ผู้ป่วยดินเนอร์ชื่นมื่น ‘เศรษฐา-รมต.’ร่วมวง/แม้วลั่นสงกรานต์มาอีก

"ทักษิณ" เดินสายทัวร์เชียงใหม่วันที่สอง สักการะครูบาศรีวิชัย-บวงสรวงพระธาตุ-เดินตลาดวโรรส-ไหว้สุสานฝังศพบิดามารดาและอัฐิคนตระกูลชินวัตร บอกกลับบ้านเชียงใหม่มีความสุข  กำลังใจดี เหน็บไม่ใช่ใจบันดาลแรง แย้มอาการป่วยดีขึ้น เฝือกอ่อนถอดๆ ใส่ๆ ได้แล้ว ยันตามใจ “อุ๊งอิ๊ง” เล่นการเมือง "เจ๊แดง" เปิดบ้านเชียงใหม่เลี้ยงรับพี่ชาย โชว์ภาพ 3 นายกฯ "ทักษิณ-เศรษฐา-สมชาย" ร่วมโต๊ะชื่นมื่น "รมต.-สส.พท." ร่วมงานเลี้ยงพรึ่บ มี "ธรรมนัส-ไผ่" ร่วมแจม "สุทิน" ย้ำ "แม้ว" ไม่ดับรัศมี "นิด" เชื่อ ปชช.แยกแยะได้ "ปชป." จี้ "ป.ป.ช." สอบป่วยทิพย์

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่สองในการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำบุญและเคารพสถูปบรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูลชินวัตรผู้ล่วงลับ ระหว่างวันที่  14-16 มี.ค.2567 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างพักโทษ และเคยพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากแพทย์มีความเห็นว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤตนั้น ตลอดทั้งวันยังคงเดินทางไปหลายสถานที่ในจังหวัดเชียงใหม่

โดยเวลา 08.28 น. นายทักษิณพร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยบรรดาลูกเขยและหลานๆ เดินทางมาที่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ เข้าสักการะครูบาศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทางกลับเชียงใหม่ในรอบ 17 ปี

ทั้งนี้ มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่, นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รวมถึงคนเสื้อแดงถือป้าย “อีสาน รักมั่นไม่เปลี่ยนแปลง” และคนในพื้นที่รอให้การต้อนรับ

ทันทีที่นายทักษิณมาถึงได้กล่าวทักทายคนเสื้อแดงที่มารอให้การต้อนรับ โดยเอ่ยชื่อทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมกันนี้มีพระสงฆ์ในพื้นที่มอบพระรอดลำพูนและให้พรว่า "ขอให้อายุมั่นขวัญยืน  อยู่รอดปลอดภัย และอยู่ไปนานๆ ไม่แก่ไม่เฒ่า" นอกจากนี้ยังมีบรรดาแฟนคลับกล่าวกับนายทักษิณว่า "ท่านยังเหมือนเดิม" นายทักษิณจึงตอบกลับว่า "75 ปีแล้ว"

จากนั้นนายอรรถพลได้นำแผนการพัฒนาพื้นที่ดอยสุเทพมารายงานให้นายทักษิณฟัง โดยนายทักษิณได้สอบถามเรื่องแหล่งน้ำธรรมชาติว่าจะสามารถนำน้ำมาใช้ได้จากไหน นอกจากนี้ นายทักษิณยังได้กล่าวชื่นชมนายอรรถพล อธิบดีกรมอุทยานฯ ว่า "อธิบดีดีนะ ผมดูในข่าวอยู่ตลอด"

ต่อมาเวลา 09.00 น. นายทักษิณ พร้อมครอบครัวเดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด 10 จุด โดยเริ่มที่สักการะท้าวเวสสุวรรณ ก่อนทำพิธีบวงสรวงพระธาตุ รวมทั้งได้ทำพิธีห่มผ้าพระธาตุ จังหวะหนึ่งระหว่างเดินห่มผ้าพระธาตุ ซึ่งนายทักษิณได้หันไปบอก น.ส.แพทองธารว่ามีอาการเจ็บหลัง ทำให้พยาบาลและคณะทำงานต้องรีบเตรียมอุปกรณ์พยุงหลังทันที

อย่างไรก็ตาม นายทักษิณยังคงมีอารมณ์ดี โดยช่วงหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “วันเกิดของผมคือปางพระนอน แต่ไม่ค่อยได้นอน ทำแต่งาน และเมื่อสักครู่เดินขึ้นมา ช่วงหนึ่งรู้เลยว่าเข้าสู่วัยสาวแล้ว...สาวราวบันได" เรียกรอยยิ้มจากคณะที่ได้ยิน

เสื้อแดงแห่ต้อนรับแน่น

จากนั้น นายทักษิณประกอบพิธีเปิดกรวยถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนกราบพระประธานในพระอุโบสถ  ซึ่งจุดนี้เห็นได้ชัดเจนว่านายทักษิณมีอาการบาดเจ็บที่หลังมากขึ้น โดยพยาบาลได้นำเข็มขัดพยุงหลังมาให้ และในจุดนี้นายทักษิณไม่สามารถนั่งกราบพระได้จน น.ส.แพทองธารต้องเข้ามาพยุง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาร่วมคณะด้วย ซึ่งนางพวงเพ็ชรมีภารกิจลงพื้นที่มาติดตามการแก้ปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินของวัดตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา

เวลา 10.33 น. นายทักษิณพร้อมครอบครัวเดินทางต่อมาที่ตลาดวโรรส ได้มีกลุ่มแฟนคลับรอให้การต้อนรับบริเวณหน้าตลาดจำนวนมาก เมื่อมาถึงบรรดาแฟนคลับได้กรูกันเข้าไปเพื่อมอบดอกไม้และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกับนายทักษิณ จึงทำให้เกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย เพราะทุกคนอยากถ่ายรูปกับนายทักษิณ ซึ่งเมื่อใครได้ถ่ายรูปและจับมือแล้วก็นำรูปมาโชว์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

จากนั้นนายทักษิณและครอบครัวเดินเข้ามายังตลาดวโรรส และได้แวะร้านหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นร้านดั้งเดิมที่นายทักษิณเคยมาซื้อหนังสือพิมพ์ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ โดยพบกับนางอรุณศรี พวงพฤกษา หรือป้าศรี อายุ 83 ปี โดยป้าศรีถึงกับน้ำตาคลอ พร้อมกับสวมกอดนายทักษิณ

นางอรุณศรีบอกว่า รู้จักกันมานานตั้งแต่นายทักษิณอายุ 16 ปี เคยไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยกัน ร่วมทัวร์กับนักเรียนมงฟอร์ต และไม่เคยจะคิดหักหลังนายทักษิณแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนายทักษิณก็บอกว่าไม่เจอกับป้าศรีมา 15 ปี ครั้งสุดท้ายไปพบกันที่ฮ่องกง รักและเคารพป้าศรีอย่างมาก ซึ่งนายทักษิณได้สอบถามสุขภาพของป้าศรี ก่อนจะบอกว่าสงกรานต์จะมาอีกรอบ

นอกจากนี้ ป้าศรียังได้หยิบหนังสือหน้าปกรูปนายทักษิณโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู และระบุว่า ช่วงที่นายทักษิณไม่อยู่ประเทศไทย จะนำรูปต่างๆ ทั้งรูปเก่าและรูปใหม่มาดูให้หายคิดถึง บางทีดูไปก็ร้องไห้ไป ก่อนที่ป้าศรีจะมอบน้ำผึ้งและพวงมาลัยให้นายทักษิณ จากนั้นนายทักษิณได้เรียกลูกๆ มาสวัสดีป้าศรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนมอบพวงมาลัยดอกไม้ให้นายทักษิณ และระบุว่าอยากให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ คนต่อไป อย่างไรก็ตาม ตลอดทางที่เดินเข้าไปภายในตลาดวโรรสบรรดาแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาดต่างดีใจ และตะโกนว่า  “เรารักทักษิณ” ดังเป็นระยะๆ โดยนายทักษิณได้เดินทักทายบรรดาแม่ค้าที่เคยรู้จักกันอย่างอารมณ์ดี

กระทั่งเวลา 11.10 น. ภายหลังจากเดินตลาดวโรรส นายทักษิณพร้อมครอบครัวเดินทางมารับประทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวซอยเสมอใจ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านที่นายทักษิณเคยมาประจำ เมื่อมาถึงทางร้านได้นำช่อดอกกุหลาบสีแดงและพวงมาลัยดอกมะลิมามอบให้นายทักษิณ ขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านในพื้นที่มารอต้อนรับอีกด้วย

ก่อนที่นายทักษิณจะเดินเข้าไปภายในร้าน เพื่อนั่งโต๊ะที่จองไว้จำนวน 40 ที่ สำหรับครอบครัวชินวัตร ระหว่างนั้นนางเพ็ญ พินิจอักษร อายุ 67 ปี ซึ่งเดินทางมาจาก จ.ศรีสะเกษ ได้นำหนังสือรูปปกนายทักษิณคู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเสื้อยืดมาให้นายทักษิณเซ็น และกล่าวกับทีมข่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ตั้งใจมาวันนี้เพื่อที่จะรอพบกับนายทักษิณโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาภาวนาทุกคืนเพื่อให้นายใหญ่กลับประเทศ และก็อยากให้นายทักษิณได้ไปเยี่ยมที่ศรีสะเกษบ้าง วันนี้ดีใจมาก และพี่น้องชาวอีสานใต้ก็ฝากความคิดถึงมาให้กับนายทักษิณ

จากนั้นนายทักษิณได้นั่งรับประทานอาหารร่วมกันกับครอบครัว โดยทางร้านได้เตรียมเมนูไว้หลายอย่าง แต่เมนูที่นายทักษิณชื่นชอบมากที่สุด คือข้าวซอยเนื้อ หมูสะเต๊ะ และไส้อั่ว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนลุกขึ้นและเดินไปถ่ายรูปกับผู้จัดการร้าน ซึ่งมีฉากหลังเป็นรูปของนายทักษิณในอดีตที่เคยมารับประทานข้าวซอยที่ร้านแห่งนี้เมื่อ 17 ปีที่แล้วติดอยู่ที่ฝาผนังของร้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นอย่างไรบ้างข้าวซอยยังคงอร่อยเหมือนเดิมหรือไม่ นายทักษิณยิ้มและตอบว่า “เหมือนเดิม” ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านเดินเข้ามาบอกกับนายทักษิณว่า เมื่อ 18 ปีที่แล้วตนได้เจอกับนายทักษิณที่ร้านแห่งนี้ ก่อนจะมอบพระเครื่องใส่มือให้นายทักษิณ

ขณะที่บริเวณหน้าร้านได้มีกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยนายนิยม นพรัตน์ หรือ “เค สามถุยส์” มารอทักทายนายทักษิณก่อนจะร่วมถ่ายรูปด้วยกัน

บอกมีความสุขป่วยดีขึ้น

เวลา 12.30 น. นายทักษิณพร้อมครอบครัวและคนในตระกูลชินวัตร เดินทางมาที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไหว้สุสานฝังศพของนายเลิศ ชินวัตร และนางยินดี ชินวัตร บิดาและมารดาของนายทักษิณ ที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาด้านทิศตะวันตกติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่รอฤกษ์ไหว้บรรพบุรุษในเวลา 13.00 น. นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการถึงการมาไหว้สุสานพ่อแม่ว่า ตนมีความรู้สึกที่ดีกับพ่อแม่ ตนไม่เคยมาเลย เพราะอยู่ต่างประเทศ จากนี้ต่อไปก็จะมาทุกปีแน่นอน

ถามว่า วันนี้ลูกหลานมากันครบทำให้มีความสุขหรือไม่ นายทักษิณกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผลสุดท้ายความสุขอยู่ที่ครอบครัว คนทุกคนถ้าเข้าใจโลก ก็จะ Happinees is at home (ความสุขอยู่ที่บ้าน) ที่อื่นอาจจะเป็นสิ่งสมมุติ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ Happinees is at home

ถามอีกว่า ประชาชนที่มาเจอบอกว่าหน้าตาสดชื่นแจ่มใส นายทักษิณกล่าวว่า “ผมมีกำลังใจดี แต่ไม่ใช่ใจบันดาลแรง”  ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะแซวว่าเป็นคำพูดของคนอื่น ซึ่งนายทักษิณยิ้มพร้อมหัวเราะและพูดสั้นๆ ว่า “แหม่”

เมื่อถามว่า ตอนไหว้วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร มีอาการเจ็บหลัง ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า กล้ามเนื้อมันสะดุ้ง ซึ่งเป็นมาก่อนแล้ว หากขยับผิดจังหวะก็จะมีอาการ เมื่อคืนก็มีอาการนิดหน่อย แต่ไม่ได้ไปไหน เมื่อเช้าขยับเยอะ กล้ามเนื้อก็เลยสะดุ้ง แต่ตนใส่ที่คาดเอวไม่ได้ใส่เข็มขัดนะ เพราะไม่ได้ชกมวย ซึ่งตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนที่ใส่เฝือกอ่อนที่คอก็เป็นไปตามอายุ มันเสื่อมก็ต้องคอยดูไว้ เพราะไม่อย่างนั้นจะกดเส้นประสาท ซึ่งสามารถถอดๆ ใส่ๆ ได้ แล้วแต่อาการ

ถามว่า มาจังหวัดเชียงใหม่ได้กินอาหารที่ชอบแล้วหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า กินทุกอย่าง ตอนอยู่ต่างประเทศก็ได้กิน แต่รสชาติไม่เหมือนที่นี่ เพราะต้องแช่แข็งไป อย่างก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็ต้องไปกินที่ไม่มีแอร์ กินไปด้วยเหงื่อออกไปด้วยทำให้อร่อย

พอถามว่า ไปเดินตลาดวโรรสมีคนต้อนรับเยอะ นายทักษิณกล่าวว่า ก็ดีใจที่เขายังไม่ลืมคนเฒ่าคนหนึ่ง เมื่อถามว่ามีคนทักว่าหน้าไม่แก่เลย นายทักษิณกล่าวว่า “ก็เพราะผมมาอยู่กับครอบครัว จิตใจก็อิ่ม ไม่เหมือนตอนที่อยู่โรงพยาบาลตำรวจที่จิตใจมันห่อเหี่ยวนิดหน่อย วัยผมเป็นวัยรักลูกหลงหลาน”

ถามว่าคิดถึงอะไรที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณกล่าวว่า ภาพรวมทั้งหมดที่เราเคยเติบโตมา ซึ่งก็ได้เล่าให้ลูกๆ ฟังตามประสาคนแก่ว่าตอนเด็กๆ อายุ 12-13 ปี ไม่รู้จะเล่นอะไร เพราะไม่มีของเล่น ก็ขี่จักรยานไปถ้ำเมืองออน สมัยก่อนเรียกว่าถ้ำขี้นก ถนนก็ยังไม่มี บางช่วงก็ต้องแบกจักรยานข้ามทุ่งนา ซื้อข้าวมาจากสันกำแพงมากินที่ถ้ำ เวลาจะลงก็ต้องใช้บันไดไม้

เมื่อถามว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเชียงใหม่วันนี้จะได้พูดคุยกันหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นคนเชิญไปทานข้าว เมื่อถามว่า วันนี้จะเจอกัน 3 นายกฯ เลยใช่ไหม นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมเป็นอดีตนายกฯ คนอดีตก็มีหน้าที่ให้กำลังใจคนปัจจุบัน เขาถามอะไรถ้าเรามีความรู้เราก็ตอบ”

ถามว่า น.ส.แพทองธารมีความแข็งแกร่งมากในสนามการเมือง ในฐานะที่เป็นคนสนับสนุนมาตลอด รู้สึกอย่างไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า “ผมเป็นคนตามใจ ไม่บังคับลูก ตามใจตลอด เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เลิกตามใจ ฉะนั้นก็แล้วแต่ใจลูก” ทั้งนี้ระหว่างที่นายทักษิณกล่าวชื่นชม น.ส.แพทองธารซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ มีสีหน้ายิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจ

เมื่อถามว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่เปลี่ยนไปมากหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ก็มีการกระจายตัวของเมืองมากขึ้น แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือความแห้งแล้ง เพราะมีหญ้าเหลืองไปหมด อยากให้ย้อนกลับไปที่คนเดิมๆ เขาทำกัน เช่น ฝ้ายแม้ว ซึ่งเป็นการกักน้ำแบบขั้นบันได เพื่อให้พื้นที่ชุ่มชื้น จะทำให้ภูเขาชุ่มชื้น ทำให้เขียวและมีน้ำ มันเป็นวัฏจักร อย่างที่ประเทศดูไบเขาเป็นทะเลทราย ซึ่งเขาแข่งความร่ำรวยด้วยการว่าบ้านไหนมีต้นไม้เยอะ พอมันเขียวจะทำให้มีฝน เดี๋ยวนี้ดูไบมีฝนตกน้ำท่วม เขาไม่มีท่อระบายน้ำ เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะมีฝนตกอย่างนี้ แต่บ้านเรามีท่อระบายน้ำเยอะ แต่ไม่มีน้ำให้ระบาย ฉะนั้นเราต้องเพิ่มต้นไม้ เวลาเราเห็นความแห้งแล้งใจเราก็เหี่ยวตาม คนที่อยู่ในสภาพแห้งแล้งก็จะเหี่ยวตาม วันนี้ใจสำคัญที่สุด อาจจะเป็นเพราะตนแก่แล้วก็เลยพูดถึงใจบ่อย

'ทักษิณ' ร่วมโต๊ะ 'เศรษฐา'

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายทักษิณ พร้อมครอบครัวเดินทางมาที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ และเป็นสถานที่เก็บอัฐิของคนตระกูลชินวัตร ยกเว้นบิดามารดานายทักษิณ ที่ย้ายอัฐิไปเก็บที่อำเภอแม่ออนแล้ว โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากมารวมตัวเพื่อให้กำลังใจนายทักษิณ นำโดยนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง รวมถึงมี สส.พรรคเพื่อไทยมารอให้กำลังใจนายทักษิณตรงจุดนี้ด้วย อาทิ นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงอดีต สส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต สส.เชียงใหม่, จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ขณะที่คนเสื้อแดงได้ถือป้ายให้กำลังใจ มีข้อความ อาทิ รวมพลคนรักทักษิณเชียงใหม่ ยินดีต้อนรับนายกฯ ทักษิณปิ๊กสู่เชียงใหม่บ้านเฮา เป็นต้น และยังถือรูปถ่ายคู่นายทักษิณมาต้อนรับด้วย

ทันทีที่นายทักษิณและครอบครัว รวมถึงนายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณที่ได้มาร่วมคณะเพิ่มเติมด้วยมาถึง  มวลชนที่มารอให้การต้อนรับต่างกรูเข้าไปห้อมล้อมเพื่อมอบดอกไม้และถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ พร้อมตะโกน “เรารักทักษิณ” โดยนายทักษิณได้เดินทักทายบรรดามวลชน สร้างความปีติยินดีให้กับมวลชนเป็นอย่างมาก บางคนถึงขั้นน้ำตาคลอดีใจที่ได้เจอนายทักษิณ หลังจากไม่ได้เจอมานานร่วม 17 ปี

จากนั้นนายทักษิณได้เคารพอัฐิของนางเยาวลักษณ์ ชินวัตร พี่สาวคนโต ที่เสียชีวิตในช่วงที่นายทักษิณไปต่างประเทศ นายอุดร ชินวัตร น้องชาย และน.ส.ทัศนี ชินวัตร น้องสาว จากนั้นนายทักษิณพร้อมครอบครัวได้แยกไปภารกิจส่วนตัวที่บ้านเกิดชินวัตรไหมไทย

ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับนายทักษิณ โดยมีการจัดเวทีพร้อมขึ้นป้ายไวนิลต้อนรับและมีข้อความระบุว่า “หมู่เฮาดีใจ๋ ท่านนายกฯ ทักษิณ ปิ๊กเจียงใหม่บ้านเฮา”

โดยมีรัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างคึกคัก ซึ่งในส่วนรัฐมนตรี อาทิ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย , นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี, นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น

ขณะที่ สส. อาทิ นายรังสรรค์ มณีรัตน์ สส.ลำพูน, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส. บัญชีรายชื่อ, นายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย, น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย, น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นที่สังเกตว่ามี สส.ต่างพรรคมาร่วมด้วย คือ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ

จากนั้นเวลา 18.14 น. นายทักษิณ เดินทางถึงบ้านพักของนายสมชาย ก่อนที่เวลา 18.20 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร โดยนายเศรษฐาสวมเสื้อเชิ้ตลายผ้าขาวม้า ที่ซื้อผ้ามาจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และนำมาตัดเป็นเสื้อเชิ้ต โดยนายเศรษฐาได้ลดกระจกทักทายสื่อมวลชนว่า “สวัสดีครับ” และเมื่อนายเศรษฐาลงรถได้ทักทายนางเยาวภาและหันมาโบกมือทักทายสื่อมวลชนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโต๊ะอาหารของนายทักษิณ จัดเป็นโต๊ะยาว ภายในโต๊ะมีนายทักษิณ ขณะที่นายเศรษฐานั่งด้านขวาติดนายทักษิณ และนายสมชาย นั่งด้านซ้ายมีรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี และครอบครัวตระกูลชินวัตรร่วมโต๊ะด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น และมีการจัดซุ้มอาหารให้ผู้เข้าร่วมงานเดินเลือกรับประทานอาหาร

สำหรับเมนูอาหาร ประกอบด้วย เมนูอาหารพื้นเมือง ได้แก่ แกงขนุนกระดูกอ่อนสามชั้น แกงผักหวานไข่มดแดง แกงฮังเล ยำจิ้นไก่ แกงหยวกกล้วย แกงกระด้าง ขนมจีนน้ำเงี้ยว ไส้อั่ว หมูทอด น้ำพริกหนุ่ม หมูยอทอดแคบหมู และข้าวเหนียว นอกจากนี้ยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยว อาทิ ก๋วยเตี๋ยวลิ้มเหล่าโหงว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านปฐมโอชา ลูกชิ้นเนื้อเอ็น บ้านดงจังหวัดลำปาง และลูกชิ้นโอปป้า สันป่าข่อย จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่เมนูอาหารทอดประกอบด้วย ข้าวผัดกุ้ง  ทอดมันกุ้ง หอยทอด กระเพาะปลา ผัดไทย หมูสะเต๊ะ ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เบอร์เกอร์เนื้อทาโก้ ทั้งนี้ เมนูของหวาน อาทิ โรตีบัวลอยไข่หวาน เป็นต้น

จี้ ปปช.สอบป่วยทิพย์

ที่ทําเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ปฏิเสธการลงพื้นที่ของนายทักษิณตอกย้ำกระแสข่าวนายกฯ 2 คนว่า  ไม่หรอก แต่ก็ต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นบุคคลสำคัญระดับโลก ไปไหนก็มีแต่คนให้ความสนใจเป็นเรื่องธรรมดา และปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีคนให้ความนิยมเยอะอยู่ มีประชาชนไปต้อนรับและชื่นชม ยืนยันว่าไม่มีนัยการเมือง

ถามว่า มีการมองนายทักษิณลงพื้นที่เพื่อหยั่งกระแสความนิยมของตัวเองและพรรคเพื่อไทย นายสุทินกล่าวว่า กระแสของพรรคอาจจะใช่ แต่ถ้ากระแสส่วนตัวคงไม่ใช่ เพราะนายทักษิณไม่ประสงค์จะกลับมาทางการเมืองแล้ว จึงไม่จําเป็นต้องหยั่งกระแส อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย เหมือนไปวัดความสามารถแข่งกัน ซึ่งนายสุทินกล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า

เมื่อถามถึงกรณีการที่สื่อและประชาชนให้ความสนใจนายทักษิณอาจทำให้ภาพการเป็นนายกฯ ของนายเศรษฐาดูลดลง นายสุทินกล่าวว่า คนละระดับ นายเศรษฐาคือนายกฯ ตัวจริง แต่นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ความนิยมของประชาชนคนละแบบ นายทักษิณถือเป็นอดีตนายกฯ ที่ยิ่งใหญ่ ส่วนนายเศรษฐาก็ถือเป็นนายกฯ คนปัจจุบันที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่แยกแยะออก

ถามว่า ในอนาคตนายทักษิณจะมีอิทธิพลต่อรัฐบาลนี้หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ไม่ใช่มีอิทธิพล แต่มีบทบาทในเรื่องการให้คำแนะนำและถ่ายทอดประสบการณ์มากกว่า ซักว่าส่วนตัวได้คิวเข้าพบนายทักษิณหรือยัง นายสุทินกล่าวว่า ได้ขอเข้าพบแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่รีบ รอให้นายทักษิณโล่งๆ ก่อน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณว่า เชื่อว่าทุกคนจะรู้ความจริงที่ปกปิดมาอย่างยาวนานในเรื่องของอาการป่วยของนายทักษิณ ที่เห็นสุขภาพร่างกายชัดเจนว่าไม่เป็นไปตามที่บุคคลในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงรัฐมนตรี และคนของพรรคเพื่อไทยได้ออกมาชี้แจง  แต่ทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่สามารถหลอกประชาชนได้ รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ขณะนี้คนในรัฐบาลคิดว่ามีอำนาจคิดจะทำอะไรก็ได้ แต่อำนาจที่ใช้อย่างอำเภอใจย่อมมีพิษภัยตามมาอย่างแน่นอน

"ต้องฝากความหวังไว้ที่องค์กรอิสระที่จะต้องเข้ามาช่วยกันตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะลำบากในเรื่องหลักการความถูกต้อง ขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบ กระบวนการรับโทษของนายทักษิณทั้งกระบวนการอย่างละเอียด อาการป่วยสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในวันนี้หรือไม่" โฆษก ปชป.กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช' เมิน 'ทักษิณออนทัวร์' ปลุกระแสชี้ของอย่างนี้ขึ้นกับปชช.

'ชัยธวัช' ชี้ทักษิณไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนนิยมก้าวไกล เหตุขึ้นอยู่กับการทำงานของ สส. มองลงพื้นที่ที่ผ่านมา ก็หวังช่วยฟื้นฟูความนิยม พท.แต่จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ ปชช.