีดวัคซีน และอย่าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เรื่องนี้ทุกคนระมัดระวังอยู่แล้ว ผมต้องขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมืออย่างดีและหวังว่าจะร่วมมือกันต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่ามีมาตรการการตั้งรับการแพร่ระบาดโควิด-19 นอกเหนือจากการเวิร์กฟรอมโฮมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าที่เราทำวันนี้ก็ครบถ้วน แต่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญถ้าประชาชนมีขีดความสามารถเพียงพอ ขอความกรุณาให้ใช้ชุดตรวจ ATK ด้วยตนเอง เพราะแพร่ระบาดเร็ว ใครรู้ว่าเสี่ยงขอให้ตรวจตัวเองบ้างระยะเวลา 7 วัน ควรต้องตรวจ อย่างนายกฯ ตรวจไม่รู้กี่ครั้ง เวลาไปไหนมาไหน เพราะอยู่ท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก ทำงานร่วมกับคนอื่นเยอะ ทั้งหมดเพื่อป้องกันตัวเองไม่มีอะไรดีไปกว่าการป้องกันตัวเอง และมีสติ

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ชี้แจงแบบจำลองหรือฉากทัศน์การระบาดของโควิด-19 ในช่วงหลังปีใหม่ 3 รูปแบบว่า เป็นการคาดการณ์สถานการณ์ที่แย่ที่สุด ซึ่งอาจมีการติดเชื้อถึง 3 หมื่นคน และเสียชีวิต 170-180 คนต่อวัน แต่หากปฏิบัติตามมาตรการทั้งการป้องกันตนเองสูงสุด อาจจะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่ง สธ.เตรียมพร้อมรองรับการรักษาพยาบาลไว้แล้ว โดยสามารถรองรับผู้ติดเชื้อสูงสุดมากกว่า 5 หมื่นคนต่อวัน

จ.นครราชสีมา คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้วจำนวน 2 ราย โดยผู้ป่วยรายแรก เป็นชาย อายุ 59 ปี สัญชาติอังกฤษ และรายที่ 2 เป็นหญิง อายุ 37 ปี สัญชาติไทย โดยผู้ป่วยทั้งสองคนเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอังกฤษ และได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม

จ.นครพนม สาธารณสุขจังหวัดนครพนม รายงานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยง มีผลตรวจยืนยัน 4 ราย ติดเชื้อโอมิครอน ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม 2 ราย อำเภอเมืองฯ 1 ราย และอำเภอนาหว้า จำนวน 1 ราย โดยเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย และเดินทางมาจากจังหวัดอื่น 2 ราย

จ.ภูเก็ต นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ตได้ส่งการตรวจเชื้อผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน 92 คน ไปตรวจอีกครั้งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่กรุงเทพฯ ผลยังไม่มา แต่ค่อนข้างจะมั่นใจว่า 99% น่าจะใช่เป็นโอมิครอน ตอนนี้ค่อนข้างจะชัดเจนว่าเรามีนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อเป็นโอมิครอนประมาณ 92 คนในจังหวัดภูเก็ต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง