ตั้มพลิ้วเส้นเงินไม่ถึง‘บิ๊กต่อ’

บารมียังไม่เกิด!   "เศรษฐา" พับเพียบขอถึงศึกนายพลสีกากีเป็นครั้งสุดท้าย เชื่อกระบวนการยุติธรรมมาถูกทางแล้ว ขณะที่ "บิ๊กต่อ"  อยู่ต่างจังหวัด ไม่สบาย แต่ไม่เครียด ชี้แค่ดิสเครดิต ส่วน "บิ๊กโจ๊ก" ไปนครศรีฯ   ยันไม่รู้เรื่องที่ทนายตั้มแฉ "ษิทรา" ขู่ฟ่อ  ยังมีข้อมูลมากกว่าที่เปิดเผย แต่ขออุบไว้ก่อน ดรามาถ้าโดนเก็บเป็นเรื่องโชคชะตา

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งในวงการตำรวจที่ยังไม่ยอมจบ ล่าสุด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ยังออกมาแฉ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  เพิ่ม ว่าไม่ทราบ วันนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบและสืบหาความจริงเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของตนกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่โฟกัสปัญหาของพี่น้องประชาชน และดูแลประชาชนให้ดีที่สุด และอย่างที่บอก ตนไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะเชื่อว่าเรามีกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่มีการแทรกแซงจากทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การออกมาแฉในลักษณะนี้ยิ่งทำให้วงการตำรวจฉาวขึ้นอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ผมว่าฉาวหรือไม่ฉาวขึ้นอยู่กับการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากกว่า วันนี้ผมถึงเน้นและพูดคุยกับรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจะมีการคุยกับรักษาการผู้บัญชาการตำรวจฯ     เกี่ยวกับเรื่องของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ส่วนเรื่องที่จะถูกตำหนิ หรืออะไรก็ตาม เราต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนเรื่องการกล่าวโทษกันก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

"ทุกกระบวนการผมเชื่อว่าในขณะนี้เรามาถูกทางแล้ว และทั้งสองท่านที่เป็นคู่กรณีก็ถูกย้ายมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ไม่มีการที่จะเข้าไปแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรมได้ ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง" นายเศรษฐากล่าว

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า "ตอนนี้ผมยังอยู่ต่างจังหวัด ต้องรอทนายตอนเย็นๆ แต่ไม่รู้ทนายจะแถลงหรือไม่ ผมให้ทนายดำเนินการทั้งหมด ผมไม่ได้ยุ่งเลย"

ส่วนจะฟ้องทนายตั้มหรือไม่นั้น   พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ระบุว่า "ก็ยังไม่รู้เลย ครอบครัวพี่ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดกับมีงาน ผมก็ไม่ค่อยสบาย"

เมื่อถามว่า เครียดหรือไม่กับการแถลงของทนายตั้ม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ย้ำว่า “ไม่เครียดเลย อยากให้ดูว่ามีเส้นทางการเงินถึงผมจริงไหม มันก็เป็นการดิสเครดิตไปเรื่อยแหละ ไม่เป็นไร และรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ให้น้ำหนักอะไรอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่กังวลกับหลักฐานที่ทนายตั้มเอาออกมาเปิดเผย ขอให้รอทนาย เพราะผมไม่ได้รู้รายละเอียด ไม่ได้ฟังเขาแถลงด้วยซ้ำไป ผมรู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว หลักฐานพวกนี้ผมก็เห็นมานานแล้ว เพียงแต่ผมไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้สนใจ"

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยทางโทรศัพท์ ยืนยันว่าตนไม่ได้เดินทางออกไปต่างประเทศ และตนเดินทางมา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดูปัญหาการร้องเรียนของชาวบ้านม็อบพรีมูฟ ส่วนที่ทนายตั้มแถลงข่าวแฉตำรวจรับส่วยและโยงถึงนายพลตำรวจนั้น ตนยังไม่เห็นและไม่ได้ฟังรายละเอียด เพราะลงมานครศรีธรรมราชแล้ว

ผมไม่รู้เรื่องเลย

ส่วนกรณีที่ทนายตั้มระบุว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้โทร.ไปหาเพื่อไม่อยากให้ออกมาแฉ เพราะจะทำให้ไม่สามารถกลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อีกนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่า ไม่ขอพูดถึงกรณีที่ทนายตั้มแถลงข่าว ให้ถามทางทนายความได้เลย ตนไม่รู้เรื่องเลย อีกทั้งยังไม่รู้เรื่องกระแสหมายจับด้วย พร้อมบอกทิ้งท้ายว่า ถ้าจะสัมภาษณ์อะไรตน วันจันทร์ที่ 1 เม.ย. เวลา 10.00 น. มีประชุมที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน ให้ไปรอสัมภาษณ์ที่นั่นได้เลย

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม  เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน   เปิดเผยต่อถึงการรับเงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงรับส่วย โดยเฉพาะเว็บพนันออนไลน์ที่ระบุเส้นเงินถึงคนใกล้ชิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เตรียมฟ้องกลับว่า เรื่องการฟ้องร้องทำใจไว้ก่อนว่าจะต้องถูกฟ้องแน่  และไม่มั่นใจว่าจะมีอิทธิพลมืดอะไรมาอีก แต่เป็นเรื่องที่เตรียมใจไว้แล้วจึงไม่ได้กังวล ส่วนเรื่องเงินทอดกฐินจริงหรือเปล่าเวลาทำบุญตัวเองเป็นเจ้าภาพ  อย่างที่วานนี้ตนแถลงไปเป็นเงิน 7 แสนบาท เมื่อคืนนอนไม่หลับ ตรวจพบเส้นเงินหนึ่งจำนวน 199,998 บาท วันที่ 15 ธ.ค.65 ต่อมาอีก 2 วันมีการจัดงาน พบว่าบัญชีม้าที่วิ่งไปเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์อีก และมีการโอนเข้าเครือญาติแล้วจะบอกไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างไร บัญชีพวกนี้ก็เป็นบัญชีม้ารับส่วย รับเงินจากเว็บพนัน เหตุผลใดที่ทำไม ผบ.ตร.ไม่ชี้แจ้งเงินจากบัญชีม้าจากส่วยเข้าบัญชีญาติ ทำไมไม่ชี้แจงมาให้ชัดเจน สังคมเขารอฟังอยู่

เส้นเงินจริงๆ ไม่ส่งถึงตัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แต่เป็นคนรอบข้าง เป็นการทำบุญ ต้องพิจารณาหรือเปล่า เพราะการทำบุญ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถ้าถูกดำเนินคดีต้องดำเนินคดีทั้งคู่ โดยบัญชีม้าที่ไปทำบุญที่วัดเป็นบัญชีม้าของณัฐพงษ์ มีการโอนให้พี่ชาย พี่สาว ภรรยา และตำรวจอีกหลายคน จริงๆ ตนไม่มีเรื่องอะไรไปทะเลาะกับ ผบ.ตร. ไม่จำเป็นต้องไปดิสเครดิตอะไร แต่เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสดีของสังคม นายกฯ มาบอกว่าไม่รับรู้ จริงๆ แล้วนายกฯ ต้องรับรู้ เรื่องนี้เป็นการดำเนินคดีคนระดับ ผบ.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้เหมือนเป็นฝีร้ายเม็ดใหญ่ อยากให้นายกฯ มาเป็นแพทย์ใหญ่มาผ่าตัดให้ ถ้าทำสำเร็จต้องมีแต่คนสรรเสริญนายกฯ แน่นอน เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยมีใครปฏิรูปตำรวจสำเร็จเลย เป็นโอกาสดีที่สังคมตื่นตัว ถ้านายกฯ บอกไม่รับรู้ไม่ได้แล้ว

เมื่อถามถึงเส้นเงินที่ไปถึงญาติ ผบ.ตร. โดยเฉพาะพี่ชายที่มีหลายคน เขาตอบว่า อย่างที่บอกไปเมื่อวาน ไม่ขอระบุตัวบุคคล แต่ขอระบุว่าไม่ใช่คนที่รับราชการอยู่ เป็นอีกคน ถ้ามีการฟ้องร้องตนสามารถมีหลักฐานไปโต้แย้งได้ แต่ก่อนจะฟ้องตน สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องไปตรวจสอบก่อน ซึ่งยังไม่รู้จะไปพึ่งใครได้ ตอนนี้อยากให้มีการดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ใครจะกล้าทำ และในพรุ่งนี้ (28 มี.ค.) จะไปหา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ก็ยังไม่รู้ว่าถ้าถึงเวลาเข้าจะกล้าทำหรือเปล่า เพราะสายของตนก็กลัวว่าการที่จะเอาหลักฐานเอาไปให้ พล.ต.ต.เกียรติ แล้วความปลอดภัยเขาจะเป็นอย่างไร ขอชื่นชมสังคมที่ออกมาชื่นชมความกล้าหาญของตน และจริงๆ แล้วอยากให้ขอบคุณกับสายมากกว่าที่กล้าออกมาสู้กับตนครั้งนี้

ถ้าโดนเก็บเป็นเรื่องโชคชะตา

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นทนายตั้มมีความใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เหมือนอยู่ในการครอบครองของเขา  ทนายตั้มเผยว่า ตนไม่ได้อยู่ในความครอบครองของเขา เป็นแค่คนรู้จัก ยอมรับว่าสนิทกัน แต่ไม่ได้บอกว่าให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เพียงคนเดียว แต่บอกว่าใครก็แล้วแต่ที่รับเงินส่วยต้องดำเนินคดี แต่ตอนนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อหา เรื่องไปถึง ป.ป.ช.แล้ว แต่ทาง ผบ.ตร.ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างที่ ผบ.ตร.แถลง เขาเห็นเส้นเงินเส้นนี้มานานแล้ว พล.ต.ต.จรูญเกียรติก็เห็น แต่ยังไม่มีการดำเนินการ  แบบนี้เรียกว่าสองมาตรฐานหรือเปล่า ยืนยันมีข้อมูลมากกว่าที่เปิดเผย แต่จะเป็นอะไรยังไม่ขอเปิดเผย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวโดนเก็บในลิ้นชักเหรอ เขาตอบว่า “ผมอยากทำงานผมให้สำเร็จก่อน ถ้าจะโดนเก็บในอนาคตก็เป็นเรื่องของโชคชะตา” สื่อแจงว่าเก็บในลิ้นชัก ไม่ได้เก็บแบบนั้น ทนายตั้มยิ้มแล้วบอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน

"ผมเคยบอกเสมอว่าผมไม่ใช่คนดี  ถ้าผมออกมาแฉอะไรก็จะถูกแฉกลับทุกครั้ง คราวนี้ก็แล้วแต่เลย พร้อมสู้ในศาล ที่มีการกล่าวอ้างว่าผมรับเงินมาทำเรื่องนี้ ถึงจะได้เงินมา 20-30 ล้าน ก็ไม่คุ้ม ถ้าถูกดำเนินคดีสัก 10 คดี ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เสียเวลา ถ้าเป็นข้อมูลปลอมก็ติดคุกอีก ที่ออกมาเพราะมั่นใจแล้วข้อมูลของแท้โยงใยไปถึง ผบ.ตร. ทั้งเรื่องคนใกล้ชิดและบริวารทั้งหมด" ทนายตั้มกล่าว

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมาทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา  ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่นายษิทรา ออกมาแฉมีการจ่ายส่วยเว็บพนันออนไลน์ โดยใช้กองบัญชาการ สอท. ซึ่งเป็นสถานที่ราชการเป็นที่รับเงิน โดยจ่ายให้ “ดาบตำรวจ ย.” และ “รอง ฟ.” ว่า แนวทางปฏิบัติของ บช.สอท. เมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกพาดพิง ส่วนที่ 1 จะมีคำสั่งให้มาประจำที่ ศปก.บช.อสท. เป็นแนวทางที่ปฏิบัติมาตั้งแต่ต้น  

ส่วนที่ 2 จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีการพาดพิง บช.สอท.มีการดำเนินทั้ง 2 ส่วนแล้ว ไม่ใช่เพราะส่วนที่ตำรวจ 2 นายของ บช.สอท.ถูกพาดพิง เราตั้งในเรื่องอื่นๆ ด้วย แต่เรื่องที่มีการพาดพิงเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานหลายพื้นที่ เห็นว่าเป็นข้อมูลของปีเก่าๆ ตั้งปี 62 เป็นต้นมา

 “ยุคนี้ไม่ว่าข้าราชการหน่วยไหนล้วนแต่ถูกตรวจสอบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะหน่วยราชการด้วยกันเอง จากบุคคลภายนอก สื่อมวลชน เชื่อว่าการตรวจสอบแบบนี้จะเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต เราเป็นข้าราชการ ก็ต้องพร้อมตรวจสอบ ส่วนมาตรฐาน สอท.ก็ตรวจสอบทั้ง 2 ส่วน เป็นการดีที่หน่วยงานภายนอกมาตรวจข้าราชการภายใน สอท. ระยะเวลาการตรวจสอบได้กำชับให้เร็วที่สุด และรายงานมาให้ทราบเป็นระยะๆ” ผบช.สอท.กล่าว 

'บิ๊กต่อ' ชนะยกแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ศาลอ่านคำพิพากษาในชั้นตรวจฟ้องคดีที่ อท.244/2566 ที่ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. กับชุดพนักงานสอบสวน รวม 244 คน (มี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อยู่ด้วย) เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ, พยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเชื่อว่าได้มีความผิดอาญาอย่างใดเกิดขึ้น หรือเชื่อว่าความผิดอาญาที่เกิดขึ้นร้ายแรงกว่าที่เป็นความจริงฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 157, 162 (4), 179, 200 พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 172

โจทก์ไม่มีข้อเท็จจริงให้เห็นว่า จำเลยที่ 244 ได้ดำเนินการหรือไม่ดำเนินการอย่างใดในหน้าที่ อันจะแสดงให้เห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนข้อกล่าวอ้างอื่นๆ ได้แก่ การค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเหตุให้ไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ดี การโอนคดีไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ก็ดี และการนำพยานหลักฐานเดิมมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ก็ดี ล้วนแต่เป็นเพียงมูลเหตุจูงใจที่ลำพังไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยกับพวกกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง  เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะโฆษกสมาคมฯ พร้อมด้วยนายวัฒนะชัย ยะนินทร อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายสวัสดิการและสมาชิกสัมพันธ์ ยืนยันสมาคมนักข่าวฯ โดยเฉพาะนายวัฒนะชัย ซึ่งมีชื่อย่อ ว.แหวน ที่ถูกทนายแถลงพาดพิงโดยตรง ไม่เคยได้รับผลประโยชน์หรือส่วยจากเครือข่ายพนันออนไลน์ของ “บิ๊กตำรวจ” ตามที่ทนายคนหนึ่งแถลงข่าว

นายวัฒนะชัยกล่าวว่า เพิ่งรับตำแหน่งอุปนายกสมาคมฯ เมื่อ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งกรรมการสมาคมฯ  มีทั้งหมด 14 คน ปรากฏว่าตรวจสอบแล้ว มีตนที่มีชื่อ ว.แหวน เพียงคนเดียว ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอุปนายกสมาคมนักข่าวฯ ที่รับสินบนจากเครือข่ายเว็บพนันตำรวจ ซึ่งไม่เป็นความจริง พร้อมให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน การแถลงข่าวของทนายคนดังกล่าว เชื่อว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรรมการสมาคมฯ ที่ถูกพาดพิงน่าจะเป็นกรรมการชุดเดิมที่เพิ่งหมดวาระไป ซึ่งมีชื่อ ว.แหวน เช่นกัน

ด้านนายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง  โฆษกสมาคมฯ กล่าวว่า สมาคมไม่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินของเครือข่ายเว็บพนัน “บิ๊กตำรวจ” เนื่องจากสมาคมไม่ได้ใช้บัญชีของธนาคารกสิกรไทยในการทำธุรกรรมตามที่ทนายแถลง แต่สมาคมใช้บัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เศรษฐา’ ลุยสวน ชิมทุเรียน 3 สายพันธุ์

เมื่อเวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางด้วยรถยนต์อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร ถึงสวนนวลทองจันทร์ ตำบลมาบไพ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจติดตามการผลิตทุเรียนคุณภาพปลอดภัยมูลค่าสูง และรับฟังปัญหาจากเกษตรกร