‘นช.ทักษิณ’กร้าว! ใครไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่/‘เศรษฐา’รับสภาพ

เชียงใหม่ ๐ "ทักษิณ" ฟิตจัด! เดินสายเที่ยวเชียงใหม่ทั้งวัน จากไป 17 ปี กลับมาอีกทีกระชุ่มกระชวย เผยให้กำลังใจ "เศรษฐา" เพราะงานวันนี้ยากกว่าสมัยวิกฤตต้มยำกุ้ง เมินดรามาป่วยทิพย์ เพราะภาวะจิตใจคนสำคัญกว่า ใครไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่ เผยมาถึงบ้านช้า เรือใช้เวลาเดินทาง 1 เดือนถึงบ้าน   แต่มาเครื่องบินแท้ๆ ใช้เวลา 6 เดือนกว่า ด้านนายกฯ ทำใจชาวบ้านรัก "นายใหญ่" มากกว่า

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 16 มีนาคม  2567 ที่ร้านคาเฟ่ เดอ โอเอซิส นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว เดินทางมารับประทานอาหารเช้า โดยนายทักษิณมีสีหน้าสดใส ไม่ได้ใส่เฝือกอ่อนที่คอและที่พยุงหลังเหมือนเมื่อวันที่ 15 มี.ค. โดยทันทีที่มาถึงนายทักษิณได้ทักทายสื่อมวลชนโดยถามว่า ยังอยู่กันอีกหรือ นึกว่าวันนี้ไปตามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.การคลังกันแล้ว ก่อนเชิญสื่อมวลชนเข้าไปรับประทานอาหารด้วยกัน

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า ตื่นเช้ามาวันนี้อาการเจ็บหลังเป็นอย่างไรบ้าง  นายทักษิณกล่าวว่า ก็ดีขึ้นเยอะ แต่ต้องพ่นสเปรย์แก้ปวดตลอด เมื่อถามถึงการร่วมรับประทานอาหารค่ำเมื่อวันที่ 15 มี.ค.กับนายกฯ อร่อยหรือไม่ นายทักษิณระบุว่า อาหารหลากหลาย อร่อย

เมื่อถามย้ำว่า บรรยากาศในงานผู้คนดูชื่นมื่นเพราะคนมากันเยอะ นายทักษิณระบุว่า 17 ปีเจอคนเก่าคนแก่บ้างก็ดี ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอคำปรึกษาอะไรหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่เลย เพราะท่านมีเวลาน้อย และต้องไปประชุมต่อเรื่องไฟป่า พร้อมพูดติดตลกว่าตนก็เลยบอกว่าอย่าประชุมเกินเที่ยงคืนนะเดี๋ยวเขาขอโอที

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายทักษิณ และครอบครัวเดินทางต่อมายังสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี เชียงใหม่ เพื่อพาหลานๆ มาเที่ยวชมสัตว์ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยทันทีที่นายทักษิณลงจากรถได้ทักทายเจ้าหน้าที่ประจำสวนสัตว์ ที่มายืนรอให้การต้อนรับ ก่อนจะเดินเข้าพื้นที่จุดจำหน่ายบัตรเข้าชม มีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนรอรับอยู่บริเวณหน้าทางเข้า

นายทักษิณกล่าวแซวว่า “วันนี้รัฐมนตรีนำทัวร์เองเลยนะ บอกด้วยว่า สัตว์ตัวไหนชื่ออะไร มาจากไหน” ทำให้บรรยากาศภายในวงสนทนามีเสียงหัวเราะ ก่อนเข้าชมพื้นที่ด้านในสวนสัตว์ โดยบรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยความสนุกสนาน บรรดาหลานๆ นายทักษิณต่างตื่นเต้นที่ได้เล่นกับสัตว์นานาชนิด โดยจุดแรกนายทักษิณได้ให้หลานๆ เล่นกับสัตว์ที่เชื่องแล้ว อาทิ นกกระตั้ว นกเค้า งูเผือก เมียร์แคต และอิกัวนา หลังจากชมสัตว์ในพื้นที่จุดแรกเสร็จแล้วนายทักษิณและครอบครัวได้นั่งรถกอล์ฟไปชมสัตว์พื้นที่ด้านใน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ ขอความเป็นส่วนตัวให้กับครอบครัว

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ร้านอาหารลำดีตี้ขัวแดง จ.เชียงใหม่ นายทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ตลอด 3 วันว่า  อบอุ่น ดีใจ 17 ปีที่หายไปกลับมาก็คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน คิดถึงอาหาร วัฒนธรรม คนเก่าๆ ว่าเป็นธรรมชาติที่ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น ส่วนช่วงสงกรานต์จะกลับมาเชียงใหม่อีกหรือไม่นั้น ตนก็ตั้งใจอยู่ เพราะมีความรักในวัฒนธรรม อยากกลับมา เพราะเขามีประเพณีรดน้ำดำหัว ก็คงว่าจะกลับมา

เมื่อถามว่า ให้กำลังใจนายเศรษฐา   ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องอะไรบ้าง นักโทษชายผู้นี้ตอบว่า ให้กำลังใจท่านทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะมีความซับซ้อนและยากมากกว่า ฝ่ายการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน ฉะนั้นต้องให้กำลังใจ ข้าราชการฝ่ายประจำและนักการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน เพราะมันยากกว่าเดิม

จบโอเคไหมครับ

ถามย้ำว่า จะให้ข้อคิดนายเศรษฐาอย่างไรบ้าง เพราะนายทักษิณเคยแก้วิกฤตต้มยำกุ้ง เขาตอบว่า ส่วนใหญ่ท่านก็รู้ เพราะเรื่องเดิมที่เราเคยแก้ไขมา บางอย่างก็ใช้ได้ บางอย่างก็ต้องเปลี่ยนเพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวดรามาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลับถึงประเทศไทย และออกจากโรงพยาบาล นายทักษิณชี้แจงว่า คำว่าดรามาก็คือเรื่องไม่จริง “จบ โอเคไหมครับ” ส่วนการเดินทางมาเชียงใหม่ครั้งนี้ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาการป่วย ตนมองว่าไม่เป็นไร ภาวะจิตใจคนสำคัญกว่า ถ้าภาวะจิตใจแย่ก็อาจจะทำให้อย่างอื่นรวนตามไปได้

ซักว่าตอนนี้สภาพจิตใจดีเกิน 100% หรือยัง นายทักษิณตอบว่า ใจมันดีเพราะมีลูกสาวมีลูกชายอยู่ใกล้ๆ และยังมีหลานๆ อีก 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่ในวัย 75 ปี

"ยังไงก็โปรดเข้าใจและเห็นใจคนแก่ในวัย 75 ปีด้วย ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน วันนี้กลับมา ใครไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่ไป"

นายทักษิณยืนยันว่า ก่อนหน้านี้มีอาการป่วยจริง แต่กำลังใจดี ทำให้หลายอย่างดีขึ้น แต่ทุกวันนี้ยังมีปัญหาการกดประสาทของกระดูกที่คอและหลัง และมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ป่วยโควิด-19 ตอนนั้นอาการหนักมาก ต้องนอนไอซียูไป 9 วัน ข้างในก็ได้รับผลกระทบ ตอนนี้ยังมีปอดที่ยังคงมีจุดอยู่

ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว พูดเสริมขึ้นมาว่า “พ่อไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองป่วย” นายทักษิณ จึงกล่าวต่อว่า พยายามอย่างยิ่งให้ยอมรับว่าตัวเองอายุ 75 ปีแล้ว แต่ไม่อยากจะยอมรับความแก่ ทั้งที่มันคือธรรมชาติ แต่บางทีเราต้องฝืนมันเพราะไม่อยากแก่

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ใครดื้อกว่ากันระหว่างพ่อกับลูก น.ส.แพทองธารเอามือชี้ไปที่นายทักษิณ ก่อนหัวเราะและบอกว่า "คนนี้ค่ะ ไม่ยอมรับว่าป่วยจนกระทั่งได้ผ่าตัดและออกจากไอซียูถึงจะได้รู้ว่าตัวเองป่วย" 

ถามว่า นอกจากช่วงสงกรานต์ที่จะกลับมาเชียงใหม่แล้ว มีกำหนดจะไปที่ไหนอีกหรือไม่ นายทักษิณบอกว่า “ยังไม่ได้คิด แต่ก็ห่วงบ้านเมืองหลายเรื่อง อยู่โรงพยาบาลตำรวจ 6 เดือน ดูข่าวตลอด ดูทีวีทุกช่อง เวลามีอะไรที่กังวลก็จะจดไว้เยอะมาก”

มาเครื่องบินช้ากว่าเรือ

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการเดินสายพบแกนนำคนเสื้อแดงพื้นที่อื่นๆ หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ยังไม่คิด ตอนนี้ขอใช้เวลากับครอบครัว มีอะไรก็จะเขียนแนะนำรัฐบาลบ้างเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะตนเป็นห่วงบ้านเมือง

ซักว่ามีเสียงคนเสื้อแดงออกมาบอกน้อยใจที่ยังไม่ได้พบ นายทักษิณกล่าวว่า อย่าเพิ่งน้อยใจเลย ทุกอย่างต้องใช้เวลา ตนเพิ่งมาถึงก็ต้องระมัดระวังความประพฤติของตัวเองด้วย ตนมาเครื่องบิน มาถึงบ้านช้ากว่าเรืออีก เรือใช้เวลาเดินทาง 1 เดือนถึงบ้าน แต่ตนมาเครื่องบินแท้ๆ ใช้เวลา 6 เดือนกว่า

ด้านนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่บ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่มีเวลาที่จะหารือกันกับนายทักษิณเลย แค่ถ่ายรูป ขณะที่ซุ้มอาหารมีเยอะมาก ก็ยังเดินไม่ครบ สื่อมวลชนก็เห็นอยู่ถึงบรรยากาศ ซึ่งในส่วนของนายทักษิณท่านก็มีท่าทางอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส จึงยังไม่ได้คุยอะไรกับท่าน และทราบมาว่าจากภารกิจเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ท่านเอื้อมมือไปหยิบของทำให้หลังลั่นกร๊อบขึ้นมา   ก็เลยต้องใส่อุปกรณ์พยุงหลัง แต่ใบหน้าของท่านมีแต่รอยยิ้ม เพราะอยู่ท่ามกลางครอบครัว ตนก็ดีใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า อดีตนายกฯ ทักษิณมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ จะมีโอกาสได้ปรึกษาหารือกับท่านหรือไม่  นายเศรษฐาตอบว่า "เข้าใจว่ามีโอกาสอย่างแน่นอน แต่เมื่อคืนไม่ได้คุยจริงๆ ครับ มันยุ่งเหลือเกิน อีกทั้งโต๊ะก็มีขนาดใหญ่ด้วย เลยยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน อย่างที่ผมเคยบอก ท่านทักษิณเป็นบุคคลระดับโลก เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุด ถ้าหากเราไม่สามารถดึงท่านมาช่วยงานเราได้ ผมว่าประเทศไทยก็จะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่"

เมื่อถามว่า อดีตนายกฯ ทักษิณฝากอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวย้ำว่า ไม่มีเลย ก็อย่างที่บอกว่าไม่มีเลย ไม่มีฝากบอกอะไรทั้งสิ้น แต่ฝากบอกว่าก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้อร่อย ให้ลองกินดูหน่อย จริงๆ ครับ ไม่มีอะไรจริงๆ เลย และตนก็ยังทานไม่ครบเลย

คนรักท่านมากกว่าผม

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แสดงว่ามีแนวคิดจะเชิญอดีตนายกฯ ทักษิณมาช่วยทำงานและมีบทบาทในรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯ ยืนยันว่า ยังไม่มี แต่ถ้าเรื่องของการพูดคุยหรือปรึกษาเป็นไปได้ แต่ส่วนตัวตนยังไม่ทราบเลยว่าท่านต้องการทำอะไร ท่านอาจจะต้องการแบ่งเวลา หรือชดเชยเวลาที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัว 17 ปีหรือเปล่า ก็ไม่ทราบ แต่บุคคลอย่างท่าน เชื่อว่าท่านเองก็อยากจะช่วยเหลือบ้านเมืองในบริบทที่ท่านถนัด ตนก็ยังไม่ทราบ ก็คงต้องถามท่านเมื่อมีโอกาส ท่านเองก็เพิ่งกลับบ้านเกิดมาครั้งแรกแค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น ในรอบ 17 ปี ก็ไม่อยากไปรบกวนเวลาที่ท่านจะอยู่กับครอบครัว หรือไปรำลึกความหลังกับพรรคพวก เพื่อนฝูงท่าน ตรงนี้ไม่ต้องห่วง

"ผมเชื่อว่ารัฐบาลของผม จากนี้ต่อไปอีก 3 ปีครึ่ง เราใจกว้างเสมอ สำหรับการรับฟังความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นจากทางผู้สื่อข่าวเองหรืออดีตนายกรัฐมนตรี"

เมื่อถามว่า คงไม่น้อยใจใช่หรือไม่อาจจะมีประชาชนบางส่วนหันไปรักอดีตนายกฯ ทักษิณบ้าง แต่ก็ยังรักนายกฯ เศรษฐาอยู่ นายกรัฐมนตรียิ้มพร้อมกล่าวว่า มันเป็นของตายอยู่แล้ว และหัวเราะก่อนจะกล่าวอีกว่า “ท่านอยู่มาและเป็นนายกฯ มากี่ปี และแลนด์สไลด์มา 377 เสียง อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน ผมไม่ต้องคิดว่าถ้าเกิดหรอกครับ แน่นอนครับคนรักท่านมากกว่าผมแน่นอน ทำใจได้อยู่แล้วครับ ทราบถึงความจริงอยู่แล้วครับ อายุขนาดนี้ ไม่โกหกตัวเองครับ แต่ว่าเรามีหน้าที่ต่างกันไปในวันนี้ วันนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ก็พยายามที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ ครับ ”

ส่วนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงงานเลี้ยงสังสรรค์ที่จัดต้อนรับนายทักษิณเมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค.ว่า เป็นการกลับมาในรอบ 17 ปี เป็นการรอคอยของทุกคน ตนในฐานะเจ้าของบ้าน จึงชวนไปเพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้าน และเมื่อท่านมาเยี่ยมเชียงใหม่ เราก็อยากจะทำให้เห็นว่าเราอยากต้อนรับอย่างอบอุ่น ทุกคนที่มาก็เป็นคนกันเอง ไม่ได้มีการเชิญแบบทั่วถึง ขอบคุณที่ทุกคนให้เกียรติ อย่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายก​ฯ และ รมว.การคลัง ก็มาร่วม

ถามถึงกรณีที่มี สส.พรรคพลังประชารัฐไปร่วมงานด้วย นายสมชาย กล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องการต่อสู้ทางการเมือง เราไม่ได้คิดว่าพรรคไหนเป็นคนละพวก ใครที่มีความสนิทสนมและรักใคร่กัน จะอยู่พรรคไหนก็ได้ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลในตอนนี้ ก็ถือว่าท่านมาดูแลประชาชนด้วย ยืนยันว่าต้อนรับหมด ไม่ได้แบ่งว่าจะเป็นพรรคนู้นหรือพรรคนี้ เพราะทุกคนเป็นพรรคพวกกัน

เมื่อถามว่า นายทักษิณจะกลับมาจังหวัดเชียงใหม่อีกในช่วงสงกรานต์ใช่หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ได้ยินว่าท่านบอกจะมาอีก เพราะเทศกาลสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของสงกรานต์ ประกอบกับปีนี้รัฐบาลก็ให้ความสนใจกับการจัดเทศกาลดังกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เด็กเศรษฐา’ ข้องใจ ‘ปานปรีย์’ ลาออกหลังมีพระบรมโองการ ชี้ไม่เคยมีใครทำ

ตกใจกับการตัดสินใจ ที่เกิดขึ้นหลังมีพระบรมราชโองการฯ ซึ่งไม่เคยมีใครกระทำแบบนี้มาก่อน เพราะมันไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธตำแหน่งเพียงอย่างเดียว