จัดคิว‘แม้ว’พบปชช. ลุยปลุกเรตติ้งเพื่อไทยไม่แคร์ป่วยทิพย์ทำใจฝ่ายค้านถล่ม

เพื่อไทยสุดคึก! น.ช.ทักษิณเหยียบพรรคตามนัด "รัฐมนตรี-สส." แห่เสนอหน้าให้นายใหญ่ แม้วบอกดีใจได้กลับบ้าน โอดเรื่องป่วยยังถูกด่าทั้งที่คนเราดีขึ้นไม่ได้เหรอ เชื่อศึกซักฟอกเจอฟาดหางแน่ รับปาก สส.พร้อมลงพื้นที่หากเสนอมา "ทวี" บอก น.ช.ไปไหนก็ได้แค่รายงานตัวกรมคุมประพฤติพอ ร่ายยาวบอกทำตามกฎหมายที่ สนช.และรัฐบาลที่แล้วเคาะ "ก้าวไกล" ปมนักโทษไม่ใช่เป้าหมายหลักอภิปราย!

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2667 ตึก OAI ซึ่งเป็นที่ตั้งของพรรคเพื่อไทย บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังมีสถานะเป็นนักโทษชายแต่ได้รับการพักโทษจะเดินทางพรรค โดยมี สส.ทยอยเข้ามาตั้งแต่เวลา 10.00 น. และในเวลา 13.15 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. พร้อมรัฐมนตรีที่ลาราชการ ทั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ มารอต้อนรับนายทักษิณที่บริเวณชั้น 1

กระทั่งเวลา 13.30 น. นายทักษิณ ซึ่งสวมสูทสากลสีกรมท่า กางเกงยีนส์ เสื้อเชิ้ตสีฟ้า และไม่ได้สวมเฝือกอ่อนที่คอ รวมถึงที่หลังและที่พยุงแขนเหมือนตอนที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาถึงพรรคด้วยรถเบนท์ลีย์สีดำ ทะเบียน พค 9999 กรุงเทพมหานคร ทันทีที่ถึงมีมวลชนกรูเข้าไปมอบดอกไม้ พร้อมตะโกนเรารักทักษิณ บางส่วนเข้าไปสวมกอด ร้องไห้ พร้อมหอมแก้ม และเมื่อนายทักษิณขึ้นบันไดมายังพรรคเพื่อไทย ได้ทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 ก่อนขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 8 เพื่อคุยกับบรรดารัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองในสัดส่วนของพรรค พท. และผู้สมัคร สส.ของพรรค ก่อนลงไปชั้น 7 เพื่อคุยกับ สส. โดย น.ส.แพรทองธารได้โบกมือห้ามสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามนายทักษิณ 

ทั้งนี้ ในการไปห้องทำงานหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ชั้น 8 ได้ให้บรรดารัฐมนตรีที่ลาราชการและผู้อาวุโสของพรรคเข้าพบ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ, นายสุริยะ, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลฯ, นางพวงเพ็ชร และนายเสริมศักดิ์ รวมถึงผู้อาวุโสของพรรค อาทิ พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ เข้าพบ

และเมื่อนายทักษิณลงมาที่ชั้น 7 ที่เป็นห้องจัดเลี้ยงของพรรคเพื่อพบกับบรรดาสมาชิกพรรค พล.ต.อ.วิโรจน์ได้เป็นตัวแทนมอบดอกไม้ต้อนรับ และ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี ได้มอบดอกไม้ต้อนรับในนาม สส. ซึ่งนายทักษิณเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคได้ร่วมถ่ายภาพกับเป็นกลุ่มจังหวัด และได้สอบถามสารทุกข์สุกดิบ  บางช่วงนายทักษิณระบุว่า คิดถึงทุกคน วันนี้ถือว่าได้เจอกับสมาชิกรุ่นหลาน ทำให้นายภูมิธรรมตอบกลับไปว่า ไม่ได้มีบรรยากาศแบบนี้นานแล้ว

สำหรับช่วงที่นายทักษิณได้เปิดให้ สส.เข้าพบที่ชั้น 7 นายทักษิณได้เดินทักทายพร้อมกอด สส.ทุกคนอย่างเป็นกันเอง และกล่าวว่า ดีใจที่ได้กลับบ้าน ก่อนหน้านี้มั่นใจว่าจะได้เดินทางกลับประเทศ แต่ไม่รู้เวลาที่ชัดเจน เมื่อได้กลับมาแล้วก็รู้สึกดีใจ และยืนยันที่ผ่านมาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาล อย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด อย่างป่วยก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราจะดีขึ้นไม่ได้ และในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของฝ่ายค้าน เชื่อว่าจะมีการโจมตีอีก แต่ก็ทำใจ ไม่โกรธ อยากให้เข้าใจว่านั้นอยากกลับบ้าน อยากเลี้ยงหลาน สส.คนไหนอยากให้ไปในพื้นที่ก็เสนอมา โดยจะพิจารณาอีกครั้ง เพราะเมื่อได้เจอชาวบ้านแล้วมีกำลังใจ เพราะเป็นลูกชาวบ้าน

จากนั้นเวลา 15.15 น. นายทักษิณ เดินทางออกจากพรรคเพื่อกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า โดยมีนายภูมิธรรมและนายประเสริฐลงมาส่งถึงรถ ขณะเดียวกันก็มีมวลชนเสื้อแดงที่ยังปักหลักรอส่งนายทักษิณเช่นเดียวกัน โดยมีตัวแทนคนเสื้อแดงจากดอนเมืองมอบยาดมสมุนไพรที่มีรูปนายทักษิณพร้อมระบุข้อความว่า “ด้วยรักและห่วงใยท่านทักษิณ ชินวัตร”  เป็นช่อดอกไม้ นอกจากยังมีคนมอบกรอบรูปภาพพระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. ให้ด้วย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่าได้พูดคุยกับ สส.แล้วเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณหันมามองแต่ไม่ได้ตอบคำถาม และมีบางช่วงนายทักษิณถึงกับร้อง “โอ้โฮ” เนื่องจากมวลชนพยายามกรูเข้ามาประชิด ซึ่งตลอดทางแม้ว่ามวลชนจะเบียดเสียด แต่นายทักษิณก็ยังยิ้มแก้มปริจนกระทั่งขึ้นรถ

ต่อมา น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ ว่าทันทีที่เดินทางมาถึงได้พาไปดูห้องทำงานของหัวหน้าพรรคที่ชั้น 8 ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องทำงานที่นายทักษิณเคยทำงานตั้งแต่สมัยเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย คุณพ่อได้เห็นและไหว้พระ โดยสอบถามว่าพระองค์นี้ยังไม่เคยเห็นมาเมื่อไหร่ จากนั้นนายทักษิณได้ทักทาย สส.ที่ห้องรับประทานอาหาร 

เมื่อถามว่า นายทักษิณได้พูดกับ สส.  รัฐมนตรีอย่างไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อบอกว่าไม่ได้มา 17 ปี อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปเยอะ คุณพ่อทักทาย สส.เก่า สส.ใหม่ ซึ่งหลายคนรู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่ตอนนี้เป็นรุ่นลูกรุ่นหลานแล้ว

เมื่อถามว่า นายทักษิณได้แนะนำการทำงานหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่มีเรื่องการทำงาน แต่เหมือนคนแก่ได้กลับบ้านอีกครั้ง ท่านก็มีความสุขดี เชื่อว่าหลายคนมีความสุขที่ได้เจอคุณพ่อ ที่เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เป็นนายกฯ ที่มีผลงาน ทำให้ สส.มีกำลังใจ เพราะรัฐบาลไทยรักไทยได้ทำงานให้ประชาชนอย่างไร ทำให้ สส.มีความฮึกเหิม มีกำลังใจทำงานมากขึ้น เป็นความรู้สึกที่ดี

เมื่อถามอีกว่า จากนี้นายทักษิณจะเดินทางไปไหนต่อ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คงแล้วแต่ท่าน ที่เคยเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ท่านมีความสุขที่ได้กลับบ้านเกิด แต่ในส่วนของที่อื่นๆ ท่านก็อยากไป แต่ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค หรือไปในนามพรรค ท่านได้พูดกับประชาชนมาโดยตลอด อยากไปเยี่ยมประชาชนที่เคยสนับสนุนท่าน ซึ่งวันนี้มีผู้สนับสนุนมาที่พรรคด้วย ไม่รู้ว่าท่านดีใจหรือไม่ แต่ส่วนตัวดีใจ

ไม่ชัดสงกรานต์ขึ้นเชียงใหม่

ถามอีกว่า นายทักษิณจะเดินทางเข้ามาพรรคเพื่อไทยบ่อยขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คงไม่ได้เข้าพรรคบ่อย แต่หลังจากนี้จะชวนมาดูห้องทำงานของตนเองในฐานะลูกสาว ไม่ใช่ในนามหัวหน้าพรรค เพราะเราสนิทกันมาก เมื่อพ่อได้เห็นอะไรที่เป็นความเคลื่อนไหวของลูกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ท่านก็ดีใจ

เมื่อถามว่า นายทักษิณจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค พท.หรือไม่ เพราะหากมาเช่นนี้ อาจถูกมองว่าเป็นคนนอกที่ครอบงำพรรค น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การจะสมัครสมาชิกพรรคหรือไม่ แล้วแต่ท่าน  คงตอบไม่ได้ ส่วนที่มองว่าจะครอบงำนั้น คิดว่าคุณพ่อไปไกลกว่าเป็นสมาชิกพรรค ท่านสามารถเป็นที่ปรึกษา ทำประโยชน์ให้ประเทศได้ ไม่จำเป็นต้องปรึกษาแค่ในพรรคเพื่อไทย แต่รัฐมนตรี หากอยากปรึกษา สามารถทำได้ รวมถึงคนที่เชื่อในวิสัยทัศน์ท่านก็ทำได้ นายทักษิณเป็นที่ปรึกษาตนเองมาทั้งชีวิต ตั้งแต่เด็ก ปฏิเสธไม่ได้ การจะบอกพ่อลูกแล้วมาครอบงำคงไม่ใช่

เมื่อถามว่า หลังจากนี้นายทักษิณจะลงพื้นที่ช่วย สส.เพื่อไทยในการทำคะแนนเสียงหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คงไม่ได้ไปช่วย สส. แต่ไปพบประชาชนจริงๆ เพราะมีประชาชนอยากเจอพ่อในนาม ดร.ทักษิณ อดีตนายกฯ ที่เคยทำประโยชน์ให้กับเขา ไม่ได้เจอในนามของพรรค

ถามอีกว่า นายทักษิณมาปรากฏตัว จะทำให้คะแนนของพรรคกลับมาดีกว่าพรรคก้าวไกลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงแล้วแต่ประชาชนจะตัดสิน ส่วนที่มีกระแสข่าวนายทักษิณจะไปเชียงใหม่อีกครั้ง ในช่วงสงกรานต์ ส่วนตัวยังถามแต่ท่านยังไม่ได้บอก ยังไม่ได้คอนเฟิร์มว่าท่านจะไปหรือไม่ เมื่อคอนเฟิร์มแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกที

ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า การเดินทางมาของท่านเป็นขวัญกำลังใจให้กับสมาชิกพรรค พท.ทุกๆ คนวันนี้ที่พรรค มีความตื่นเต้น ซึ่งนายทักษิณไม่ได้แนะนำอะไรมาก เพียงแต่ทักทายสมาชิกทั้งเก่าและใหม่ รวมถึงเพื่อนๆ ที่มาให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเต็มด้วยรอยยิ้มและความสุข มีกำลังใจ เพราะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่นายทักษิณได้เดินทางมาที่นี่

เมื่อถามว่า ในอนาคตนายทักษิณจะมีโอกาสเดินทางมาที่ทำการพรรค พท.อีกหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ก็มีโอกาสเพราะท่านมีสิทธิไปที่ไหนก็ได้อยู่แล้ว

ถามว่าจะมีโอกาสชวนนายทักษิณลงพื้นที่ จ.นครราชสีมาหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จะชวน เพราะชาวโคราชเรียกร้อง แต่ยังไม่ได้พูดกับนายทักษิณโดยตรง แต่เชื่อว่าท่านคงอยากไปเจอคนไทยทั่วประเทศ

ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.การคลัง กล่าวถึงเสียงวิจารณ์นายทักษิณเข้าพรรคเพื่อไทย เป็นการครอบงำรัฐบาลว่า คนเราก็มองได้หลายเรื่อง ก็แล้วแต่ความคิดเห็น แต่ว่าในฐานะนายกฯ มองว่าท่านไม่ได้มาครอบงำรัฐบาล

ทวีบอกทักษิณไปไหนก็ได้

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม  กล่าวกรณีนายทักษิณเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ปกติเราดูแค่หลักเกณฑ์ของการคุมประพฤติ การพักโทษก็อยู่ในเรื่องของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีเรื่องการบริหารโทษ เช่น การพักโทษ หรือการใช้ที่คุมขังอื่น ส่วนความเคลื่อนไหวอย่างอื่นในเรื่องการคุมประพฤติ ก็จะมีข้อห้ามไปมั่วสุมกับยาเสพติด ห้ามไปเยี่ยมนักโทษด้วยกัน ถือเป็นการปฏิบัติตามปกติของประชาชน ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็มีสิทธิเสรีภาพทั้งหมด เป็นหน้าที่ของกรมคุมประพฤติที่เป็นผู้ดูแล

เมื่อถามย้ำว่า การไปพรรคเพื่อไทยไม่มีข้อห้ามใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า มีแค่กรมคุมประพฤติให้มารายงานตัว ส่วนจะไปไหน พบใคร ในกฎกระทรวงไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมือง

ถามว่า ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ มีการตั้งข้อสังเกตถึงมาตรฐานกระบวนการยุติธรรม รมว.ยุติธรรมระบุว่า กระบวนการยุติธรรมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญบอกให้รัฐต้องปฏิบัติตาม และบังคับใช้กฎหมาย ถ้าเราทำนอกกฎหมายก็ถือว่าทำตามอำเภอใจ เพราะในกฎหมายจะมีกฎระเบียบ เช่น กฎหมายราชทัณฑ์ ถ้าดูตามข้อเท็จจริง กฎหมายฉบับนี้เข้า สนช.ในรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งออกมาเป็นกฎหมายราชทัณฑ์ปี 2560 ซึ่งผู้ร่างก็เป็น สนช.ทั้งหมด ที่สำคัญกฎกระทรวง เป็นกฎหมายฉบับแรกที่เอากฎหมายลูกใส่ให้ สนช.ร่างด้วย ต่อมาภายหลัง นายสมศักดิ์ขณะนั้นได้ออกกฎกระทรวง ซึ่งถ้าออกเป็นแพ็กเกจใหม่ จะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานลำบาก จึงแยกออกเป็นการรักษาพยาบาล การไปที่คุมขังอื่น หรือการพักโทษ ก็จะแบ่งเป็นตอน แต่ทั้งหมดนี้ถูกร่างโดย สนช.อยู่แล้ว และวันนี้เมื่อเป็นกฎหมายที่เกิดมาในช่วงรัฐธรรมนูญใหม่ ก็มาปฏิบัติตาม

“กฎหมายของกรมราชทัณฑ์หากดูให้ดี กรมราชทัณฑ์แทบมีไม่อำนาจเลย เช่น การพักโทษ ก็เขียนให้มีคณะกรรมการพักการลงโทษ โดยคณะกรรมการก็มีปลัดกระทรวงยุติธรรม มีข้าราชการอื่นจากหลายหน่วยงาน รวมถึงมาจากศาลยุติธรรมด้วย ก็อยากเรียนว่าถ้าเรายอมรับกติกา ว่ารัฐต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้าปฏิบัตินอกกฎหมายถือว่าไม่ใช่หลักนิติธรรม”

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ที่กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ จะเตือนนายทักษิณให้เคลื่อนไหวน้อยลง เพราะกระแสสังคมจับตาอยู่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เราเคารพในความคิดเห็นที่หลากหลาย ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่กระทรวงยุติธรรมไม่มีหน้าที่ไปกำหนดในเรื่องส่วนตัว นอกจากดำเนินภารกิจตามหน้าที่ที่เรารับผิดชอบ

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีนักการเมืองได้รับการพักโทษและเคลื่อนไหวในลักษณะนี้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า คนพักโทษปีละเป็นหมื่น แต่อาจไม่มีสื่อมวลชนไปตามไปแบบนี้ แต่นายทักษิณก็ยังรายงานตัวตามปกติ เพราะรายงานเมื่อคืนที่เขาส่งมา นายทักษิณก็มารายงานตัวที่กรมคุมประพฤติ และปฏิบัติตามตามเงื่อนไขการพักโทษทุกอย่าง

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโอกาสเจอนายทักษิณว่า ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสได้เจอ แต่เชื่อว่าในอนาคตได้อย่างแน่นอน  จะไม่เจอกันได้อย่างไร จะไม่เจอกันทั้งชาติเลยหรือ เขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพ

อภิปรายทักษิณไม่ใช่เป้าหลัก

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า  อดีตนายกฯ ทักษิณท่านเป็นพ่อของหัวหน้าพรรค พท. ถ้าคุณพ่อไปที่ทำการของลูกไม่ได้ก็คงผิดปกติ และที่สำคัญพรรค พท.ก็เป็นพรรคเก่าแก่ ที่อดีตนายกฯ ทักษิณได้ก่อร่างสร้างขึ้นมา จึงถือเป็นเรื่องปกติที่จะเข้าไปทักทายเพื่อนสนิทมิตรสหายที่เคยทำงานร่วมกันมา ไม่จำเป็นต้องเป็นประเด็นทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องเข้าพรรคเพื่อไทย ถ้าหากจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อม คนระดับนายทักษิณอยู่ที่ไหนก็สร้างแรงกระเพื่อมได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องไปที่ไหนอย่างไร

ขณะที่ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า พรรคของท่าน ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะไป

เมื่อถามว่า เป็นจังหวะการกลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทักษิณ  นายชวนกล่าวว่า คนป่วยแล้วหายป่วยถือเป็นเรื่องดี แต่เป็นที่รู้กันว่าอาการป่วยที่ต้องใช้สิทธิ์ชั้น 14 ของ รพ.ตำรวจหรือไม่นั้น เป็นที่รู้กันทั้งเมืองว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดนี้ละเลยการรักษาความเสมอภาค ความเหลื่อมล้ำ เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าเป็นการกระทำ ไม่ไปพูดถึงตัวบุคคล ขอพูดตามหลักการว่าพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้ที่ได้ปฏิบัติ

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ก็เป็นสิทธิ์ของนายทักษิณที่จะเข้าไปพบใคร และเป็นสิทธิ์ของสังคมเช่นกันที่จะวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ได้บอกว่ามีอะไร ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ ไม่ได้มองว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม มองแค่ว่าเป็นสิทธิ์ ในเมื่อจะทำการแบบไหน ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เมื่อทำแล้วสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร นายทักษิณก็คงทราบดีว่าต้องรับคำวิจารณ์นั้น

ส่วนการอภิปรายจะมีประเด็นนายทักษิณหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันในประเด็นนี้เป็นพิเศษ

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่ใช่ประเด็นหลักใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิระบุว่า อาจจะยังไม่ใช่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง