ทักษิณเข้าเพื่อไทย! 26มี.ค.นักโทษเปิดคอร์สสั่งสอน/‘นิด’กัดฟันโต้โพลนิด้า

สส.เพื่อไทยดี๊ด๊า! “ทักษิณ” ดีเดย์เข้าพรรค 26  มี.ค. ปัดครอบงำแค่ให้คำแนะนำดีๆ นิด้าโพลเผย "พิธา" ยังครองอันดับ 1 ปชช.หนุนนั่งนายกฯ "เศรษฐา​" ชี้ข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนทำรั้งอันดับสาม   รับไม่พอใจผลงานตัวเอง-ครม.​ จ่อปรับกลยุทธ์พีอาร์ รองบ 67 ออก​ มั่นใจเปรี้ยงแน่  หอบคณะเยือนโคราช ไหว้ย่าโมปลื้มเสียงเชียร์เพียบ "พีระพันธุ์" ปลุกสมาชิกรวมใจหนึ่งเดียว ชูปกป้องสถาบัน ลั่นอีก 6 เดือนสร้างประวัติศาสตร์พลังงานไทย

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ในวันที่ 26 มี.ค. ที่จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทยนั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย ในเวลา 13.45  น. เพื่อเปิดโอกาสให้ สส.เข้าพบ โดยอาจจะเป็นการทยอยเข้าพบเป็นกลุ่มๆ ตามรายจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด เพราะที่ผ่านมามี สส.จำนวนมากต้องการพบนายทักษิณเพื่อเยี่ยมเยียน ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบอดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น นายทักษิณจึงจะเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ สส.เข้าพบ จะมีความสะดวกกว่าการให้ สส.ไปพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้าที่นายทักษิณต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่กับครอบครัว

ซึ่งตรงกับที่ก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และบุตรสาวนายทักษิณ เคยระบุไว้ว่า อยากให้นายทักษิณได้เจอคนในพรรคบ้าง เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกัน หากอาการป่วยของนายทักษิณดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณในวันที่ 26 มี.ค.นั้น จะมาเพื่อให้ สส.พบเพื่อเยี่ยมเยียนอย่างเดียวเท่านั้น จะไม่เข้าไปร่วมประชุมพรรคหรือเกี่ยวข้องใดๆ กับการประชุมในวันดังกล่าว ทำให้ สส.เพื่อไทยต่างคึกคัก เตรียมพร้อมตบเท้าเข้าร่วมประชุมพรรคกันอย่างพร้อมเพรียง

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่นายทักษิณจะมาพรรคเพื่อไทยวันที่ 26 มี.ค. แต่ไม่แปลกอะไร เพราะอดีตนายกฯ เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย เมื่อมีโอกาสกลับมาก็คิดถึง สส. ถือว่าเป็นธรรมดาของปุถุชนคนหนึ่ง และหานายทักษิณเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นการดี เพราะ สส.หลายคนคิดถึงและอยากจะเจอกับอดีตนายกฯ อย่างไรก็ตาม คงไม่ได้เป็นการครอบงำพรรค เพราะการบริหารพรรคจะมีหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว การตัดสินใดๆ ต้องผ่านมติของกรรมการบริหารพรรค

ส่วนการที่นายทักษิณเข้าไปที่พรรคเพื่อไทย จะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ สส.ของพรรคหรือไม่นั้น นางมนพร กล่าวว่า แน่นอน เพราะ สส.ผูกพันกับท่าน และนโยบายดีๆ ที่มอบให้กับพี่น้องประชาชน เป็นสิ่งที่พวกเราจดจำ หากมีโอกาสได้เจอคงถามสารทุกข์สุกดิบ

"ก็ให้กำลังใจท่าน และให้ท่านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ใช้กำลังกายและสิ่งที่ได้สะสมมาตอนที่อยู่ต่างประเทศ เอาความทันสมัยและสิ่งดีๆ นำมาให้เราได้รับคำแนะนำจากท่าน มองว่าการมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่แนะนำสิ่งดีๆ ถือว่าต้องขอบคุณด้วยซ้ำ ที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์ มีความหลากหลายและความทันสมัย" นางมนพรระบุ

เมื่อถามว่า หากนายทักษิณแข็งแรงดีกว่านี้ จะมีโอกาสเชิญลงพื้นที่หรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า การลงพื้นที่ของท่านคงคิดถึงหลายคนที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยร่วมต่อสู้ทางการเมืองกันมา รวมทั้งพี่น้องประชาชน ที่เขียนจดหมายถึงตอนที่อดีตนายกฯ อยู่ต่างประเทศ อยากให้ท่านได้มาเยี่ยมพวกเขาเหล่านั้น

โพลยังเชียร์ 'พิธา' นายกฯ

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล”  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง  “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-13 มี.ค.2567 จากประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น  2,000 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 ระบุว่าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะมีความกล้าหาญ ตรงไปตรงมา บุคลิกเป็นผู้นำ และเป็นคนรุ่นใหม่ อันดับ 2 ร้อยละ 20.05 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) เพราะเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ, อันดับ 4 ร้อยละ 6.00 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีทัศนคติที่ดี และมีความเป็นผู้นำ, อันดับ 5 ร้อยละ 3.55 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ), อันดับ 6 ร้อยละ 2.90 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย), อันดับ 7 ร้อยละ 1.45 นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย), อันดับ 8 ร้อยละ 1.05 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) ร้อยละ 2.45 ระบุอื่นๆ ได้แก่ นายชัยธวัช ตุลาธน (พรรคก้าวไกล), นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา), นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์), นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์),  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ), นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และร้อยละ 2.05 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.45 ระบุว่าพรรคก้าวไกล, อันดับ 2 ร้อยละ 22.10 พรรคเพื่อไทย, อันดับ 3 ร้อยละ 12.75 ระบุว่ายังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 4 ร้อยละ 5.10 พรรครวมไทยสร้างชาติ, อันดับ 5 ร้อยละ 3.50 พรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 2.30 พรรคพลังประชารัฐ, อันดับ 7 ร้อยละ 1.70 พรรคภูมิใจไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 1.30 พรรคไทยสร้างไทย และร้อยละ 1.40 ระบุอื่นๆ อาทิ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า และไม่ตอบ/ไม่สนใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน

ทางด้านนายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงผลสำรวจความนิยมของนิด้าโพลว่า เราต้องรับฟังโพล เพราะผลโพลสะท้อนความคิดของประชาชน แต่การทำโพลมีหลายแบบ เช่น ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีความไม่แน่นอน เช่น เรื่องกลุ่มตัวอย่างที่อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ หรืออาจจะไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริง แต่ถือเป็นโพลโพลหนึ่ง​ ซึ่งเราต้องรับฟังและมีหน้าที่ที่ต้องทำต่อไป ถึงแม้จะทำงาน​ 6-7 เดือนแล้วก็ตาม อีกทั้งงบประมาณปี​ 2567 เพิ่งผ่านการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร​ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาอีกเดือนหนึ่งกว่าจะใช้งบประมาณได้ อย่างในวันนี้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพิ่งทราบว่า​งบประมาณเพิ่งผ่าน​ จะได้เงินค่าตอบแทนเพิ่ม​ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจรัฐบาลก็ได้​ ซึ่งยอมรับว่าต้องตั้งใจทำงาน และรับฟังเสียงของประชาชน

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาพอใจการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่พอใจการทำงานของตัวเอง ไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรีทุกคน เพราะทุกอย่างทำให้ดีขึ้นได้อีก เพราะอันนี้คือชีวิตจริง เราต้องไม่พอใจเรื่องพวกนี้ เพราะความเดือดร้อนของประชาชนยังมีอยู่ ในทุกเรื่องตัวเราเองต้องพยายามทำต่อ ถึงได้ลงมาในพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน จะได้นำไปปรับวิธีการทำงาน

เมื่อถามว่า ตั้งใจหรือไม่หลังงบประมาณปี 67 ผ่านสภา การทำงานจะเปรี้ยงขึ้นกว่าเดิม นายกฯ ตอบทันทีว่า  “มั่นใจครับ”

เศรษฐาจ่อปรับกลยุทธ์พีอาร์

ส่วนจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อทำให้เกิดกระแสขึ้นหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่าอิงกับกระแส​ เรื่องเสียงสะท้อนทุกอันต้องรับฟัง และต้องมีการปรับกลยุทธ์ แต่ไม่ใช่ปรับเพื่อให้กระแสดีขึ้น เป็นการปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ให้เศรษฐกิจดีขึ้น ให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมดีขึ้น มีการปรับตลอด

เมื่อถามว่า ต้องเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งทีมโฆษกประจำสำนักฯ ทีมสื่อสารคงเอาข้อมูลมาวิเคราะห์กันอีกครั้งหนึ่งว่าตรงไหน เราพูดน้อยเกินไปหรือไม่ เราทำเรื่องเยอะเกินไปหรือเปล่า เราเปิดงานเยอะเกินไปหรือเปล่า เราต้องโฟกัสบางเรื่องให้เยอะขึ้นหรือไม่ ทำเรื่องที่จะโดนใจประชาชน และการที่รัฐมนตรี 5-6 คนมาลงพื้นที่ พยายามที่จะผลักดันวิธีการแก้ไขปัญหาของประชาชน และเชื่อว่ามาโคราชอีกครั้ง ช่วงเดือน มิ.ย. ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นการประชุม ครม.สัญจร ที่น่าจะมีผลงานคืบหน้าได้ เพราะงบประมาณออกแล้ว

วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายเศรษฐาซึ่งสวมใส่เสื้อเสื้อเชิ้ตผ้าขาวม้า ฝ้ายหมักโคลน จาก อ.คอนสรรค์ จ.ชัยภูมิ ได้ทำพิธีบวงสรวงสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ทั้งนี้ พระครูวรนายกสิทธาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร กล่าวกับนายกฯ ขณะมอบพระ​พิฆเนศ​ว่า​ ขอให้มีแต่ความสำเร็จ​ ให้มีความเจริญรุ่งเรือง​ ก่อนมอบเหรียญ​หลวงปู่ศรี ซึ่งเป็นเกจิลูกศิษย์หลวงปู่มั่น​ ซึ่งมีพุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย​ ​

จากนั้นนายกฯ เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572 (Korat Expo 2029) บริเวณโคกหนองรังกา ต.เทพาลัย อ.คง  ก่อนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ตำบลในเมือง  อำเภอพิมาย และได้กล่าวกับชาวอำเภอพิมาย ที่มารอต้อนรับด้วยว่า ดีใจที่ได้กลับมาอีกครั้ง ตอนที่มาเลือกตั้งแวะมาที่นี้เหมือนกัน วันนี้ อสม.มาเยอะ ต้องขอบคุณ สส. ในสภา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติงบประมาณเงินให้กับ อสม.เพิ่มขึ้น เดือน พ.ค.นี้ได้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี สมกับที่ทำงานปิดทองหลังพระมานาน

หลังจากนั้น นายกฯ ได้เดินทักทายพร้อมกับถ่ายรูปร่วมกับพี่น้องประชาชน โดยมีชาวบ้านมอบกุหลาบแดงเพื่อเป็นกำลังใจด้วย โดยช่วงหนึ่งมีชาวบ้านถามว่าร้อนหรือไม่ ซึ่งนายกฯ ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “ไม่ครับ เย็นใจ” รวมทั้งชาวบ้านบางรายได้แสดงความรักด้วยการล็อกคอกอดนายกฯ อย่างแนบแน่น พร้อมส่งเสียงกรี๊ดแสดงความดีใจที่ได้เจอ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความกันเอง นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านตะโกนบอกรักนายกฯ  เป็นระยะ พร้อมกับบอกว่า "นายกฯ สู้ๆ"

ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ  กล่าวกับสมาชิกพรรค ระหว่างการจัดกิจกรรม “รวมใจ...รวมไทยสร้างชาติ” เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออกว่า ขอขอบคุณที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกันจำนวนมาก เราต้องอยู่ร่วมกันแบบพี่น้องช่วยกันคนละไม้ละมือ  บ้านต้องมีพ่อแม่คนในบ้านถึงจะมีความอบอุ่น ถ้าบ้านคือประเทศ พ่อแม่เราคือสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทำให้เรามีประเทศไทยมาจนถึงทุกวันนี้ จึงสำคัญที่สุดที่ต้องช่วยกันปกป้องรักษา

 “ถ้าลูกไม่รักกันเอาแต่ตีกัน สุดท้ายพ่อแม่จะต้องจากไปด้วยความเศร้าโศก ถ้าลูกตีกันบ้านที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ก็ต้องขาย เช่นเดียวกับประเทศไทย ถ้าเรามัวแต่ทะเลาะกัน ก็คงอยู่ไม่ได้ แต่สำหรับเราอยู่ร่วมกันได้กับทุกสี รวมกันเป็นเกลียวคือหนึ่งเดียวรวมไทยสร้างชาติ ใครอกตัญญูรวมไทยต่างชาติไม่ต้อนรับเด็ดขาด” นายพีระพันธุ์ระบุ

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เมื่อได้เข้ามาเป็น รมว.พลังงาน ได้ทำงานอย่างเต็มที่  ลดราคาค่าไฟ น้ำมัน ก๊าซ ใน 6 เดือนข้างหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติจะสร้างประวัติศาสตร์พลังงานให้กับประเทศนี้ จะมีน้ำมันราคาพิเศษ เพื่อชาวประมง เพื่อผู้มีรายได้น้อย และเพื่อการขนส่ง เราจะมีระบบสำรองน้ำมัน เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันตามที่รัฐบาลต้องการขาย นี่คือผลงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ                 

นายอภิสัณห์ ศรวัชรณัฏฐ์ หัวหน้าพรรคอนาคตไกล ทำหนังสือถึงสื่อมวลชน แจ้งว่าจะจัดพิธีทำบุญเปิดที่ทำการพรรคอย่างเป็นทางการ เลขที่ 357 ถนนสุโขทัย แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม. ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 08.09  น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล