‘อิ๊งค์’ถกกัมพูชา สว.เล็งซักฟอก แบ่งปันขุมทรัพย์

"อิ๊งค์” นำคณะ พท.พบพรรคประชาชนกัมพูชากระชับความสัมพันธ์ ย้ำพรรคการเมืองเป็นรากฐานสำคัญพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างยั่งยืน "คำนูณ" เตรียมซักฟอก รบ.กรณีเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ขุมทรัพย์ใต้อ่าวไทย 20 ล้านล้าน ดักคอ "แพทองธาร” ไปกัมพูชาไม่ใช่ไปมุบมิบเจรจา ต้องเป็นข้อตกลงตาม ม.187 ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานกรรมการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นำคณะกรรมการบริหารพรรค พท. อาทิ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล,  น.ส.จิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค  น.ส.ชญาภา สินธุไพร, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรค นายพลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหารพรรค  น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษา รมว.การต่างประเทศ  เข้าพบสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชา และหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา โดยมีนายฮุน  มานี รัฐมนตรีกระทรวงข้าราชการพลเรือน ให้การต้อนรับที่สนามบิน

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเชิญจาก ฯพณฯ อดีตนายกฯ ฮุน เซน ให้มาเยือนกัมพูชา พร้อมแสดงความยินดีในโอกาส ฯพณฯ นายกฯ  ฮุน มาเนต ที่ได้เข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำของรัฐบาลไทยขณะนี้ มีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะทำงานร่วมกับพรรคของ ฯพณฯ ฮุน เซน และรัฐบาลของ ฯพณฯ ฮุน มาเนต เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยพื้นฐานความใกล้ชิดระหว่างทั้งสองพรรคเป็นต้นทุนเดิมที่สำคัญ เพราะเชื่อว่าการสร้างความใกล้ชิดและความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศผ่านกลไกพรรคการเมือง จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชาอย่างยั่งยืน

น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้หารือถึงแนวทางในการใช้กลไกต่างๆ ที่มีอยู่ เพื่อการแลกเปลี่ยนและส่งเสริมการติดต่อระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองประเทศ พร้อมเน้นย้ำไปที่เรื่องการท่องเที่ยวเป็นพิเศษ เพราะไทยและกัมพูชามีความเชื่อมโยงทั้งทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ที่สามารถนำมาร้อยเรียงเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวในภูมิภาคร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า ตนยังได้สนับสนุนโครงการ ASEAN Drive Tourism ที่ริเริ่มโดยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ในการประชุม ASEAN Summit ที่ผ่านมา  โดยโครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน โดยตนได้หารือเพิ่มเติมถึงแนวทางในการสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งเจรจากับสายการบินต่างๆ เพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและลดราคาตั๋วโดยสาร ซึ่งจะเป็นการดึงดูดและอำนวยความสะดวกต่อนักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ได้มีการหารือเพิ่มเติมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในภูมิภาคอาเซียนด้วยความร่วมมือระหว่างพรรคต่อพรรค

สำหรับบรรยากาศการพบปะหารือเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดย ฯพณฯ นายกฯ ฮุน มาเนต กล่าวว่า  ยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ น.ส.แพทองธาร และขอแสดงความยินดีกับการกลับมาของอดีตนายกฯ  ทักษิณ พร้อมฝากความระลึกถึงด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนกัมพูชามีความใกล้ชิดกันมายาวนาน จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับการเยือนอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะในครั้งนี้

นายฮุน มาเนต กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้พบหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หลายครั้ง ล่าสุดที่ประเทศออสเตรเลีย และได้จัดตั้งแนวทางการทำงานพิเศษ (Special Working Mechanism) ระหว่างกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานร่วมกันตามแนวชายแดนให้เกิดสันติภาพ เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน

สำหรับกำหนดการวันนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคพท.ได้เข้าพบคารวะสมเด็จวิบุลเสนาภักดี ซาย ชุม ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ต่อด้วยการเข้าพบคารวะสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา และในช่วงเย็นจะมีงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการ โดยสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน

ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (สว.)  กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่า ส่วนตัวเตรียมที่จะอภิปรายเรื่องการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ขุมทรัพย์ใต้อ่าวไทย 20 ล้านล้านบาทกับกัมพูชา เพื่อชี้ให้เห็นว่ามีข้อควรระวังอะไร แนวความคิดที่จะมีการเจรจาแยกกันระหว่างการแบ่งปันผลประโยชน์กับการเจรจาแบ่งเขตแดนมีความอันตรายอย่างไร ขัดกับเอ็มโอยู 2544 อย่างไร ทางเลือกที่ดีที่สุดควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะใช้เวลาชี้แจงเรื่องนี้ให้มีความกระจ่าง อย่างน้อยเพื่อเป็นการบันทึกไว้แม้จะไม่เสร็จในเร็ววัน แต่จะเป็นข้อมูลเพื่อให้รัฐบาลได้ฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน

ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.เดินทางไปกัมพูชาจะมีผลอะไรหรือไม่นั้น นายคำนูณ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถือว่าการเจรจายังไม่เริ่มต้นขึ้น การเจรจาจะเริ่มต้นขึ้นก็ต่อเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการเจทีซีฝ่ายไทยขึ้นมา ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งก็ยังไม่มีการเจรจา แน่นอนว่าการที่ผู้นำพบปะกันอย่างเป็นทางการ อาจจะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้หรือไม่ก็ได้ แต่ในทางปฏิบัติในทางกฎหมายก็ต้องถือว่าการเจรจายังไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก็ไม่น่าจะต้องกังวลอะไร ถึงที่สุดแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไปมุบมิบเจรจากันได้ง่ายๆ เพราะเมื่อจะต้องทำเป็นข้อตกลงก็จะเข้าข่ายเป็นข้อตกลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ดังนั้นเรื่องนี้ในทางปฏิบัติน่าจะอีกยาวพอสมควร

นายคำนูณ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า สัปดาห์นี้เป็นการทำงานสัปดาห์สุดท้ายของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบ 67 วุฒิสภา เพื่อที่จะให้ประธานวุฒิสภาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระในวันที่ 26 มี.ค. โดยเบื้องต้นกำหนดการพิจารณาไว้เพียงวันเดียวคือวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมรายชื่อ สว.ที่แสดงความจำนงจะร่วมอภิปรายอยู่ ซึ่งคาดว่าจะลงมติให้แล้วเสร็จในช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค. โดย กมธ.จะรวบรวมการเปลี่ยนแปลงงบทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำรายละเอียดเสนอต่อสมาชิก โดยส่วนใหญ่เป็นเพียงข้อสังเกตเท่านั้น เพราะตามอำนาจของวุฒิสภาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่ว่าจะปรับลดหรือตัดงบ

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล และนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเตรียมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่  2-3 ในวันที่ 20-22 มี.ค.นี้ว่า ฝ่ายค้านมี 22 ชม. ฝ่ายรัฐบาลและ สส.ฝั่งรัฐบาล 6 ชม. และประธานสภาฯ 2 ชม. จึงพยายามบีบเวลาให้เหลือน้อยที่สุด แต่ไม่ได้กลัวอะไร  เพราะในชั้น กมธ.มีการถกจนสะเด็ดน้ำแล้ว รวมถึงต้องขอชมเชย กมธ.ในปีนี้ว่าทำงานได้รวดเร็วมาก ลดเวลามาได้ถึงสองสัปดาห์

เมื่อถามว่า ในวาระ 2 และ 3 จะมีการกำชับ สส.ฝั่งรัฐบาลหรือไม่ เนื่องจากมีการลงมติรายมาตรา นายครูมานิตย์กล่าวว่า แน่นอน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงบประมาณ ทุกเรื่องได้กำชับกันมาตลอด เรื่ององค์ประชุมนั้นเป็นเรื่องสำคัญ การเมืองหลังจากนี้ไปหากผู้แทนฝ่ายรัฐบาลไม่อยู่ในห้อง ฝ่ายค้านขอตรวจสอบองค์ประชุมและเกิดองค์ประชุมล่ม ถือเป็นความเสียหายที่ต้องรับผิดชอบ ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่และเป็นความรับผิดชอบอย่างรุนแรงสำหรับผู้เป็นตัวแทนราษฎร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ถามจันทร์ส่องหล้าจะกล้าไหม? มี 3 คน เหมาะนั่ง ‘รมว.ต่างประเทศ’

ทำท่าจะล่มปากอ่าว เสียฤกษ์หมด แต่เมื่อเป็นไปแล้วคือรัฐมนตรีต่างประเทศลาออก หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าตั้งรัฐมนตรีไม่ถึง 24 ชั่วโมง