เลิกอีแอบผุดกาสิโน เสี่ยนิดแบไต๋ยกศก.สีเทาขึ้นมาบนดิน ภาคปชช.-ก.ก.หวั่นผลกระทบสังคม

“เศรษฐา” ประกาศหนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-กาสิโนถูกกฎหมาย ยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาบนดิน   เพื่อกำกับควบคุม ดีกว่าปล่อยให้เป็นสังคมอีแอบ ด้านเครือข่ายประชาสังคม  16 จว. บุกสภา ยื่นประธาน กมธ.ยกผลสำรวจ ปชช.ยันไม่ต้องการให้ใช้พื้นที่ทำกาสิโน เหตุไม่เชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หวังสภาพิจารณารอบด้าน ขณะที่สภาวุ่นรอบค่ำ! "ก้าวไกล"  เปิดเกมนับองค์ประชุม ขอตีกลับรายงาน  กาสิโนครบวงจร อ้างยังไม่สมบูรณ์-หวั่นจีนเทาเข้าครอบงำ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..... ซึ่งรวมถึงจะมีกาสิโนหรือบ่อนพนันถูกกฎหมายในประเทศไทย กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรว่า ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องกฎหมายกาสิโน แต่ให้มองเป็นเรื่องของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะรวบรวมหลายส่วน และเราทราบกันดีต้องการจะยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาอยู่บนพื้นให้หมด จะได้ควบคุมกำกับดูแลเรื่องความปลอดภัย ความเหมาะสม และเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง ซึ่งตนเห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ส่วนบางฝ่ายเห็นต่างนั้น ก็มีระบบสภาอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นตัวแทนของประชาชน ถึงเวลาที่สังคมเราจะต้องมาดูกัน เรื่องของสังคมอีแอบ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีอยู่แล้ว เอามากำกับดูแลให้เหมาะสมเพื่อฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองจะได้ดูแลให้ถูกต้อง

"มันมีอยู่แล้วทุกวันนี้ต้องยอมรับและเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเราก็ต้องบริหารจัดการไปในระหว่างทาง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ากฎหมายจะผ่านเมื่อไหร่ และจะมาเปิดได้เมื่อไหร่ ก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร แต่ระหว่างนี้ยังไงก็ต้องจัดการกับที่ผิดกฎหมายไป" นายเศรษฐากล่าว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามการกระทำความผิดเพื่อสร้างความสงบสุขในสังคม  ณ ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า คณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมฯ โดยฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด และเปิดปฏิบัติการหลายครั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้รัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคง การจัดระเบียบสังคม การทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คือหัวใจ คือเรื่องสำคัญที่สุด หากทำสำเร็จ ความเรียบร้อยของสังคมเกิดขึ้น แล้วเศรษฐกิจจะตามมาโดยอัตโนมัติ ตนมั่นใจว่าไม่มีช่วงเวลาไหนที่มหาดไทยและตำรวจจะมีความใกล้ชิดกันเท่าตอนนี้

ที่รัฐสภา เครือข่ายภาคประชาสังคม 16 จังหวัด ยื่นหนังสือต่อนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งข้อห่วงใยของประชาชนต่อการเสนอเปิดสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะรองประธาน กมธ. เป็นผู้รับหนังสือ  

โดยตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า พวกตนเคยทำแบบสอบถามถามประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งผลสำรวจพบว่าประชาชนไม่ต้องการให้พื้นที่ของพวกเขาเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน หากมีแหล่งพนันมาอยู่ในพื้นที่ รวมถึงไม่เชื่อว่าประเทศจะได้ผลประโยชน์คุ้มค่า ฉะนั้น จึงเห็นว่าเรื่องนี้ควรต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้ได้ประโยชน์และไม่เกิดโทษตามมา จึงมีข้อเสนอดังนี้ 1.ขอให้ สส.และรัฐบาลคำนึงถึงผลที่จะเกิดตามมาในอนาคต หากตัดสินใจกระทำการโดยขาดความรอบคอบ ขาดการศึกษาอย่างรอบด้านและขาดมาตรการที่รัดกุม การตัดสินใจในครั้งนี้อาจเป็นการสร้างมรดกบาปแก่คนรุ่นหลังที่ต้องอยู่กับสิ่งที่เขาไม่ได้เป็นผู้สร้าง

หวั่นเกิดปัญหาผลกระทบ

2.ขอให้ประธาน กมธ.รายงานความห่วงใยของประชาชน และหวังว่ารัฐบาลจะรับฟังเพื่อแสวงหามาตรการที่นำมาสู่การเกิดความเชื่อมั่นของประชาชน แต่หากไม่สามารถหาแนวทางและวิธีการที่ดีพอได้ ประชาชนก็ไม่อาจเห็นชอบให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้ได้ รวมถึงเครือข่ายภาคประชาสังคมติดตามการดำเนินการของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และ 3.ขอให้สส.และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเปิดพื้นที่ประชาพิจารณ์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกฝ่าย ทั้งจากฝ่ายที่เห็นด้วยและเห็นต่าง มีกระบวนการรับฟังความเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ และขอให้ตัดสินใจอย่างเต็มเปี่ยมด้วยวุฒิภาวะ ไม่คำนึงเพียงผลประโยชน์ระยะสั้นหรือผลประโยชน์เฉพาะบุคคลบางกลุ่ม และขอให้ตระหนักด้วยว่าการเพิ่มแหล่งการพนัน  แม้จะถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็อาจจะตามมาด้วยปัญหาและผลกระทบที่มากเกินกว่าจะประเมินค่าได้

ด้านนายจักรพลกล่าวว่า สถานบันเทิงครบวงจรในนั้นเหมือนบ้านหลังใหญ่  กาสิโนเหมือนเป็นห้องหนึ่งห้องในนั้นโดยในบ้านจะมีองค์ประกอบห้องมากมาย ทั้งศูนย์กีฬา โรงแรม โซนครอบครัว ทั้งนี้ ในแง่ของสภา กมธ.เราพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน ซึ่งเราศึกษากันมาโดยตลอด และในครั้งนี้เรารู้สึกว่า 1.ช่วงเวลาที่เหมาะสมเรื่องเศรษฐกิจที่ต้องการการดีดตัวขึ้น 2.นโยบายของฝ่ายบริหารที่มีความเห็นว่าควรจะเกิดในประเทศไทยได้แล้ว 3.การถอดชุดความคิดที่ได้ศึกษาจากสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ที่เป็นโมเดลหลักว่าเขามีการดูแลพ่อแม่พี่น้อง เศรษฐกิจอย่างไร  นายกฯ และ กมธ.ทุกคนให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และอยากให้มีความมั่นใจว่าเราไม่ได้เอาแค่เศรษฐกิจ แต่คำนึงความสุขของพ่อแม่พี่น้องด้วย อัตราการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการต่อยอดต่างๆ ในชุมชน จะไม่ทิ้งใครไว้ให้ลำบากและเจอผลกระทบ ขอให้สบายใจ

เมื่อเวลา 14.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเสร็จแล้ว

ทั้งนี้ สมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายเห็นด้วย แต่ยังมีสมาชิกบางส่วน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ยังเห็นว่ารายงานฉบับนี้ยังไม่สมบูรณ์ โดยเสนอแนะให้มีมาตรการควบคุมป้องกันการพนันใต้ดิน การฟอกเงิน หรือทุนสีเทาจากต่างชาติเข้ามาครอบงำ นอกจากนี้ยังเสนอให้นำกีฬาพื้นบ้าน อาทิ ไก่ชน วัวชน เข้ามาพิจารณาใส่ในการพิจารณาศึกษาสถานบันเทิงครบวงจรด้วย

ศูนย์รวมจีนเทาแห่งใหม่

โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายตอนหนึ่งว่า มีการพูดคุยกันในรายงานนี้ บอกว่าจังหวัดที่มีศักยภาพมี 44 จังหวัด แต่พูดตามตรงที่ท่านตกลงกันด้านหลังว่า อู่ตะเภาคือที่แรกที่จะทำ รวมถึงเซ็นสัญญาไปแล้ว แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นความโปร่งใสอยู่ตรงไหน  เท่ากับว่าท่านล็อกไว้แล้วว่ากาสิโนจะอยู่ภายใต้การดูแลของใคร ตนได้พยายามเช็ก พยายามเช็กอีเมล ได้มีต่างชาติส่งรายงานของยูเอ็นที่กังวลต่อการผลักดันเรื่องนี้ เพราะเขากลัวว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์รวมจีนเทาแห่งใหม่ที่อาจเกิดได้

“เราทำในเรื่องการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์เศรษฐกิจประเทศ แต่ผลออกมาเน้นแต่ด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ด้านกฎหมายไม่มีเลย ถ้าไปอ่านรายงานโดยละเอียด เมื่อถามว่าจะแก้พนันผิดกฎหมายอย่างไร สรุปแก้ไม่ได้ ให้เป็นเรื่องของตำรวจ แล้วที่เรารับอาณัติจากสภาที่ต้องประชุม กมธ. แล้วเราจะได้อะไรกลับมา ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้คัดค้านการมีกาสิโนในไทย แต่ทำแล้วต้องทำให้มันดี ทำแล้วต้องแก้ปัญหาการฟอกเงิน ไม่สร้างปัญหาใหม่ นี่คือที่เราต้องการ ก็ขอฝากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ให้เอารายงานฉบับนี้กลับไปทำมาใหม่” นายรังสิมันต์กล่าว

จากนั้นในเวลา 18.30 น. ก่อนที่จะมีการลงมติในรายงานฯ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นหารือขอเสนอให้มีการนับองค์ประชุม โดยให้เหตุผลว่าอยากเห็นความมุ่งมั่นจากฝ่ายรัฐบาลในเรื่องนี้

ทำให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล ลุกขึ้นชี้แจงว่า ได้คุยกับวิปทั้ง  2 ฝ่าย ว่าจะจบการประชุมด้วยความร่วมมือด้วยดี ดังนั้นรายงานฉบับนี้ ข้อคิดเห็น ติชม เชื่อว่า กมธ.จะนำสิ่งนี้มารวมเล่มอยู่ในรายงานด้วย ที่ผ่านมาเราให้เกียรติกันว่าสมาชิกตั้งใจทำรายงานขึ้นมา แต่ถ้านายชุติพงศ์เล่นเกมแบบนี้ ในอนาคตถ้าเป็นรายงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตนจะไม่รับสักเล่ม

ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล  สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า เราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่การที่นายชุติพงศ์เสนอแบบนี้ ทำให้ข้อตกลงของวิปทั้ง 2 ฝ่ายไม่ศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่ ดังนั้นหมายความว่าในสัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายตามมาตรา 152 ซึ่งข้อตกลงของวิปฯ ให้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาล เพื่ออะลุ่มอล่วยกัน ถ้าไม่ตกลงตามข้อตกลงของวิปทั้ง 2 ฝ่าย เรื่องเวลาตนขอไม่เป็นตามเดิมแล้ว เรามาแบ่งเวลาในการอภิปรายมาตรา 152 กันใหม่ สัปดาห์หน้าตนขอนับองค์ประชุมบ้างได้หรือไม่ ถ้าทำกันแบบนี้

ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หากสัปดาห์หน้าอยากจะหนีการตรวจสอบโดยการให้มีการนับองค์ประชุมก็ลองดู

นายชุติพงศ์ลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้งว่า ไม่ได้พลิกมติวิปทั้ง 2 ฝ่าย แต่เราอยากให้กมธ.ถอนรายงานกลับไปพิจารณาอีกครั้ง เพื่อนำกลับเข้ามาพิจารณาใหม่ ยืนยันว่าพร้อมจะลงมติให้อยู่แล้ว

แต่วิปทั้ง 2 ฝ่ายยังถกเถียงจนยังไม่ได้ข้อตกลง จนกระทั่งนายอรรถกรลุกขึ้นเสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ จะได้รู้กันไปเลยว่าในวันนี้ (28 มี.ค.) มีใครมาเข้าประชุมบ้าง

กระทั่งนายพิเชษฐ์ประธานที่ประชุม วินิจฉัยว่า ขอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ และได้เริ่มนับองค์ประชุมในเวลา 19.00 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เศรษฐา’ ลุยสวน ชิมทุเรียน 3 สายพันธุ์

เมื่อเวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางด้วยรถยนต์อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร ถึงสวนนวลทองจันทร์ ตำบลมาบไพ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจติดตามการผลิตทุเรียนคุณภาพปลอดภัยมูลค่าสูง และรับฟังปัญหาจากเกษตรกร