เศรษฐาลั่นไม่หนีซักฟอก ‘อิ๊งค์’ทำใจเจอซัดปมพ่อ

“เศรษฐา” สยบข่าวหนีซักฟอก บอกมาแน่นอน “อุ๊งอิ๊ง” เชื่อ สว.ฟาดปม “พ่อแม้ว” แน่ แต่ไม่เป็นไร  “สนธิญา” ส่งข้อมูลสภาสูงอภิปราย “ธรรมนัส” 3 ปม “ทนายอั๋น” แจ้งความเอาผิด กกต.ยุบพรรคก้าวไกล

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง   กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าจะไม่เดินทางมาฟังการอภิปรายทั่วไปของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตามมาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค.ว่า มาแน่นอน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกังวลหรือไม่ว่า สว.จะมีการนำเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาอภิปรายในวันที่ 25 มี.ค.ว่า ก็อาจจะไม่พลาด ซึ่งไม่เป็นไร ทุกเรื่องตอบได้แน่นอน

ขณะที่ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังยื่นข้อมูลเอกสารให้ สว.บางคนเพื่อใช้ในการอภิปรายว่า มายื่นเพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในกรณีมีผู้เลี้ยงหมูยื่นถวายฎีกา หากจำได้ ร.อ.ธรรมนัสระบุเมื่อเดือน ธ.ค.66 ว่าจะเปิดเผยชื่อรัฐมนตรีที่อยู่เบื้องหลังค้าหมูเถื่อน หรือบริษัทใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามรายชื่อดังกล่าว กลับตอบว่าไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เพราะกลัวว่าจะถูกฟ้องร้อง

นายสนธิญากล่าวว่า ประเด็นที่ 2 คือกรณีชาวประมงประมาณ 22 จังหวัด ที่ติดชายทะเล จะยื่นให้นายกฯ  แก้ไขราคาสัตว์น้ำ หรือการนำเข้าสัตว์น้ำ และประเด็นที่ 3 กรณีที่ สปก.4-01 ทับที่ป่าสงวนหรืออุทยานแห่งชาติ 142 แห่ง หรือมรดกโลก จำนวน 3 แห่ง เรื่องนี้ตนได้มีการยื่นต่อศาลปกครองกลาง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยให้ชะลอหรือยุติกรณีกระทรวงเกษตรฯ จะออก ส.ป.ก.  ออกครุฑเขียวให้ประชาชน จนกว่าจะเคลียร์ปัญหาระหว่างหน่วยงาน 

“ผมคิดว่าประเด็นนี้วุฒิสภาน่าจะฝากลายมือ ฝากการตรวจสอบ ซึ่งไม่กี่เดือนข้างหน้าวุฒิสภาก็จะครบวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว ประเด็นนี้จึงยื่นเพื่อให้วุฒิสภามีการตรวจสอบ ซึ่งเข้าใจว่า สว.บางท่านไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือไม่มีเป้าหมายในการเข้าร่วมรัฐบาล” นายสนธิญากล่าว และว่า จากการติดตามการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ที่มีปัญหามากที่สุดคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าไม่ได้ เป็นการรับงานมาตีกระทรวง นายสนธิญากล่าวว่า อย่างที่รู้กันว่ารัฐมนตรีมีเครือข่ายค่อนข้างมาก แล้วถ้าตนรับงานไม่รู้จะรับงานจากใคร แล้วตนจะได้ผลประโยชน์อะไร

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากนายทะเบียนพรรคการเมืองกรณีที่แจ้งว่า กกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเกี่ยวกับพรรคก้าวไกลแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ กกต.โทร.ประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วย โดยตนเห็นว่าเพื่อให้การพิจารณาในเรื่องดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญมีพยานหลักฐาน ประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม จึงขอส่งสำเนาคำร้องที่เคยยื่นต่อ ป.ป.ช.มาให้ กกต. เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบการพิจารณาวินิจฉัยด้วย โดยได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ กกต.ทางไปรษณีย์ EMS แล้ว

วันเดียวกัน นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกองเชียร์พรรคก้าวไกล แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับ กกต. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่ดูแลควบคุม และ/หรือติดตามนโยบายของพรรคก้าวไกล จนนำสู่การมีวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกฎหมายประมวลอาญา มาตรา 112

นายภัทรพงศ์กล่าวว่า มาแจ้งความเอาผิดกับ กกต. นำโดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. จากกรณีการยื่นเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ประเด็นการหาเสียง มาตรา 112 ในการเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ตนเห็นว่า กกต.มีหน้าที่ในการดูแลควบคุมนโยบายและกิจการของนักการเมืองให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 224 (5) (6) และ กกต.มีหน้าที่ในการตรวจสอบและติดตาม ข้อบังคับของพรรคการเมืองและนโยบาย ก่อนการหาเสียงว่าพรรคการเมืองใดมีนโยบายที่ละเมิด หรือผิดต่อกฎหมาย และรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งทางพรรคก้าวไกลส่งนโยบายก่อนการหาเสียงให้ทาง  กกต.ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ทาง กกต.กลับเพิกเฉยและละเลยในการปฏิบัติ ดูแลควบคุมนโยบายของพรรคการเมือง

“ถ้าในการหาเสียงของพรรคก้าวไกลในนโยบายมาตรา 112 ผิดกฎหมาย กกต.ก็ควรตรวจสอบตั้งแต่แรก และชี้แจงไปทางพรรคว่านโยบายมาตรา 112 ผิดต่อการหาเสียง แต่พอหลังเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยกลับค่อยมาบอกว่านโยบายมาตรา 112 ผิด ทำให้เห็นว่าทาง กกต. ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ในการตรวจสอบนโยบายของพรรคการเมือง จึงทำให้ตนได้มาแจ้งความเอาผิดกับ กกต.ว่าผิดกฎหมายมาตรา 157 หรือไม่” นายภัทรพงศ์ระบุ

เขากล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นในเรื่องของการที่ตนได้ไปร้องยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ทาง กกต.เผยว่าการยุบพรรคภูมิใจไทยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่มีการวินิจฉัยว่าจะยุบพรรคภูมิใจไทย แต่ตัดมาที่พรรคก้าวไกล กลับอยู่ในขั้นตอนขั้นที่ 7 ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อย ตนได้มายื่นเรื่องยุบพรรคภูมิใจไทยก่อนที่นายเรืองไกรจะมายื่นเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ห่างกันประมาณครึ่งเดือน จึงทำให้เห็นพฤติการณ์ของ กกต.ว่าไม่มีความเป็นธรรม และเลือกปฏิบัติ จึงทำให้ตนต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ กกต.ในวันนี้ตามมาตรา 157

จากนั้นนายภัทรพงศ์ได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อที่จะยื่นเรื่องแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ กกต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว

‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน