อํ้าอึ้ง!ปชป.ไม่กั๊ก ยันซักฟอกใส่เต็มแต่รัฐบาลวันข้างหน้าอีกเรื่อง

ชลบุรี ๐ ประชาธิปัตย์ให้ "จุรินทร์" นำทีมซักฟอกรัฐบาล แต่ "เฉลิมชัย" อ้ำอึ้งลาก "ทักษิณ" เข้าสภา เผยแค่อภิปรายถึงกระบวนการยุติธรรม ยันเป็นฝ่ายค้านไม่มีกั๊ก ส่วนวันข้างหน้ารัฐบาลจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ "ชัยชนะ" พูดแปลกๆ สว.ลากไส้ "แม้ว" ไปแล้ว รมว.ยุติธรรมก็ตอบไปแล้ว ต้องมาดูมีประเด็นอะไรที่ตกค้าง

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ที่โรงแรมเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี นายเฉลิมชัย​ ศรี​อ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ว่า ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้โทรศัพท์ยกหูโทร.หาเพื่อล็อบบี้เรื่องอภิปราย แต่ตนเห็นว่านักการเมืองพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ ยืนยันได้ว่าไม่มีการคุยเรื่องการเมือง และไม่มีการขอว่าอย่าอภิปรายพาดพิงถึงนายทักษิณ เพราะเราก็รู้ว่าเราควรจะทำอะไร ขอกันไม่ได้อยู่แล้ว อีกทั้งเรารู้ว่าเราจะพูดอะไร ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์บอกแล้วว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่สมบูรณ์และเข้มแข็ง ฉะนั้นเขาไม่ขออยู่แล้ว

นายเฉลิมชัย​เผยว่า อยากให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำงานด้วยความน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีอะไรก็มาพูดคุยกัน และอีกไม่กี่วันจะมีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ก็จะมาพูดคุย เพื่อให้ กก.บห.ได้รับทราบ และกำหนดประเด็นในการอภิปราย ขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ไม่ต้องห่วง ไม่มีกั๊กแน่นอน ส่วนวันข้างหน้ารัฐบาลจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้จริง ตอนนี้เดาถูกเดาผิดกันไป​ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน​ และวันข้างหน้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ถามว่า มีการเตรียมผู้อภิปรายครั้งนี้ไว้อย่างไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่า​ มีหลายคนที่จะอภิปราย โดยมีนายจุรินทร์​ ลักษณ​วิศิษฏ์​ สส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรค เป็นผู้นำการอภิปราย และจะมี สส.รุ่นใหม่มาร่วมอภิปราย โดยพรรคจะทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลและพรรคฝ่ายค้านอื่น พร้อมทั้งขอบอกประชาชนให้ติดตามว่าครั้งนี้พรรคทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่รักษาผลประโยชน์ของพรรค

ส่วนมีข้อมูลเรื่องทุจริต​ ถึงขั้นสามารถอภิปรายในมาตรา 151 ได้หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า  ​พรรคมีเสียงไม่ถึงที่จะยื่นอภิปรายได้  และครั้งนี้เป็นการอภิปรายตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติ พรรคก็จะดูการกระทำของรัฐบาลที่ผ่านมา และมีข้อเสนอแนะท้วงติงเพื่อรอเตรียมอภิปรายตามมาตรา 151 ในวันข้างหน้าหากมีโอกาส

เมื่อถามย้ำว่า เริ่มมีข้อมูลเรื่องความไม่โปร่งใสแล้วใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย​ กล่าวว่า ขอให้รอดูแล้วกัน​

ส่วนการอภิปรายจะมีเรื่องของนายทักษิณหรือไม่ นายเฉลิมชัยชี้แจงว่า เรื่องของนายทักษิณ​เราจะไม่พูดถึงตรงนั้น​ แต่จะพูดถึงเรื่องของกระบวนการยุติธรรม​ ขอบอกไว้แค่นี้แล้วกัน ดังนั้นจะมาบอกว่าพาดพิงนายทักษิณ​หรือไม่ มันพูดยาก ขอให้รอดูในสภาจะดีกว่า เพราะเรื่องของกระบวนการยุติธรรมก็ต้องเกี่ยวข้องกันบ้าง

นายชัยชนะ​ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้​ กล่าวถึงการอภิปรายเรื่องนายทักษิณว่า ขอให้รอดู ซึ่ง สว.ได้ถามไปแล้วในบางคำถาม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ตอบไปแล้ว ดังนั้นต้องมาวิเคราะห์ดูว่ามีประเด็นอะไรที่ตกค้างอยู่ ดังนั้นขอให้รอติดตามในวันอภิปรายดีกว่า

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการอภิปรายโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันที่ 3-4 เม.ย. ที่อาจจะมีการอภิปรายพาดพิงถึงนายทักษิณว่า ไม่ห่วงอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร และตอบได้อยู่แล้ว ซึ่งตนให้ข้อมูลที่จำเป็นกับ สส.ไว้อยู่แล้ว

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วิปฝ่ายค้านยังไม่ต้องร้อนรนไปก่อน เพราะในส่วนของวิปรัฐบาลยังไม่ได้มีการหารือกันในเรื่องนี้ ส่วนการอภิปรายในสภาตอบโต้จากฟากฝั่งรัฐบาลในสภานั้น ไม่ได้มาจากความโกรธที่นับองค์ประชุม เพราะการลงมติในคราวนั้น รัฐบาลก็มีองค์ประชุมเพียงพอจนสามารถรับรองรายงานการศึกษาได้ในที่สุด แต่มาจากความไม่สบายใจที่มีการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างวิป จึงต้องแสดงความกังวลให้เห็นว่า หากฝ่ายค้านเลือกทำกันเช่นนี้ ในอนาคตจะเชื่อใจข้อตกลงระหว่างกันได้อย่างไร

นายชนินทร์กล่าวว่า ส่วนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้  ส่วนตัวไม่มีความกังวล และมั่นใจว่าคณะรัฐมนตรีทุกท่านชี้แจงการทำงานของตนเองได้ เพราะเพียงเวลาไม่ถึง 10 เดือน ที่ทางสมาชิกฝ่ายค้านเคยอ้างว่าประเทศรอได้นั้น รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ได้อย่างมาก ทั้งในเรื่องของการฟื้นความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ การลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ลดหนี้เกษตรกรและเพิ่มรายได้ผ่านการปรับขึ้นของราคาผลผลิตทางการเกษตร เพิ่มรายได้ให้กับประเทศผ่านการเปิดประตูการท่องเที่ยว ดึงดูดมหกรรมระดับโลก ยกระดับสินค้าไทย เดินสายเจรจาเพื่อเปิดประตูการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติ จนนำมาซึ่งมูลค่าการส่งออกที่เติบโตทุกไตรมาส ตัวเลขการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น และข้อตกลงทางการค้าหรือ FTA กับศรีลังกาที่จบลงได้อย่างรวดเร็ว

"การทำงานของรัฐบาล เรามุ่งเน้นที่จะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเอาผลงานเป็นที่ตั้ง รัฐบาลพร้อมชี้แจงและรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย ขอเพียงฝ่ายค้านอภิปรายให้อยู่ในประเด็น ไม่พาดพิงบุคคลภายนอกที่ไม่มีสิทธิ์ชี้แจงในสภา หรือมุ่งเน้นแต่สร้างวาทกรรมที่ไม่สร้างสรรค์ ผมเชื่อว่าการอภิปรายในครั้งนี้จะราบรื่น และเกิดประโยชน์กับการบริหารประเทศอย่างแท้จริง" นายชนินทร์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง