ตร.ตื่นตั้งกก.สอบ สตต.หญิงฝึกโหด ป่วยโรคซึมเศร้า!

"สำนักงานตำรวจฯ" นั่งไม่ติด ยกโขยงเยี่ยม  ตร.หญิงฝึกหนักจนป่วย หลังเขียนระบายว่อนโซเชียล ขณะที่ "บิ๊กต่าย" ออกโรงชี้ตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชาช่วงปี 66 วอนหยุดแชร์ข้อความ ขณะที่รอง ผบช.น.แจงยิบไทม์ไลน์อบรมจนถึงเข้า รพ. พร้อมเร่งสอบหลักสูตรกองร้อยน้ำหวานตกคนเดียวทั้งรุ่น ด้านแม่ ส.ต.ต.หญิง-เพื่อนประสานเสียงป่วยซึมเศร้าหลังเข้าฝึก

เมื่อวันจันทร์ จากกรณีข้าราชการตำรวจหญิงสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการเข้ามาเป็นตำรวจ 1 ปี การฝึก และการเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และถูกฝึกอย่างหนัก ซึ่งมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบัน ส.ต.ต.หญิง คนธรส ศักดาโยธิน ผบ.หมู่ ฝอ.4 บก.อก.บช.น. (ยังคงดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล) โดยได้พูดคุยกับคุณแม่ของ ส.ต.ต.หญิง  คนธรส และได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า ส.ต.ต.หญิง คนธรส ได้เข้าฝึกอบรมหลักสูตรกองร้อยน้ำหวานที่ บก.สอ.บช.ตชด. แต่ยังไม่จบหลักสูตรดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน ส.ต.ต.หญิง คนธรส ก็ยังคงทำงานในตำแหน่งผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 บก.อก.บช.น.

ที่โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์  พูดคุยได้ การที่เป็นตำรวจนครบาลจะต้องมีการฝึกเพื่อไปประจำที่กองร้อยควบคุมฝูงชน แต่เมื่อน้องไม่สามารถที่จะฝึกได้ก็ต้องไปอยู่ที่อำนวยการของ บช.น. แต่พอน้องมีอาการก็ส่งมารักษาที่แผนกจิตเวช

ผู้สื่อข่าวถามว่า น้องมีการเข้ามาฝึกขณะที่เป็นตำรวจหญิงแล้ว และการที่ไปฝึกทางต้นสังกัด บช.น.ส่งไป  ทำไมต้องส่งไป ตชด. ในเมื่อ บช.น.ก็มีศูนย์ฝึกอบรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า น้องมีการสอบเป็นตำรวจแล้ว  และในเรื่องการส่งไปฝึกอบรม ตนขอไปตรวจสอบก่อน แล้วมาดูกันว่าทุกอย่างมีหลักเกณฑ์ ระเบียบอย่างไร ถ้าสิ่งใดที่มันไม่เหมาะสมหรือควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ต้องมีการปรับปรุงแน่นอน การฝึกอบรมใดๆ ก็ตาม ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมจะต้องอยู่ในความดูแลของผู้อำนวยการหลักสูตร การกิน การอยู่ การฝึก การลา อยู่ในอำนาจของผู้อำนวยการฝึก ที่จะต้องบังคับบัญชาดูแล

ส่วนระหว่างการฝึกในหลักสูตรมีแนวทางการฝึกอย่างไร เนื่องจากว่าเจ้าตัวมีการโพสต์ถึงหลักสูตรในการฝึกที่ถูกกระทำ (ก็คือเตะเข้าที่หัวจนสมองบวมเลือดออกในสมอง) รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ได้มีหลักสูตรเช่นนี้ และได้พูดคุยกับแม่ของตำรวจหญิงแล้ว พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุจริงในระหว่างที่ฝึก จู่ๆ หัวไปโดนเท้าของเพื่อน

 เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าน้องพยายามบอกเล่าเรื่องราวให้สังคมรับทราบว่าถูกกระทำ แล้วถูกกีดกันจากผู้บังคับบัญชาไม่ให้เผยแพร่เรื่องราวนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับทราบ และจะต้องมีการสั่งตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นที่ผู้บังคับบัญชาใช้คำพูดลักษณะไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา และอะไรที่ไม่ถูกต้องจากผู้บังคับบัญชา จะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย  ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าหลักปฏิบัติเหมาะสมหรือไม่ หากมีอะไรไม่เหมาะสมจะมีการแก้ไขในอนาคต

 “ผู้บังคับบัญชาในการฝึกในช่วงเวลานั้น ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรื่องที่เกิดมาตั้งแต่ 2566 เพิ่งมาเกิดเรื่องในตอนนี้นั้น ไม่อยากตอกย้ำในความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีก อยากฝากสื่อมวลชนอย่านำข้อความภายในจดหมายไปเผยแพร่เพื่อตอกย้ำความรู้สึกของน้อง” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุ

ที่ รพ.ตร. แม่ของ “ส.ต.ต.หญิง” เผยว่า เชื่อว่าอาการป่วยของน้องเกิดขึ้นหลังเข้ารับการฝึกอบรมตำรวจอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้น้องเป็นคนร่าเริง เรียนเก่ง  ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 โดยหลังจากที่น้องฝึกเสร็จและกลับมาก็มีอาการเครียดและซึมเศร้า น้องเล่าให้ฟังว่าท่าที่ทำให้อาการป่วยหนักขึ้น คือท่าลุกหมอบ แม่ยอมรับว่าตกใจที่อาการของลูกเป็นแบบนี้ ส่วนหลังจากนี้จะให้ลูกรับราชการตำรวจต่อหรือไม่ ยืนยันว่าน้องยังอยากรับราชการอยู่

ด้านน้องมะนาว เพื่อนของน้องซาน่า กล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.ต.ต.หญิงเป็นคนสดใสร่าเริงและไม่มีอาการทางจิต ใครเป็นคนพูดกดดันหรือด้อยค่า แม่และตนขอปฏิเสธไม่ขอบอก เกรงจะมีปัญหาตามมา แต่ยืนยันเกิดจากการฝึกแน่นอน ตั้งแต่นั้นสภาพจิตใจก็ย่ำแย่มาโดยตลอด โดยทุกคืนที่นอนฝันถึงการฝึก รวมถึงการลงโทษด้วยการดองเวร   แต่ครั้งนี้หลังเกิดอุบัติเหตุก็ยังต้องกลับไปฝึกอีก จึงทำให้อาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะการฝึกที่มีการใช้ศีรษะ ทั้งที่ไม่ควรใช้แล้วเพราะเพื่อนไม่สบาย และยืนยันว่าเพื่อนโทร.มาร้องไห้บ่อยครั้งและบอกเศร้าอีกแล้ว

ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้พูดคุยกับผู้กำกับฝ่ายอำนวยการ 4 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทราบว่าเบื้องต้นหลักสูตรมี 100 ราย เพื่อบรรจุใน อคฝ. ไม่ใช่ อก. แต่ผ่านการคัดเลือกเพียง 70 ราย ถูกส่งไปอบรบ ตชด.เริ่มต้นฝึกอบรม 15 มี.ค.-12  ก.ค. แต่ ส.ต.ต.หญิงเข้าอบรมและเกิดอุบัติเหตุขึ้นวันที่ 19 มี.ค.66 จากนั้นถูกส่งไปโรงพยาบาลหัวหิน และส่งต่อมา รพ.ตร. โดยแพทย์ที่ทำการรักษาให้พัก 10 วัน  จากนั้นไปฝึกต่อ โดย 7 เม.ย.ให้หยุดพัก และวันที่  8-17 เม.ย.หยุดสงกรานต์ และกลับมาฝึก 17 เม.ย. แต่ปรากฏว่าป่วยไม่ได้รับการฝึกต่อ

 “ช่วงเวลาในการฝึกทั้งหมดต้องไม่ต่ำกว่า 80%  หรือ 444 ชั่วโมง แต่ ส.ต.ต.หญิงไม่ผ่านการฝึก จึงให้กลับมาบรรจุ อก.ฝ.4 เพื่อรอเวลาเปิดหลักสูตรในปีนี้  น้องจะถูกส่งตัวไปฝึกต่อที่ ตชด. ซึ่งระหว่างนี้ ส.ต.ต.หญิงทำงานปกติและยังมีการรักษาตัว จึงให้อยู่ อก.ฝ.4  ซึ่งที่ผ่านมาปฏิบัติหน้าที่ได้ดี” รอง ผบช.น.ระบุ

รอง ผบช.น.กล่าวว่า ส่วนการกดดันจากคนรอบข้างระหว่างการฝึก เบื้องต้น บช.น.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่น้องได้โพสต์หรือไม่ ซึ่งใน 70 รายมีผ่านการฝึก 69 ราย มีน้องคนเดียวที่ไม่ผ่าน และทั้ง 69 รายได้บรรจุใน อคฝ.เรียบร้อยแล้ว และศูนย์ฝึก ตชด.เป็นศูนย์ฝึกที่ดีที่สุด เพราะหลายหน่วยงานก็นำบุคลากรมาฝึกที่นี่ โดยเฉพาะภาคปฏิบัติสายงานป้องกันและปราบปรามทุกหน่วยถูกส่งมาที่ ตชด. เนื่องจากนครบาลไม่มีศูนย์ฝึกลักษณะดังกล่าวเป็นของตนเอง

"การเข้ามารับราชการในตำแหน่ง อคฝ.แต่ต้องฝึกใน อก.ก่อน หากผ่านการฝึกก็จะไปปฏิบัติหน้าที่นั้นตามที่ ตร.กำหนด ที่ผ่านมาหลักสูตรนี้ทุกคนก็ผ่านหมด ส่วนจะถูกกดดันจากครูฝึกหรือไม่จะมีการตรวจสอบ เชื่อว่าต้องมีพยานบุคคลและพยานแวดล้อมในการฝึกแน่นอน เพราะเข้าเรียนวันที่ 15 มี.ค. 66 และ 19 มี.ค. 66 เกิดอุบัติเหตุเลย" รอง ผบช.น.ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใจความช่วงหนึ่งของเฟซบุ๊ก  Chontaros Sukdayotin โพสต์ว่า "สวัสดีค่ะ  ส.ต.ต.หญิง คนธรส ศักดาโยธิน ผบ.หมู่ ฝอ.4 บก.อก.บช.น. ตลอดระยะเวลาการเป็นตำรวจ 1 ปี หนูได้เปลี่ยนสถานะกลายเป็นคนป่วยจิตเวช เป็นโรคซึมเศร้าจากการฝึก เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุถูกเตะศีรษะในค่าย ซึ่งเพื่อนที่เตะไม่ได้ตั้งใจ หนูไม่เคยโกรธ ไม่เคยติดใจ หนูรักษาตัว และถูกให้กลับไปฝึกอีกครั้ง

แต่โดนครูฝึกทำโทษทุกอย่างทุกทาง พูดทำร้ายจิตใจทุกวัน เอาเชือกฟาดขา โดนดองเวรยืนเวรทุกคืนไม่ได้นอน ไม่เคยได้พักตามที่หมอสั่ง ต้องทำท่าที่เอาหัวลงพื้น  มันทรมานมาก ป่วยจนไอเป็นเลือด ออกมารักษาตัวและไม่ได้กลับไปฝึกอีกเนื่องจากอาการทางจิต วันนี้หนูถึงที่สุดแล้ว ให้มันจบที่หนูเถอะนะคะการฝึกแบบนี้ เราฝึกเพื่อความแข็งแรง ไม่ใช่ฝึกให้กลายเป็นคนป่วย".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง