‘บิ๊กโจ๊ก’ประกาศเดินสาย

กรุงเทพฯ ๐ “บิ๊กโจ๊ก” โผล่เลี้ยงข้าวมันไก่ร้านดังมื้อกลางวันให้กับบ้านพักเด็กและครอบครัว ขณะที่ ป.ป.ช.ยังไม่เห็นสำนวนอื่นที่ ตร.ส่งให้ รู้แค่เพียงข่าว  ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์เท่านั้น หนักใจว่าพยานหลักฐานจะมีครบและเพียงพอที่จะเชื่อมโยงต่อไปได้หรือไม่ อย่างไร

วันที่ 23 มีนาคม 2567 นายนิวัติไชย  เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยหลังมีกระแสข่าวการยื่นสำนวนคดีตรวจสอบเอาผิดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่พบสำนวนอื่นๆ ที่ส่งมา ทราบแต่เพียงข่าวที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เท่านั้น โดยชี้ว่าหากเป็นสำนวนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ก็สามารถส่งมาได้ แต่หากไม่มั่นใจ ป.ป.ช.ก็ยินดีที่จะช่วยตรวจสอบให้ ตอนนี้ในมือ ป.ป.ช.มีเพียงสำนวนที่กล่าวโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กับพวกที่มีการเรียกรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์ และสำนวนที่มีการกล่าวโทษ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย

เขาบอกว่า ความคืบหน้าของคดีขณะนี้ คณะกรรมการฯ มีมติตรวจรับสำนวน ต่อไปคือกระบวนการตรวจสอบ ที่จะพิจารณารายละเอียดดูว่าสำนวนที่ตำรวจส่งมาครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ครบ ก็ต้องขอเพิ่มไปยังพนักงานสอบสวน และถ้าหากมีมูลความผิด ก็สามารถสั่งไต่สวนได้เลย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบก็ทราบว่าหลักฐานในสำนวนคดียังไม่ครบถ้วน

ส่วนขาดมากน้อยเพียงใด นายนิวัติไชยเผยว่า ไม่ทราบว่าที่อยู่กับพนักงานสอบสวนมีเท่าใด ทราบเพียงจำนวนที่อยู่ในมือของ ป.ป.ช.เท่านั้น พร้อมเปิดเผยว่าเร็วๆ นี้ จะมีการส่งหนังสือเพื่อขอเอกสารและพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ หาก ป.ป.ช.เห็นว่าหลักฐานจากพนักงานสอบไม่เพียงพอ ก็สามารถค้นหาพยานหลักฐานได้ด้วยตนเอง

สำหรับความโปร่งใสในการทำคดีนั้น  เลขาธิการ ป.ป.ช.แจงว่า ทุกอย่างในการทำงานของกระบวนการยุติธรรม จะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่ามีความสำคัญมากน้อยเพียงใด หากส่งหลักฐานมา แต่ไม่นำเข้าสำนวนหรือตรวจสอบ ผู้ถูกร้องก็สามารถตรวจสอบและโต้แย้งได้ อีกทั้ง ป.ป.ช.เองก็มีหน้าที่ในการวินิจฉัย แต่ยังไม่สิ้นสุด ต้องส่งเรื่องไปยังสำงานอัยการสูงสุดและศาล ส่วนความหนักใจในการทำคดี ตนมองว่าหนักใจเพียงแค่พยานหลักฐานจะมีครบและเพียงพอที่จะเชื่อมโยงต่อไปได้หรือไม่ อย่างไร

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร โดยนำข้าวมันไก่จากร้านดังย่านประชาชื่นไปเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กๆ และพูดคุยกับเด็กๆ ที่นั่งรับประทานอาหารอย่างเป็นกันเอง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การได้ช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส ทุกคนสามารถช่วยกันทำได้คนละไม้คนละมือ เพราะเด็กเหล่านี้ก็คืออนาคตของประเทศ  พวกเขาจะได้เติบโตมาท่ามกลางความรักที่สังคมมอบให้ และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อประเทศไทย

การทำความดีด้วยการแบ่งปันความสุขให้กับผู้ด้อยโอกาส ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะทำให้ผู้ให้มีความสุข ผู้รับก็  และการแบ่งปันก็ไม่ใช่เรื่องยาก มีก็ช่วย พร้อมก็ช่วย ถ้าหากทุกคนช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย ก็จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่

โดยในช่วงเย็นวันนี้ ก็จะไปพบปะกับพี่น้องชาวปักษ์ใต้ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง  ซึ่งการพบปะกับพี่น้องชาวใต้ ก็เป็นอีกบทบาทหน้าที่ของตน ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ซึ่งตนก็ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้ามีโอกาสจะเดินสายพูดคุยและรับประทานอาหารกับเพื่อนสมาชิกในสมาคมให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เพราะ ลูกหลานชาวใต้ก็กระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาค จากการย้ายถิ่นฐาน การสมรส การศึกษา ไปจนถึงการเดินทางไปทำงานต่างถิ่น

ดังนั้นการจะขับเคลื่อนสมาคมให้มีความเข้มแข็ง ก็ต้องพบปะกับสมาชิกสร้างความคุ้นเคยและมิตรไมตรีจิตที่มีต่อกัน โดยในอนาคตจะวางแผนทำกิจกรรมร่วมกันในแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างสังคมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง