ศาลยกคำร้องพท.แก้112 สั่งส่งเอกสารเพิ่มยุบกก.

สะดุ้งกันเป็นแถว!   "เศรษฐา" กล่าวถ้อยแถลงเวทีสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย ไปเกาหลีใต้ ยืนยันประชาธิปไตยที่ใช้ในที่หนึ่งอาจจะไม่ได้เหมาะกับการใช้ในทุกที่ ทุกคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายเดียวกัน เป็นความท้าทายระหว่างรุ่น ขณะที่เพื่อไทยเฮ! ศาล รธน.ไม่รับวินิจฉัยปมหาเสียงแก้ ม.112

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 09.27 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโซล ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงผ่านบันทึกวีดิทัศน์ ในการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย ครั้งที่ 3 (The 3rd Summit for Democracy) ภายใต้หัวข้อหลัก Democracy for Future Generations ตามคำเชิญของนายยุน ซ็อกยอล (H.E. Mr. Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เป็นตัวแทนของประเทศร่วมงานการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยเป็นครั้งแรก การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยเป็นก้าวสำคัญในการตอกย้ำค่านิยมประชาธิปไตย รัฐบาลไทยมุ่งมั่น ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ทุกวันนี้ประชาธิปไตยเผชิญหน้ากับความท้าทาย ความไม่เท่าเทียมที่เพิ่มมากขึ้น และผลจากโซเชียลที่ทำให้เกิดความแตกแยก

นายเศรษฐากล่าวว่า โดยความท้าทายเหล่านี้ 1.ประชาธิปไตยภายใต้หลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วมของพลเมือง สังคมที่มีส่วนร่วม หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชน ย้ำว่าประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนในหลากหลายมิติ สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รวมถึงสิทธิทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ยอมรับความท้าทายและข้อจำกัดในอดีต ซึ่งรัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสิทธิดังกล่าวด้วยการต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า Universal Health Coverage” และ “การศึกษาสำหรับทุกคน Education for All” ทั้งนี้ ตนภาคภูมิใจกับความคืบหน้าของร่างกฎหมายความเท่าเทียมในการแต่งงาน ร่างกฎหมายนี้จะช่วยผสานความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ และส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคทางสังคมในไทยมากขึ้น

นายเศรษฐากล่าวว่า 2.ประชาธิปไตยเป็นกระบวนการต่อเนื่อง มิใช่จุดหมายปลายทาง การมีประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต้องใช้ความพยายามและการบำรุงเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มความคาดหวังของประชาชน อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศที่เคยเผชิญบาดแผลทางประชาธิปไตย การจัดการกับความคาดหวังของสาธารณชนและการบำรุงเลี้ยงประชาธิปไตย ถือเป็นความพยายามที่ต้องใช้ความทุ่มเทและความมุ่งมั่นอันแน่วแน่

นายเศรษฐากล่าวว่า 3.ประชาธิปไตยที่ใช้ในที่หนึ่งอาจจะไม่ได้เหมาะกับการใช้ในทุกที่ แต่ส่วนสำคัญคือ หลักการประชาธิปไตยต้องเป็นหนึ่งเดียว และเป็นสากล เราเชื่อในคุณค่าของประชาธิปไตย แต่ทั่วโลกมีประชาธิปไตยและระบบการเมืองที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ทุกคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายเดียวกัน ซึ่งเป็นความท้าทายระหว่างรุ่น ครอบคลุมตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความแตกแยกทางดิจิทัล จึงเห็นว่าสิ่งที่ทั่วโลกต้องการในขณะนี้คือความร่วมมือระหว่างประเทศ ความร่วมมือพหุภาคี และความร่วมมือด้านมนุษยธรรมที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผู้นำต้องรับฟังและเคารพเจตจำนงของประชาชน รวมถึงต้องฟังจากเยาวชนมากขึ้น เพราะนั่นคือวิธีที่รับประกันได้ว่าประชาธิปไตยจะเติบโตต่อไป และเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาของคนรุ่นต่อไปในอนาคต

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ อุปนายกสมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย และนายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เข้าพบ เพื่อให้รัฐบาลส่งเสริมและต่อยอดการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับควายไทย

โดยควายที่นำมาในวันนี้ เป็นควายเผือกอายุ 4 ปี 11 เดือน มีน้ำหนัก 1.5 ตัน หรือ 1,500 กิโลกรัม ซึ่งมีราคาสูงถึง 18 ล้านบาท มีชื่อว่า ‘โก้ เมืองเพชร’ และเคยแสดงภาพยนตร์เรื่อง 'มนต์รักลูกทุ่ง' ซึ่งเป็นควายที่อายุยังน้อย สามารถโตได้อีก

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้กล่าวว่า “ไม่เคยทราบเลยว่ามีควายที่สวยขนาดนี้มาก่อน” และหันไปถามนายจิตตนาถว่า “ยังมีอีกเยอะเลยใช่ไหม”

นายจิตตนาถตอบว่า “ครับ ตอนนี้คนหันมาเล่นควายกันเยอะ จึงอยากผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ให้คนไทยรู้จัก และอยากนำมาที่งานสงกรานต์ข้าวสาร เพื่อฉีดน้ำเล่นน้ำกับชาวต่างชาติ”

นายกรัฐมนตรีจึงถามถึงเรื่องความปลอดภัยว่า “ไม่ดุใช่หรือไม่” ทำให้นายจิตตนาถตอบว่า "ไม่ครับ ชอบน้ำมาก” นายกรัฐมนตรีจึงตอบว่า “ดีเลย ถ้าทำอย่างปลาคาร์ปอย่างญี่ปุ่นได้ก็ดี”

นายจิตตนาถจึงเสนอให้มีการทำโรดโชว์ควายไทย ถ้าทำได้ คนก็จะมาซื้อพันธุ์ควายเรา ทั้งประเทศจีน ลาว เวียดนาม

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แน่นอนว่าต้องส่งเสริม พร้อมถามกลับสื่อมวลชนว่า พวกท่านดูแล้วรู้สึกอย่างไร  เพราะพัฒนามาได้ดี พร้อมฝากนายชัย  วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ประสานไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปโรดโชว์ที่ประเทศจีน และขอให้ทำช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์เลย

ที่รัฐสภา เกียกกาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยได้มีการส่งสัญญาณถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ว่ายังไม่ได้คุยหรือหารือในเรื่องนี้ ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร การปรับครม.ในรัฐบาลผสม ทางหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องให้เกียรติกับทางพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าท่านจะปรับ ครม.เมื่อไหร่ก็ต้องแจ้ง รวมถึงพิจารณาว่าในการทำหน้าที่ของพวกเราจะมีการปรับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับสัญญาณอะไร

เมื่อถามว่า มองว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้จะถือเป็นการพิสูจน์ผลงานรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มองว่ารัฐมนตรีทุกคนทำงานหนักมาก อย่าไปวัดว่าคนที่ทำงานหนักคือคนที่ออกข่าวบ่อย บางคนพูดไม่เก่ง ไม่อยากพูด แค่ก้มหน้าก้มตาทำงาน

เมื่อถามอีกว่า ทางพรรคภูมิใจไทยได้มีการตรวจการบ้านรัฐมนตรีของพรรคอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า เราประเมินทุกวัน ซึ่งในส่วนของรัฐมนตรีของพรรคเราได้มีการแจ้งตั้งแต่วันที่เข้ามาแล้วว่าเราวัดกันที่ผลงาน ซึ่งทุกคนจะต้องทุ่มเทกับงานที่ได้รับมอบหมาย และต้องทุ่มเทให้กับพรรคในการลงไปช่วย สส.ลงพื้นที่ ถ้าใครไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวก็จะถูกพิจารณา โดยในวันที่ 24 มี.ค.นี้ก็จะมีการประชุมพรรคเรา และก็จะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเป็นอีกบริบทหนึ่ง ก็จะมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน เราจะต้องเดินหน้าและปรับปรุงการทำงานทุกวัน

วันเดียวกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวการพิจารณาเรื่องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้อง) ตามคำแถลงการณ์ของนายชัยเกษม นิติสิริ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2564 เกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งมีตราพรรคผู้ถูกร้องอยู่ด้วย มีลักษณะเป็นการสนับสนุนการกระทำที่อาจนำไปสู่การยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในลักษณะที่ไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ นอกจากนี้ ผู้ร้องตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า ผู้ถูกร้องยังคงไว้ซึ่งคำแถลงการณ์ของนายชัยเกษม นิติสิริ ในสื่อโซเชียลของผู้ถูกร้องจนถึงปัจจุบัน เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ไม่ปรากฏว่านายชัยเกษม นิติสิริ ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคและไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้ถูกร้อง และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องมีความมุ่งหมายหรือการกระทำใดๆ ที่น่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49  วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

ขณะที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญยังไม่พิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีเอกสารบางรายการที่ กกต.ส่งไปไม่ชัดเจนว่า ได้ตรวจสอบแล้วว่าเอกสารที่ไม่ชัดเจนดังกล่าวเป็นเอกสารประกอบคำร้องที่นายเรืองไกรยื่นร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล โดย กกต.เห็นว่าคำร้องของเรืองไกรและเอกสารประกอบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนยุบพรรคก้าวไกลที่ กกต.พิจารณาและมีมติ จึงได้ส่งเอกสารทั้ง 2 ส่วนนี้ไปพร้อมกับคำร้องยุบพรรคที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย เมื่อทางศาลรัฐธรรมนูญให้ กกต.ดำเนินการส่งเอกสารที่ชัดเจนภายใน 7 วัน ทางสำนักงานก็จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว

‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน