เศรษฐาโยนขี้นช. ให้รมต.ตอบ‘สว.’

จับตา สว.ซักฟอกรัฐบาลปม "น.ช.ทักษิณ" จ้องขยี้สร้างระบบสองมาตรฐาน ผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา 20 ล้านล้านบาท “คำนูณ-อดีตเสนาธิการ ทร.” รอกะซวกปัญหา MOU 44-กลุ่มทุนพลังงาน “ประพันธุ์” ลั่นเปิดแผลนโยบาย ส.ป.ก. โฉนดทองคำประเคนที่ดินรัฐให้นายทุนงาบ 22 ล้านไร่  “เศรษฐา” กำชับ รมต.เข้าสภาตอบคำถาม สว. หากอภิปรายโยง “ทักษิณ” โยน “พีระพันธุ์-ทวี” ชี้แจง ขอทุกฝ่ายรอฟัง “จุลพันธ์” แจงไทม์ไลน์เงินดิจิทัล วันจันทร์นี้ "ภูมิธรรม" ดักทางอย่าพาดพิงนายใหญ่ อ้างเป็นคนนอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันจันทร์ที่ 25   มีนาคมนี้ ที่ประชุมวุฒิสภาจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153  ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 22  มีนาคมที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะมาฟังและชี้แจงประเด็นที่สมาชิกสภา (สว.) จะอภิปรายแน่นอน

สำหรับการอภิปรายครั้งนี้ ญัตติที่ สว.  ยื่นต่อประธานวุฒิสภา แบ่งหัวข้อการอภิปรายออกเป็น 7 ประเด็น ดังนี้ 1.ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องของประชาชน 2.ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย 3.ปัญหาด้านพลังงาน 4.ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม 5.ปัญหาด้านการต่างประเทศและท่องเที่ยว 6.ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 7.ปัญหาการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ

ที่น่าสนใจพบว่า ในญัตติดังกล่าว หัวข้อที่ 2 คือปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ระบุไว้ในข้อ 2.1 ว่า "ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามคำพิพากษาที่สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน" ที่คาดว่า สว.จะใช้หัวข้อดังกล่าวอภิปรายกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือหนึ่งปี  แต่สุดท้ายไม่ได้มีการติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว หัวข้อดังกล่าวยังเขียนอีกว่า มีการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยพวกพ้อง หาประโยชน์ส่วนตน สร้างมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และยังระบุถึงเรื่องนโยบายการเปลี่ยน สปก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตรกรรม อาจเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน รวมถึงการแก้ปัญหาขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์จากต่างประเทศ (หมูเถื่อน) เป็นต้น

ส่วนเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน การอภิปรายจะอยู่ในหัวข้อที่หนึ่ง เรื่อง ปัญหาด้านเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชน

นอกจากนี้ หัวข้อปัญหาพลังงาน ก็มีการระบุถึงเรื่องความไม่ชัดเจนในการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นแหล่งพลังงานได้ ที่ก็คือ สว.จะอภิปรายเรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา พื้นที่ 26,000 ตารางกิโลเมตร ที่คาดว่ามีก๊าซธรรมชาติอยู่ในปริมาณ 11 ล้านล้านคิวบิกฟุต ที่มีผลประโยชน์ร่วม 20 ล้านล้านบาท ตลอดจนเรื่องกลุ่มทุนพลังงานมีอิทธิพลกับการเมือง ทำให้กลุ่มทุนกำหนดราคาพลังงานในอัตราที่สูง จนทำให้ประชาชนแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงเกินจริง     

   โดยมีรายงานว่า ในแต่ละประเด็น ทางกลุ่ม สว.มีการแบ่งทีมกันอภิปราย โดยจะมีหัวหน้าทีมในการรวบรวมข้อมูลและกำหนดประเด็นการอภิปรายไว้ เช่น เรื่องกรณีนายทักษิณ ชินวัตร สว.ตัวหลักที่จะอภิปรายคือ นายสมชาย แสวงการ  ขณะที่เรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล  โดยเฉพาะกรณีปัญหาเรื่องบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชา หรือที่เรียกกันว่า MOU 44 ที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลทักษิณ  การอภิปรายจะนำโดยนายคำนูณ สิทธิสมาน และ พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ อดีตเสนาธิการทหารเรือ เป็นต้น

แฉโฉนด สปก.ประเคนนายทุน

 ด้านนายประพันธุ์ คูณมี สว. เปิดเผยว่า ตนจะอภิปรายเรื่องนโยบายแปลงส.ป.ก.เป็นโฉนด เพราะตนติดตามเรื่องนี้มานานแล้ว จะชี้ให้เห็นว่า ส.ป.ก.ที่เริ่มมีตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งตอนนั้นมีการออก พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 เพราะมีเจตนาที่ต้องการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรที่ยากไร้ไม่มีที่ทำกิน และมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ เป็นคนจน แต่ปัจจุบันมีการบิดเบือนเจตนารมณ์ของการบิดเบือนการปฏิรูปที่ดิน เปิดช่องทางและเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุน กลุ่มธุรกิจเข้าไปครอบครองที่ดินแปลงงามๆ จนทำให้มีที่ดินจำนวนมากโดนครอบครองโดยนายทุนเป็นร้อยไร่ หรือกลุ่มนักการเมือง กลุ่มนักการเมือง มีการบุกรุกเข้าไปในที่ป่าเพื่อครอบครองที่ ส.ป.ก. แล้วมีการเชิดนอมินี คือลูกจ้างของตนเองหรือเชิดเกษตรกรให้เป็นนอมินี  มีชื่อในเอกสาร ส.ป.ก.แทนตัวเอง มีการรุกเข้าไปในที่ป่าหลายล้านไร่ โดยไม่ยอมคืนที่ให้กับกรมอุทยานแห่งชาติฯ

 “ส่วนการให้ ส.ป.ก.มาแปลงเป็นโฉนดจะเป็นการเปลี่ยนเอาที่ดินของรัฐที่มาจัดสรรให้ประชาชน เกษตรกร ไปเป็นที่ของเอกชน สุดท้ายจะมีการออกโฉนดในที่สุดในบั้นปลาย จนทำให้กลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลไป พูดง่ายๆ คือการเบียดบังเอาที่ดินของรัฐเกือบ 22 ล้านไร่ทั่วประเทศไปเป็นสมบัติส่วนบุคคล ที่จะเอาไปใช้ในกิจการใดๆ ก็ได้” นายประพันธุ์  กล่าว

นายคำนูณ สิทธิสมาน สว. กล่าวว่า การอภิปรายจะเป็นไปตามหนังสือที่ได้ขอเปิดอภิปรายทั้ง 7 ประเด็น โดยตนจะอภิปรายในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยและกัมพูชา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการโจมตีรายบุคคล จะพูดในเชิงหลักการว่า เรื่องพื้นที่ทับซ้อนเป็นหนึ่งนโยบายตามที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงต่อสภาไว้ ประกอบกับการที่นายเศรษฐาปาฐกถาเน้นแต่เรื่องพลังงาน จึงต้องการอภิปรายถึงหลักการสำคัญในการเจรจาระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ และเพื่อไม่ให้ประเทศเกิดความเสียหาย  เพราะขณะนี้ก็มีแนวความคิดที่ต้องการเจรจาแค่เรื่องผลประโยชน์จากปิโตรเลียมในอ่าวไทย โดยอาจพักการเจรจาเรื่องเขตแดนไว้ก่อน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแนวความคิดเช่นนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายในอนาคต

ส่วนกรอบระยะเวลาในการอภิปรายนั้น นายคำนูณกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะมี สว.ร่วมอภิปราย 27 คน โดยแต่ละคนจะได้เวลาในการพูดแตกต่างกันไป เป็นการตกลงกันคร่าวๆ ว่าจะพูดกันประมาณกี่นาที แล้วจึงมาเฉลี่ยกัน ซึ่งระยะเวลาในการพูดก็จะไม่เท่ากัน

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. เปิดเผยว่า ตนจะกล่าวเปิดต่อที่ประชุมเป็นคนแรก ถึงเรื่องหลักการและวัตถุประสงค์ในการเปิดอภิปรายทั่วไป รวมถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาล และข้อเสนอแนะต่างๆ ส่วนในรายละเอียด ตนเป็นเพียงคนวางตัวผู้อภิปราย คงไม่ได้เน้นอะไรเป็นพิเศษ อยู่ที่ สว.แต่ละคน ที่เตรียมประเด็นเอาไว้ มีการตั้งทิศทางไว้ ให้รัฐบาลรับทราบ รับรู้ปัญหาที่ สว.นำเสนอในด้านต่างๆ และอาจจะขอให้รัฐบาลแถลงชี้แจงตามที่ สว.อภิปราย ว่าจะนำไปดำเนินการต่อไปในการบริหารประเทศอย่างไร

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สว. เปิดเผยว่า จะอภิปรายคนแรกในหัวข้อเศรษฐกิจ   โดยจะเน้นไปที่นโยบายระยะปานกลางและระยะยาวของรัฐบาล จะถามรัฐบาลว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้วตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา แล้วจึงให้ข้อเสนอแนะ หลังจากนั้นผู้อภิปรายคนถัดไปจะลงรายละเอียดในแต่ละนโยบายหรือโครงการอื่นๆ ของรัฐบาล

โยน 'พีระพันธุ์-ทวี' แจงปม 'ทักษิณ'

ที่บริเวณเขาเขื่อนลั่น อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของครม. สำหรับการอภิปรายทั่วไปของ สว. ว่า ได้มีการกำชับรัฐมนตรีให้อยู่ที่สภาทุกท่าน เพื่อพร้อมชี้แจงตอบคำถาม ซึ่งตนจะพูดในด้านเศรษฐกิจ รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ยืนยันว่าทุกคนมีความพร้อม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการอภิปรายอาจมีการเชื่อมโยงไปถึงนายทักษิณเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย นายเศรษฐากล่าวว่า จะให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงในเรื่องดังกล่าว มั่นใจว่าเรายึดตามระบบยุติธรรมอยู่แล้ว ทั้งนี้ไม่ได้สั่งการเป็นพิเศษ เพราะมั่นใจว่าทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว และทุกท่านรู้หน้าที่อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงเรื่องของเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นายเศรษฐากล่าวว่า ในวันที่ 25 มี.ค. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง จะแถลงเรื่องดังกล่าวที่สภา ขณะนี้ปลัดกระทรวงการคลังกำลังทำไทม์ไลน์อยู่ โดยจะมีการแถลงทั้งหมดแน่นอน เข้าใจว่าทุกคนมีความเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่ ส่วนทาง สว.พุ่งเป้าไปในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ก็พร้อมตอบ แต่ขอให้ทราบคำถามก่อนถึงจะตอบได้ แต่ก็มั่นใจว่าทีมของตนพร้อมที่จะตอบ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่นายเศรษฐาอาจจะไม่ควบตำแหน่ง รมว.การคลังแล้ว นายเศรษฐากล่าวว่า ถามอีกตนก็ตอบอีก ตอนนี้ทุกคนยังเป็นรัฐมนตรีเหมือนเดิม และทุกท่านก็ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น

 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการยื่นญัตติขออภิปรายทั่วไปของ สว.ว่า ถือเป็นวาระปกติ เพราะ สว.ชุดนี้กำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว เชื่อว่า สว.จะอภิปรายแสดงความคิดเห็น รวมทั้งเสนอแนะข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลทำงานมาได้เพียง 6-7 เดือน ดังนั้น เราคงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เรามีหน้าที่ชี้แจง รับฟังและตอบคำถาม โดยที่ไม่มีเรื่องต้องโต้แย้งอะไร

เมื่อถามว่า หาก สว.มีการอภิปรายพาดพิงไปถึงนายทักษิณ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในความเป็นจริง สว.ไม่ควรอภิปรายพาดพิงไปถึงบุคคลภายนอก ซึ่งนายทักษิณไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่ได้มีอิทธิพลกับการบริหารงานของรัฐบาล ท่านเป็นเพียงบุคคลที่มีความหวังดีกับประเทศชาติ ซึ่งท่านก็เคยบอกว่าพร้อมให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง ดังนั้น สว.ไม่ควรไปพูดพาดพิงถึงท่าน เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น

ห้ามพาดพิง 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง'

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า หากมีการอภิปรายพาดพิงถึงนายทักษิณ เราก็จะได้มอบหมายให้ รมว.ยุติธรรมเป็นผู้ตอบคำถาม ส่วนหากพาดพิงถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในกรณีที่เดินทางไปประเทศกัมพูชานั้น ขอย้ำว่าการอภิปรายต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย เนื่องจากญัตติที่ทาง สว. ยื่นมาเป็นญัตติที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หากมีการอภิปรายนอกประเด็น เราก็ต้องลุกขึ้นขอให้อภิปรายอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการขอเปิดอภิปรายทั่วไปของ สว.ว่า ถือเป็นข้อดีที่วุฒิสมาชิกใช้กลไกของรัฐสภาในการตรวจสอบถ่วงดุลการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ถือเป็นกลไกปกติในระบอบประชาธิปไตยที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะทำหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของ ครม. ดังนั้นในส่วนรัฐมนตรีของ รทสช. ก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะชี้แจงและตอบข้อซักถามของ สว. จึงไม่ได้มีความกังวล และมีความยินดีในการเปิดอภิปรายของ สว.

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 3 คนที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาบริหารงานใน 3 กระทรวงพร้อมและยินดีที่จะตอบข้อซักถามของ สว.ทุกคนโดยไม่มีความวิตกกังวลใดๆ และเป็นโอกาสที่จะได้ชี้แจงถึงการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลว่า จากที่หลายสถาบันองค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงภาครัฐและเอกชน อาทิ ธนาคารโลก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต่างศึกษาวิเคราะห์ประมาณการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของประเทศไทยในปีนี้จะลดลงจากเดิมกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ ลงมาเหลือกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนถึงการบริหารของรัฐบาลตลอด 6 เดือนว่าล้มเหลวอย่างชัดเจน ทำสำเร็จเพียงเรื่องเดียวคือช่วยนักโทษที่เป็นอดีตนายกฯ แม้ที่ผ่านมานายเศรษฐาเดินสายไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ซึ่งช่วงแรกเดินทางไปโรดโชว์ขายโครงการแลนด์บริดจ์ แต่สุดท้ายไม่มีใครสนใจ จากนั้นเปลี่ยนเป็นเดินแฟชั่นโชว์ขายผ้าขาวม้า นายกฯ อาจรู้สึกภูมิใจนิตยสารดังให้สมญานามเป็นเซลส์แมน แต่สำหรับผมรู้สึกอายคนทั้งโลก เพราะนายเศรษฐาเป็นได้เพียงเซลส์แมนขายฝัน เป็นผู้นำแฟชั่น แต่ไม่ใช่ผู้นำประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว

‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน